อลเวง! ‘องค์ดำ แสนสิริ’ อ้างเป็นพญานาค โชว์สกิลภาษาเทพ ก่อนโป๊ะพูดซ้ำไม่ได้

วันที่ 4 ก.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ปู่แสนสิริ ผู้อ้างเป็นร่างทรงพญานาค, แม่ย่า ผู้ที่อ้างเป็นคู่บุญองค์ดำ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม, ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกรมสุขภาพจิต นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีนายรำคอสเพลย์บังเกิด อ้างเป็นพ่อปู่ “องค์ดำ แสนสิริ”

โดย ผู้อ้างตัวเป็นพ่อปู่องค์ดำ แสนสิริ อ้างว่าตัวเอง เริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นและได้ยินเสียงแว่วเข้ามาในหูสั่งให้ช่วยคน ตนก็เลยทำแล้วมีแม่ย่าคอยช่วยอยู่ข้างๆ การรักษาที่ทำให้กับชาวบ้านมีค่าครู ก่อนหน้านี่มีชื่อว่า นุ่มนิ่ม แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น แสนแล้ว เมื่อก่อนนี้เป็น เซลล์ขายเครื่องมืออุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์  ไม่เคยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน ยืนยันตนไม่ได้เป็นร่างทรง แต่เป็นนางรำ-นายรำเท่านั้น ที่ทำก็เพราะเสียงในหัวสั่งให้ทำและห้ามต่อต้าน

ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ ดร.นพ.วรตม์ ออกความเห็นว่า การที่คนได้ยินเสียงแว่วเข้ามาในหูนั้นควรไปพบแพทย์และหาคำตอบว่าเสียงนั้นมาจากไหน และตามที่คุยมาวันนี้ความเห็นจากหมอคือทั้งคู่ยังสามารถพูดคุยได้รู้เรื่อง แต่ถ้ายังได้ยินอยู่แนะนำให้ไปพบแพทย์ และเรื่องความเห็นทางศาสนานั้นหมอเห็นว่าไม่ควรที่จะนำมาใช้หากิน เพราะคนไทยเรามีความเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่มาก จะทำให้คนในสังคมเข้าใจผิด ส่วนเรื่องการคอสเพลย์ในเรื่องนี้ไม่ได้มีความผิดอะไรมันเป็นความชอบส่วนตัว แต่ก็ควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม

ดร.ประยุทร ได้กล่าวว่า ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในไทยคือศาสนาผี แต่การที่เคสนี้มาแอบอ้างนั้นมีถึง 3ศาสนา ไม่ว่าจะเป็น พุทธ ฮินดู และผี  เรื่องนี้เห็นชัดว่าเป็นเรื่องไม่มีสาระ เรื่องแบบนี้มีเยอะในสังคมไทย การหยิบความเชื่อขึ้นมาก็สามารถเรียกความสนใจและให้คนหันมาสนใจได้ เพราะในสังคมไทยมีความเชื่อแบบนี้จำนวนมาก  การแอบอ้างแบบนี้จะสร้างความสับสนให้กับชาวบ้านการทำนายทายทักหรือการรักษา ถ้ามีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องหรือการรักษาสามารถดำเนินคดีได้ และไม่ควรเอาหลักคำสอนทางศาสนามาแอบอ้าง

เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ภาษานาคาคืออะไร เจ้าตัวบอกไม่รู้ว่าคืออะไร ทุกอย่างเกิดขึ้นเอง ส่วนบทสวดที่ท่อง ท่องใหม่ไม่ได้เพราะจะไม่เหมือนเดิม

“ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่มุมมองวิชั่นของแต่ละคน ถ้ามีความเชื่อศรัทธาเห็นผลก็เป็นตามนั้น ถ้ามองว่าไร้สาระ ก็เป็นเรื่องไร้สาระ เราสองคนขอบอกตอนนี้ว่า เราไม่ต้องการดัง ไม่ต้องการออกสื่อ ขออยู่เงียบๆ ขออยู่สงบๆ นี่คือปณิธาน” แสนสิริ กล่าวทิ้งท้าย...