'ภูมิธรรม' ลั่นเตรียมเช็กบิล โฆษกพปชร. กล่าวหา พท. โยงคดีดิไอคอน

ความเคลื่อนไหวคดีดิไอคอน วันนี้ทนายความของบอสพอล ให้ภาษณ์กรณีที่มีการเปิดเผยเส้นเงินจำนวน 2 ล้าน 5 เเสนบาท ที่บอสพอลโอนให้แม่นักการเมืองคนหนึ่ง โดยย้ำว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินทำบุญ เเละขอว่าอย่าโยงคดีนี้ไปเกี่ยวกับการเมือง ขณะที่วันพรุ่งนี้จะเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายเอกภพ สายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ในข้อหาหมิ่นประมาท



ช่วงเช้าวันนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ"บอสพอล" เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมและหารือเรื่องการต่อสู้คดีกับลูกความ โดยก่อนจะเข้าไป นายวิฑูรย์ให้สัมภาษณ์กรณีที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐออกมาแถลงว่า มีคนในพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน โดยนายวิฑูรย์ ยืนยันว่า ไม่มีและมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความพยายาม ที่ทำให้เรื่อง "ดิไอคอน" เป็นประเด็นทางการเมือง และเป็นองค์กรอาชญากรรม



ส่วนที่ DSI พบข้อมูลเส้นทางการเงิน ว่าบอสพอลโอนเงินจำนวน 2 ล้าน 5 เเสนบาท ตั้งแต่ปี 2564 โดยโอนเดือนละ 1 แสนบาท บางเดือน 4-5 แสนไปที่บัญชีของ"แม่นักการเมือง ส." ประเด็นนี้นายวิฑูรย์ บอกว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ที่รับข้อมูลทราบว่าส่วนใหญ่ เป็นเพียงเงินโอนไปร่วมทำบุญ เเละที่ต้องโอนไปที่บัญชีของแม่นักการเมือง ส. เพราะแม่ของบุคคลรายนี้ทำบุญทุกเดือนไม่ได้มีอะไรพิเศษ และทั้งสองคนรู้จักและสนิทกัน เพราะบอสพอลนับถือเป็นแม่และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคลิปเสียงก่อนหน้านี้ แต่หาก DSI ติดใจ เรื่องนี้ ก็มาสอบถามรายละเอียดได้



จากนั้น 14.30 น. นายวิฑูรย์ ออกมาจากเรือนจำ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกครั้ง โดยบอกว่า บอสพอลบอกให้เขาไปดำเนินการ 2 เรื่องในวันพรุ่งนี้ คือ การนำพยานฝ่ายตนเองกว่า 2,000 คน ไปให้ปากคำที่ DSI และจะขอให้ DSI ออกหมายเรียกสมาชิกดิไอคอนกว่า 2 แสนคนที่ไม่ได้ไปแจ้งความ เข้ามาให้ปากคำ



ประเด็นที่ 2 คือการการดำเนินคดีกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ และพยานเท็จ และยังบอกอีกว่า เขาได้ฟังเสียงของพยานเท็จคนดังกล่าวแล้ว ก็ตกใจมากที่มีการนัดแนะเเละเตี๊ยมคำให้การ และไม่เข้าใจว่าทำไมนายเอกภพถึงทำแบบนั้น จากนี้จะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท



นายวิฑูรย์ ยังบอกอีกว่า แนวทางการทำคดีไม่ได้ทำเอากระแสสังคม และที่หลายคนมองว่าเป็นการข่มขู่ผู้ที่มาแจ้งความหรือไม่นั้น นายวิฑูรย์บอกว่า ไม่ได้ข่มขู่ ถ้าเป็นการข่มขู่ต้องเป็นการขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือทำให้เสียชื่อเสียง สิ่งที่พูดว่าจะแจ้งความก็เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายตามปกติ และเมื่อถามว่าจะดำเนินคดีกับทนายดังตอนนี้หรือไม่ นายวิฑูรย์บอกสั้น ๆ ว่า ขอพักไว้ก่อน



ประเด็นดิไอคอน ตอนนี้ลามไปถึงการเมือง หลังโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาเปิดชื่อย่อ ระบุว่าเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเเละเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้



