หญิงวัย 65 หลั่งน้ำตา แก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุน พาไปกดเงินถึงธนาคารสูญ 6 แสน

วันนี้ (4 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่าคดีไม่คืบหน้าหลังไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปจำนวน 600,000 บาทไปนานถึง 4 เดือนที่ผ่านมาแต่คดีไม่มีความคืบหน้า


นางบุญสี อายุ 65 ปี ชาว ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. บุรีรัมย์ ผู้ร้องเล่าว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 ได้มีกลุ่มคน 4 คนขับรถมาจอดหน้าบ้าน เดินเข้ามาทำท่าเหมือนรู้จักกัน ตนก็ไม่ว่า


หลังจากนั้นได้พูดคุยกันถามหาคนนั้นคนนี้ บอกว่าจะไปไถ่ที่นามาขายได้กำไรเป็นล้าน แต่มีเงินเพียง 1 ล้านบาท ขาดไป 8 แสนบาท ตอนแรกไม่ได้สนใจเพราะไม่เคยรู้จักกัน


จากนั้นได้มีคนโทรมาอีกว่าให้เร่งเพราะคนซื้อรอ หนึ่งในนั้นได้ขอจับแขนตน 1 ครั้ง แล้วพูดชวนลงทุนด้วยกัน ตนบอกไปว่าไม่มีเงินสด มีแต่ทองหนักเพียง 3 บาทเท่านั้น สุดท้ายไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนนั่งรถไปกับเขา พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งมีเงินกว่า 500,000 บาท กลุ่มคนดังกล่าวให้ตนเข้าไปเบิกเงินเพียงคนเดียว แต่วันนั้นมีคนในธนาคารเยอะ จึงล่าช้าเขาโทรมาหายายหลายครั้ง เพื่อจะเร่งเอาเงิน นานกว่าชั่วโมงกว่าจะได้เงินมา 500,000 บาท


นางบุญสี เล่าอีกว่า ในระหว่างที่ตนกำลังรอเงินจากธนาคาร เจ้าหน้าที่ได้ทักท้วงแล้วว่า “ทำไมเบิกเงินไปเยอะระวังมิจฉาชีพนะ” แต่ตนไม่สนใจยืนยันจะเบิกเงินบอกว่าจะเอาไปลงทุน


พอได้เงินมา 5 แสนบาท ก็เอาไปให้กลุ่มนั้นภายในรถเป็นเงินสด แต่เขาบอกว่ายังไม่พอ จึงโอนให้อีก 1 แสนบาท รวมเป็น 6 แสนบาท


วันต่อมาก็ยังติดต่อกันปกติ แต่ที่ดินยังไม่ได้โอนอ้างสารพัด จนกระทั่งลูกสาวรู้เรื่องบอกว่า “แม่ไปแจ้งความ” เพราะโดนหลอกแล้ว แต่ยังไม่เชื่อ จนกระทั่งมารู้ว่าผู้หญิงคนที่จะขายที่ดินไม่มีตัวตน จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และพยายามติดต่อเขาอยู่เรื่อย ๆ ก็ติดต่อได้ตามปกติแต่งานไม่เดิน


นางบุญสี เล่าทั้งน้ำตาว่า “เงินทั้งหมดเป็นเงินเก็บไม่บอกให้ลูก หวังจะเอาไปทำบุญในบั้นปลายชีวิต” ตอนเอาเงินให้กลุ่มคนร้ายยังบอกไปว่าเป็นเงินทำบุญยาย และล่าสุดโทรศัพท์ติดต่อได้แต่ไม่รับสายแล้ว


จึงมาร้องต่อสื่อเพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะเบอร์โทรศัพท์ยังโทรติด หลักฐานการโอนเงินมี แต่ผ่านไป 4 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า