ตำรวจภูธรภาค 1 ขยายผลจับกุมยาเสพติดกว่า 10 ล้านเม็ด พร้อมยึดอาวุธสงครามอื้อ

วันที่ 27 กันยายน 2567 พ.ต.อ.เกษดา รัชรานนท์ รอง.ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จังหวัดสระบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี และเจ้าหน้าที่ทหารสืบทราบว่า มีการพักยาเสพติดไว้ที่โกดังในพื้นที่ ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงเข้าทำการตรวจค้นจนสามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวน 1,800,000 เม็ด พร้อมควบคุมตัวนายนิรุจน์ หรือบอล อายุ 29 ปีผู้ต้องหา ซึ่งทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคเหนือแล้วนำมาเก็บไว้

โดยจะมีนายจิรวัฒน์ หรือแจ็ค อายุ 40 ปี ทำหน้าที่เป็นต้นทางคอยสังเกตเจ้าหน้าที่ก่อนจะนำยาเสพติดออกส่งให้ลูกค้า ซึ่งทั้ง 2 คน อยู่ในแก๊ง “วัยรุ่นสร้างตัววังน้อย” จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลการจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้จนสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดทางภาคเหนือที่จะถูกน้ำท่วมเสียหายมาพักยังในพื้นที่บ้านเช่าที่อยู่ใน ซอยราชพฤกษ์ 3 ถ.พหลโยธิน ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี โดยมีนายนิรุจน์ เป็นผู้ไปรับยามาจากทางภาคเหนือ เพื่อมาพักในพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน นายนิรุจน์ และ นายจิรวัฒน์ ได้มาที่บ้านเช่าที่ใช้พักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตน และเข้าตรวจค้นภายในบ้าน

ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 10,790,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถที่ผู้ต้องหาใช้ลำเลียงยาเสพติด และภายในบ้านเช่าที่เป็นจุดพักยาเสพติด ซึ่งสภาพพลาสติกที่ห่อหุ้มเปื้อนโคลนเต็มไปหมด ซึ่งยาเสพติดของกลาง หากถูกนำออกชายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวตัวนายนิรุจน์ และ นายจิรวัฒน์ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จำนวน 1 คัน ที่นายนิรุจน์ ใช้รับ-ส่งยาเสพติด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน ที่นายจิรวัฒน์ ใช้ขับดูต้นทาง ก่อนนำยาเสพติดส่งให้ลูกค้า

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท เพื่อดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป

อีกคดีคือการจับผู้ค้ายาเสพติดพร้อมขยายผลยึด อาวุธสงคราม 88 รายการ โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมนายสมพงษ์หรือเอ็ม ที่หอพักแห่งหนึ่งในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี พร้อมตรวจยึดยาบ้าได้ กว่า 1 พันเม็ด จากนั้นจึงขยายผลมาตรวจค้นบ้านพักของนาย สมพงษ์ ที่จังหวัดสระบุรี และสามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้อีกหลายรายการ ซึ่งนายสมพงษ์ซื้ออาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้มาจากนายอภิเชษฐ์หรือหมู ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับจนสามารถติดตามจับกุมนายอภิชาติ ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว สามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้เพิ่มเติมหลายรายการ เช่น ปืนยิงจรวดอาร์พีจี 2, อาวุธปืนเล็กยาวเอเค 47 พร้อมแมกกาซีน



พร้อมดำเนินคดีกับนายสมพงษ์ ในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย


ส่วนนายอภิเชษฐ์นั้น ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย


จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ


ด้าน พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อาวุธสงครามที่สามารถตรวจยึดได้ หลังจากนี้จะมีการสืบสวนขยายผล ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าการค้าอาวุธสงครามมีการส่งต่อไปจำหน่ายหรือแลกเปลี่ยนให้กับชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่วนนี้ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากยังอยู่ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผล