สังคม

ตํารวจนําตัวมือตบทนายฟ้องศาล ส่วนทนายคู่กรณียันไม่ยอมความ เรียกค่าเสียหายหลักแสน เชื่อมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง

โดย gamonthip_s

2 พ.ย. 2567

473 views

วันนี้ (2 พ.ย. 67) พนักงานสอบสวนเปิดเผยถึงเหตุบุกทําร้ายทนายธรรมราชที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางว่า เบื้องต้นตํารวจได้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันทําร้ายร่างกาย” ซึ่งนายเต้ย ยอมรับว่า “ตบจริง” ภายหลังสอบปากคําเสร็จ นายเต้ยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินจํานวน 45,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวพร้อมนัดส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือในวันนี้ เวลา 09.00 น. ส่วนนายพี ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย เบื้องต้นปฏิเสธข้อกล่าวหา จึงมีความเห็นทางคดีส่งอัยการในช่วงปลายเดือนนี้



ด้าน นายเต้ย มือตบทนายธรรมราช ยอมรัมว่า ก่อเหตุจริงอ้างว่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากตนเห็นทนายโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ “อิสลามขี่หมู” แต่เมื่อมารับฟังแล้วพบว่าพูดไม่ตรงประเด็น จึงบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนนับถือศาสนาพุทธ แต่เติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่มีเพื่อนฝูงและคนรอบข้างเป็นชาวอิสลาม โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนและไม่มีใครว่าจ้าง ส่วนชายอีกที่ถูกกล่าวหานั้นยอมรับว่าเป็นเพื่อนตัวเอง อย่างไรก็ตามรายละเอียดทางคดีตนไม่ทราบเพราะไม่เคยต้องคดีลักษณะนี้มาก่อน ส่วนการประกันตัวเพื่อนได้ช่วยกันลงขันนํามายื่นประกัน เพราะไม่อยากให้ตนนอนห้องขัง หลังจากนี้สามารถพูดคุยกับทนายธรรมราชได้ ส่วนทางกฎหมายหากทนายจะฟ้องกลับตนก็ยินดีเพราะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น



สําหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้ทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งออกมาห้ามไม่ให้มีการแถลงข่าวในพื้นที่ดังกล่าวอีกนั้น นายเต้ย ได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชนและสถานที่ราชการที่ทําให้ต้องได้รับความเดือดร้อน



ต่อมาทนายธรรมราชได้เดินทางมายังศาลแขวงพระนครเหนือ พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองมาในฐานะโจทย์ร่วมเพื่อดําเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสันนิษฐานว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่อนอน เพราะตนและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก่อเหตุขึ้น เพื่อหวังจะดับแสงของตนเอง ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าตนไปดูหมิ่นศาสนาอิสลามนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งผู้ต้องหาฟังรายละเอียดไม่ครบถ้วนจึงเกิดความเข้าใจผิด โดยตนพูดตามข้อเท็จจริงและข้อบังคับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม



เมื่อถามถึงความรู้สึกวินาทีถูกบุกทําร้าย ทนายธรรมราช ยอมรับว่า ไม่ทันได้ตั้งตัวจนเกิดอาการวูบก่อนจะรู้สึกตัวตอนล้มถึงพื้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาในอาชีพทนายความ ตนเคยถูกขู่ทําร้ายมาก่อน แต่ครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงจึงจําเป็นต้องซื้ออาวุธปืนจากสวัดิการของสภาทนายความฯ เพื่อใช้ป้องกันตัวเอง



ในส่วนของการดําเนินคดีทนายธรรมราช ยืนยันว่า จะดําเนินคดีจนถึงที่สุด ส่วนจะสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่นั้นตนยินดีแต่ทางกฎหมายตนจะยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายหลักแสน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณอวัยวะสําคัญ และต้องใช้เวลาในการรักษาไม่ตํ่ากว่า 20 วัน ทั้งนี้ตนเองตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดผู้ต้องหาจึงรีบรับสารภาพ และรีบสั่งฟ้องทันที ควรจะต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรก่อนหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