‘ทักษิณ’ มอบถุงยังชีพ ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก 'อุ๊งอิ๊ง' ฝากมาเยี่ยม โชว์วิสัยทัศน์แก้อุทกภัย

"ทักษิณ" เครื่องดีเลย์ 2 ชั่วโมง ทำลงพื้นที่ช้า คนเสื้อแดงแห่รับแน่น บอกเป็นบุญคุณ 17 ปี ปชช.ยังจำได้ ก่อนลงพื้นที่ น้ำท่วมเทิง-เชียงราย หยอดคำหวานเยียวยาเต็มที่รอพ้นรัฐบาลรักษาการ 

เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.67)  นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยและมอบถุงยังชีพ ที่ จ.เชียงราย  โดยนายทักษิณและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย  ในเวลาประมาณ 11.50 น.  จากเดิมที่มีกำหนดจะไปถึงเวลา 10.00 น. แต่เครื่องดีเลย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามบิน มี สส.พรรคเพื่อไทย นักการเมืองท้องถิ่นขั้วพรรคเพื่อไทย  อดีตแกนนำและมวลชนคนเสื้อแดง มารอต้อนรับจำนวนมาก โดยมีตัวแทนมวลชนผูกผ้าขาวม้าต้อนรับด้วย  ก่อนที่นายทักษิณและคณะจะพากันเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.เทิง เพื่อพบปะกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ที่มารอต้อนรับประมาณ 500 คน  พร้อมกับแจกถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ที่จุดนี้ นายทักษิณได้พูดคุยกับประชาชน โดยบอกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฝากให้มาเยี่ยมเยียนประชาชนด้วยและวันหลัง นายกฯ อิ๊งค์ จะมาเยี่ยมด้วยตัวเอง สำหรับตนเดินทางมาครั้งนี้ ก็มาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นห่วงใยพี่น้องบ้านเรา ตนไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แต่พี่น้องก็ยังไม่ลืมตน ดังนั้นตนก็ต้องมาตอบแทนบุญคุณพี่น้องและเยี่ยมเยียนดูทุกข์สุข ส่วนสาเหตุที่มาถึงช้าต้องขอโทษ เพราะเครื่องบินเสียจนต้องเปลี่ยนเครื่องบิน ทำให้ล่าช้าไป 2 ชั่วโมง สำหรับการเยียวยาผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่  โดยขณะนี้ยังเป็นรัฐบาลรักษาการทำงานอยู่ ก็จะพยายามทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

นายทักษิณ ยังขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาต้อนรับ และบอกว่า ตนอายุมากแล้ว แก่แล้ว เพราะจำได้ว่ามา อ.เทิง ครั้งล่าสุดคือปี 2543 เพื่อไปหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. จึงไม่ได้เดินทางมาเยือน อ.เทิง นานกว่า 20 ปีแล้ว  ปัจจุบันถนนหนทางดีขึ้น  เดินทางไม่นานก็ถึงแล้ว นอกจากนี้ ยังสอบถามชาวบ้าน ถึงสถานการณ์น้ำท่วมและกำชับประชาชนว่า หากมีเรื่องใดต้องการความช่วยเหลือ ก็ให้แจ้ง สส.ในพื้นที่ได้ทันที ส่วนตนก็ขอให้กำลังใจ เพราะอีกไม่นานรัฐบาลก็จะลงมาช่วยเหลือ

จากนั้นนายทักษิณและคณะ เดินทางไปพบปะชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ที่วัดตับเต่า บ้านปางค่า ต.ตับเต่า ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

พร้อมกับมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งมีชาวบ้านมาขอถ่ายรูป จับมือและสวมกอด บางคนตะโกนบอกว่า ทักษิณกลับมาแล้ว จุดนี้ นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงการแก้ไขปัญหาน้ำว่า ได้ไปดูพื้นที่ บ้านเรือนชาวบ้านเสียหายหลายหลัง รถหรือทรัพย์สินก็สูญหาย ซึ่งตนจะนำไปเล่าให้รัฐบาลฟัง และสส.ในพื้นที่ก็คงจะรายงานไปแล้ว เพื่อเร่งเยียวยาต่อไป  

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ว่าเป็นภัยซ้ำซาก  การแก้ไขปัญหาจะต้องดำเนินการทั้งระบบ  อย่างน้ำท่วม พื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ ต้องมีอ่างเก็บน้ำ ต้องมีแก้มลิง หรือฝายชะลอน้ำ ที่จะช่วยให้น้ำไม่ท่วมหนัก นอกจากจะต้องจัดการภายในประเทศแล้ว กับประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องคุยกันเพื่อจัดการน้ำทั้งระบบ อย่างเรื่องแม่น้ำโขงก็ต้องคุยกับทางจีน ว่าควรจะมีมาตรการร่วมกันอย่างไร เพื่อไม่ให้การปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ตอนล่าง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งแล้วว่า กำลังหารือกับทางการจีนอยู่   การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบแม้จะต้องใช้วงเงินงบประมาณสูง แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง

ส่วนปัญหาที่มีการมองกันว่าน้ำท่วมปีนี้ อาจจะกลายเป็นน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 นั้น นายทักษิณ บอกว่า นายกฯ อิ๊งค์ เล่าให้ฟังว่า คณะรัฐมนตรีที่รักษาการอยู่ ได้พูดคุยกับกรมชลประทานแล้วในเรื่องของการพร่องน้ำในเขื่อนต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับน้ำจากทางเหนือ ซึ่งการพร่องน้ำเตรียมไว้ก่อนเช่นนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 2554 ที่ไม่ได้พร่องน้ำไว้ก่อนทำให้น้ำเต็มเขื่อน เมื่อน้ำลงมาจากภาคเหนือ ก็ทำให้น้ำท่วมใหญ่  ปีนี้คนกรุงเทพฯจึงสบายใจได้ว่า จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน  

จากนั้นนายทักษิณและคณะ เดินทางไปดูสะพานสายตับเต่า-ภูชี้ฟ้า พื้นที่หมู่บ้านปางค่า หมู่ 8 ต.ตับเต่า อ.เทิง ซึ่งถูกน้ำซัดจนสะพานขาดเสียหายไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเจ้าหนาที่ได้ทำสะพานขั่วคราว หรือสะพานแบริ่งให้ชาวบ้านใช้ชั่วคราว  

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QY0_tCPK8BQ