วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เหล่ากลุ่มนักปั่นจักรยานกว่า 30 คัน ที่ได้ปั่นออกจาก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยวันนี้ทางกลุ่มจะตั้งใจปั่นไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ได้รวมตัวที่บริเวณมัสยิดกลางปัตตานี พร้อมชูป้ายเรียกร้องความยุติธรรมกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตค. 2547 รวมไปถึงนำภาพผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีตากใบพร้อมข้อความต่าง ๆ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 20 ปีของเหตุการณ์สลายการชุมนุมตากใบและเป็นวันครบกำหนดหมดอายุความอีกด้วย อีกทั้งในกิจกรรมนี้ได้มี “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้เข้าร่วมปั่นจักรยานในวันนี้ด้วย
โดยกลุ่มนักปั่นใช้เวลาปั่นจากมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร ใช้เวลาปั่นประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ และเมื่อมาถึง ก็ได้รวมตัวกันจอดจักรยานบริเวณหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ก่อนที่จะกล่าวจุดประสงค์กิจกรรมในวันนี้ และการแสดงป้ายผ้าที่ระบุข้อความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตากใบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ได้อำนวยความสะดวกในการจราจรรถที่สัญจรไปมา และทางกรมทหารพรานที่ 43 ได้มอบน้ำเย็นให้กับกลุ่มนักปั่นที่เดินทางมาถึงอีกด้วย
นส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนชอบกิจกรรมนี้มาก เพราะเราปั่นเพื่อเรียกร้องออกซิเจนให้กับผู้คนที่อยู่บนรถในเหตุการณ์เสียชีวิตในครั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่แค่เรียกร้องให้กับผู้สูญเสียและญาติเท่านั้น แต่เรียกร้องไปถึงชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย ซึ่งตนตั้งใจจะปั่นไปจนถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร และหลังจากนั้นตั้งใจไปเจอกับญาติผู้สูญเสียต่อไป
นายอานัส พงค์ประเสริฐ ตัวแทนกลุ่มนักปั่น กล่าวว่า เราได้ปั่น จาก อ.ตากใบมาถึงค่าย 145 กิโลเมตรเพื่อแสดงออกและรำลึกถึงเหตุการณ์ที่พี่น้องเราเสียชีวิตจากการขนย้ายตัวจาก อ.ตากใบมายังค่าย ซึ่งวันที่เกิดเหตุการณ์เป็นวันละศีลอด พี่น้องที่อยู่ในรถไม่มีแม้กระทั่งอินทผาลัมและน้ำเพื่อออกบวชละศีลอด สุดท้ายต้องเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน
และสิ่งสำคัญในวันนี้เราพยายามสื่อสารคนใหม่ ๆ ที่ยังเกิดไม่ทันในเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ให้ได้รับรู้ ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เองยังเป็นแผลที่เกาะกินหัวใจคนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งช่วงบ่ายเราก็จะมีกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์และเคาท์ดาวน์เผื่อเฝ้าติดตามว่าผู้ต้องหาที่โดนหมายจะเข้ามามอบตัวหรือไม่ ซึ่งทางเราจะเฝ้ารอจนถึงเที่ยงคืนของวันนี้
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นวันสุดท้ายที่ศาล จ.นราธิวาส ได้ออกหมายจับจำเลย 6 คน และหมายเรียกอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นวันหมดอายุความครบ 20 ปี ที่จำเลยทั้ง 7 หลบหนีหมายจับ และชาวบ้านที่ยื่นฟ้องทั้งหมดได้มีการเรียกร้องให้เข้ามอบตัวสู้คดี และในวันที่ 28 ต.ค.67 ศาล จ.นราธิวาส จะมีการจำหน่ายคดีนั้น
ซึ่งความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.นราธิวาส ตลอดทั้งวันในวันนี้ ก่อนที่คดีนี้จะหมดอายุความในเวลาเที่ยงคืนนี้ จากการตระเวนตรวจสอบความเคลื่อนไหว พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านและเครือญาติที่เป็นโจทก์ฟ้อง จำเลยทั้ง 7 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 1.พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยที่ 3 พลเอกเฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส จำเลยที่ 4 พลตำรวจเอกวงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จำเลยที่ 5 พลตำรวจโทมาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 จำเลยที่ 6 พลตำรวจตรีศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ซึ่งเมื่อเวลา 10.00 น. ได้มีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จำนวนกว่า 150 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่อนุสรณ์สถานกูโบร์บ้านตาโละมาเนาะ ม.1 ต.ตาโละมาเนาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสุสานของผู้เสียชีวิตที่พิสูจน์ตัวตนไม่ได้ ซึ่งยังมีอีก ประมาณ 22 คน และญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 85 คน ได้มาร่วมละหมาดฮายัตและอ่านอัลกุรอาน เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในโอกาสที่ครบรอบ 20 ปีในวันนี้ ญาติยังมีความหวังที่จะได้รับความยุติธรรมอยู่
ด้านนายมูฮัมหมัดซาวาวี หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางไปรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ที่อนุสรณ์สถานกูโบร์บ้านตาโละมาเนาะ เปิดเผยว่า ส่วนในเรื่องของคดีก็ถ้าจะพูดถึงความรู้สึก ก็หาผู้กระทำผิดไม่ได้ ชาวบ้านก็รู้สึกผิดหวังในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีคนกระทำความผิดแล้วศาลออกหมายจับไปแล้ว แต่ด้วยเพราะอายุความที่เหลือจะหมดอายุความในวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับจำเลยได้
ทำให้รู้สึกว่าภาครัฐไม่ได้อำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นจริงในการปฏิบัติหน้าที่ การสลายการชุมนุมเหตุการณ์ตากใบที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ญาติผู้เสียชีวิตรอคอยความยุติธรรมในกระบวนการเป็นโจทก์ฟ้องในคดีดังกล่าว แต่ในทางกลับกันเจ้าหน้าที่เองหลังจากที่ศาลออกหมายเรียกและออกหมายจับแต่ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผิดถูกหรือไม่
ในส่วนของ พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ ก็ยังคงลงพื้นที่ต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจกับผู้นำศาสนาและชาวบ้าน ซึ่งในวันนี้ได้เดินทางมาร่วมละหมาด ที่มัสยิดอุลลียะห์ บ้านปูลานิบง ม.2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ เพื่อถือโอกาสสร้างความเข้าใจกับมวลชน ในเรื่องราวข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.47 ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มมวลชนส่วนใหญ่ได้ทราบข่าวสารจากการบอกเล่าหรือพูดต่อ ๆ กันไปจากปากต่อปาก ที่มีข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน มีความสุ่มเสี่ยงที่กลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง นำไปประเด็นในการเคลื่อนไหวบิดเบี่ยงและใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐได้
เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม พ.ต.อ.ศุภชัช ผกก.สภ.ตากใบ จึงได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับมวลชนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ามีผลบรรลุตามเป้าหมายที่กลุ่มสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่สามารถนำไปเป็นประเด็นเคลื่อนไหวบิดเบือนได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนบรรยากาศโดยรวมในพื้นที่ อ.ตากใบ จากการตระเวนสำรวจ พบว่า ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ ชาวบ้านทั้งไทยและมาเลเซียยังคงเดินทางไปมาหาสู่ทำการค้าระหว่างซึ่งกันและกันตามปกติ ส่วนจุดเกิดเหตุหน้า สภ.ตากใบ และหน้าที่ว่าการ อ.ตากใบ ซึ่งปลูกสร้างติดกัน ก็มีบรรยากาศทั่วไป ๆ เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ คาดเดาผิดพลาดคิดว่าในวันนี้จะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก เดินทางมาชุมนุมในการเรียกร้องความยุติธรรม ที่คดีความจะหมดอายุในเที่ยงคืนของวันนี้