เลือกตั้งและการเมือง

ครอบครัวผู้เสียชีวิต 'คดีตากใบ' หวัง 7 จำเลยไปศาลพรุ่งนี้ ก่อนหมดอายุความ ด้าน 'รอมฎอน' จี้ส่งตัว 'พิศาล'

โดย panwilai_c

11 ก.ย. 2567

181 views

ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ตากใบ เมื่อปี 2547 และเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดนราธิวาส คาดหวังว่า จำเลย 7 คน ที่ศาลรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา และนัดสอบคำให้การในวันพรุ่งนี้ 12 กันยายน จะเดินทางมาปรากฏตัวต่อศาล เพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปโดยไม่หมดอายุความ ขณะที่ สส.พรรคประชาชน เรียกร้องให้ สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในจำเลย แสดงสปิริตมาปรากฏตัวต่อศาล เพื่อแสดงความจริงใจต่อกระบวนการยุติธรรม



ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ยืนรำลึกให้ผู้เสียชีวิต 23 ราย ที่ถูกนำมาฝังไว้ที่กูโบร์ ใกล้มัสยิดตาโละมาเนาะ อ.บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จากจำนวน 85 ราย มีจำนวนหนึ่งที่ระบุตัวตนไม่ได้ จึงมีการนำมาฝังทำพิธีตามศาสนาอิสลามร่วมกันที่นี่ ซึ่งมีการทำป้ายระบุไว้ว่ารำลึกถึงเหตุการณ์ตากใบ เมื่อ 20 ปีก่อน



ไม่ไกลจากนั้น นางแมะ วานิ ยังคงคิดถึงสามี ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 20 ปีก่อน และรำลึกถึงในทุกๆวัน ที่มองเห็นสามีได้จากกูโบร์หน้าบ้าน นางแมะ ดูอาร์ขอพรจากอัลเลาะห์ และบอกถึงสามีที่จากไปแล้วว่า ในวันพรุ่งนี้ 12 กันยายน 2567 จะเป็นวันที่ความหวังที่จะได้รับความยุติธรรมเข้าใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด เพราะศาลจังหวัดนราธิวาสนัดจำเลย 7 คนที่เกี่ยวข้องกับการทำให้มีผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำต่อศาล เธอจึงคาดหวังให้จำเลยทุกคนมาปรากฏตัว



นางแมะ ยังจำภาพของนายมะรอฮิม มากะ สามี ที่ขณะนั้นอายุ 43 ปี ในสภาพที่เสียชีวิตแล้ว มีร่องรอยของฟันหัก และถูกยิง คาดว่าจะมาจากการสลายการชุมนุม ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร หลังขาดอากาศหายใจจากการเคลื่อนย้ายในรถบรรทุกที่ถูกให้นอนซ้อนกัน เธอเสียใจมาก เพราะขณะนั้นลูกชายสองคนยังเล็ก คนที่สองอายุเพียง 7 ขวบ ไม่อยากเรียนหนังสือ เธอต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ทั้งกรีดยาง จนมาเปิดร้านขายของ แม้จะได้เงินค่าเยียวยา แต่ไม่เพียงพอกับการดูแลครอบครัวในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ที่ลูกชายคนโตพิการ



และเวลายาวนานพอที่วันนี้ลูกชายคนเล็กอายุ 27 ปี และมีหลานอีก 1 คน ความยุติธรรมจึงเป็นสิ่งที่เธอคาดหวังจะได้รับจากการร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกับครอบครัวผู้เสียหายรวม 48 คน และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก



นางสาวพาตีเมาะ นาแซ ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แม้สามีเธอจะไม่ได้เสียชีวิต แต่การได้รับบาดเจ็บ จากการถูกยิงที่ใบหน้า รวมถึงบาดเจ็บที่ขา ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม การได้เห็นความยุติธรรม ให้จำเลยทั้ง 7 คน มาชี้แจงไม่ว่าจะออกมาเช่นไรก็พร้อมยอมรับ



สำหรับวันพรุ่งนี้ศาลนัดจำเลยทั้ง 7 คนที่มีคำสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ในข้อหาฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่นและร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยให้มาปรากฏตัวต่อศาลในเวลา 9 นาฬิกา ซึ่งนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ขอหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ เนื่องจากจำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อาจขอใช้เอกสิทธิ์การเป็น สส.ไม่ไปศาล ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ปรธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่ายังไม่ได้รับหนังสือขอตัวจากศาล แต่ สส.ย่อมมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ซึ่งนายรอมฏอน ย้ำว่า การปรากฏตัวต่อศาลของจำเลยมีความสำคัญต่ออายุความที่จะหมดลงในวันที่ 25 ตุลาคมนี้



สำหรับจำเลยทั้ง 7 คน มีรายงานว่า พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี ลาประชุมสภาผู้แทนราฏรและไม่ร่วมประชุมกกรรมธิการมา 3 สัปดาห์แล้วโดยอ้างว่าลาป่วย ในขณะที่อีก 7 คนมีการเปลี่ยนที่อยู่ แต่มีรายงานว่า ศาลจังหวัดนราธิวาสได้แจ้งหมายศาลในทุกช่องทางแล้ว และมีการปิดหมายโดยเจ้าหน้าที่ให้กับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 เรียบร้อยแล้ว



ซึ่งแนวทางที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ นายอูเซ็ง ดอเลาะ ทนายความมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เปิดเผยว่า หากจำเลยคนใดคนหนึ่งมาศาล คดีความจะเริ่มต้นใหม่เป็นการเฉพาะตัว แต่หากจำเลยไม่มาศาล และไม่มีการแต่งตั้งทนาย ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจในการออกหมายจับได้ แต่หากจำเลยไม่มาศาล แต่มีการแต่งตั้งทนายเพื่อขอเลื่อนการมาศาล ก็อาจทำให้เลื่อนไปเรื่อยๆจนคดีจะหมดอายุความ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 44 วันเท่านั้น วันพรุ่งนี้จึงมีความสำคัญต่อคดีตากใบที่รอคอยมา 20 ปี

คุณอาจสนใจ

Related News