ล่าสุด นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เตรียมพิจารณาดำเนินคดี พลตำรวจโท​ปิยะ​ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวหาพาดพิงบุคคลภายในพรรคเกี่ยวข้องกับคดี​ดิ​ไอคอน​กรุ๊ป​ โดยบอกว่า​ ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย​คงต้องพิจารณา​ เพราะช่วงนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ แบบไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง และหลายเรื่องเข้าข่ายลักษณะให้ร้ายป้ายสี หากเกิดความเสียหายก็ต้องฟ้องร้องกัน เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เพราะเวลานี้คนที่หยิบเรื่องมาสร้างประเด็น โดยไม่มีฐานข้อเท็จจริง และหลายเรื่องยิ่งกว่าจินตนาการ ดังนั้นหากมีหลักฐาน ให้เอ่ยชื่อผู้เกี่ยวข้องมาเลย เพราะดูแล้วที่เปิดเผยเป็นอักษรย่อ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่ก็มีบางคนที่ได้มีการชี้แจงไปแล้ว เช่น​ อักษรย่อ​ ม. ซึ่งคุณมนพร​ เจริญศรี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม​ ชี้แจงไปแล้วว่า ดำเนินการตามหน้าที่​ หรืออีกคนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ลาออกไปนานแล้ว​ เอามาโยงกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ จึงขอว่า "อย่าเอาทุกอย่างเป็นการเมือง และไม่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นของตัวเองหรือไม่"



ส่วนที่มีการพูดถึงกลุ่มสามมิตร ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับนักการเมืองอักษรย่อส. นายภูมิธรรม บอกว่าไม่ทราบ ขอให้ไปว่ากันเอง เกี่ยวข้องกับใครก็ชี้แจงเอง แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง



ขณะที่การประชุมคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน โดยมีวาระเกี่ยวกับคดี The Icon และได้มีการเชิญ ผู้เกี่ยวข้อง จากหลายหน่วยงาน ทั้งปปง. สคบ., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งนี้ ยังมีนายไผ่ ลิกค์ สส.พรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมสังเกตการณ์ในฐานะผู้ที่เสนอเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการด้วย



หลังประชุมนานกว่า​ 2 ชั่วโมง​ นางบุญยิ่ง​และ นายไผ่​ กล่าว​ว่า​ ในฐานะผู้ร้อง​ ได้เข้าไปสักถามทางผู้ที่มาชี้แจง​ โดยได้สอบถามเรื่องคลิปต่างๆที่มีการพาดพิง​ ถึง DSI รวมไปถึงเรื่องที่ DSI บุกจับนาฬิกาปลอมของบอส​ ดิไอคอน​ มีขั้นตอนการรับเรื่องอย่างไร​ เหตุใดผู้แจ้งเบาะแสถึงโทรหา DSI​ ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า​ ผู้แจ้ง​บอกว่าเป็นของบอสอ๊อฟ​ แต่ส่วนตัวมองว่า​ ไม่น่าใช่​ แต่ DSI ก็รับปากว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง



ส่วนที่มีการโอนคดีให้ DSI แต่ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของ DSI​ นั้น​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ DSI จำเป็นต้องทำ​ เพราะถ้าไม่ทำ​ ก็เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่​ ซึ่งได้ฝาก DSI กรณีที่มีคลิปออกมา เพราะคิดว่าเป็นการแอบอ้าง



เมื่อถามในฐานะ​ สส.มีความเห็นอย่างไรกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า​ บอสพอล​ จะหลุดคดี​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ ไม่สามารถจะไปตัดสินแทนศาลได้​ แต่พวกที่ถูกแอบอ้างจากคนๆหนึ่ง​ เนื่องจากเป็นคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคที่ถูกแอบอ้าง​ ทำให้ได้รับความเสียหาย อย่างหนักจากคลิปนักการเมือง​ ส.​ จากนี้จะเกาะติด​ อะไรที่เห็นได้ฝากเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งหมดแล้ว​ พร้อมได้ฝาก​ ปปง.​ไปแล้ว​ ให้ตรวจเส้นทางการเงินทุกคน



ขณะที่นางบุญยิ่ง​ กล่าวเสริมว่าการปล่อยอักษรย่อออกมา​ เป็นการสร้างตัวละครขึ้นมา ทำให้สังคมสับสน อยากให้ DSI ดำเนินการ ก่อนที่นายไผ่​ จะทิ้งท้าย​ว่า​ การอ้างอักษรย่อเป็นเรื่องเลอะเทอะ​