ครม. "แพทองธาร 1" ยังวุ่น สลค.ขอยืดเวลาตรวจสอบคุณสมบัติเข้ม 2 สัปดาห์ ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ

ครม. "แพทองธาร 1" ยังวุ่น สลค.ขอยืดเวลาตรวจสอบคุณสมบัติเข้ม 2 สัปดาห์ ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ชี้ หลายคนรู้ตัวเสี่ยงหลุดหาคนสำรอง -ล่าสุด“ธรรมนัส”ได้ 3 เก้าอี้ มีเงื่อนไขดึง “สันติร่วม” สะพัด ปชป.เสียบเพิ่มได้ 2 เก้าอี้



ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งวันนี้นางสาวแพทองธารได้ขอเป็นการส่วนตัวเนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิด 21 สิงหาคม อายุครบ 38 ปีเต็ม โดยมีรายงานว่าในช่วงเช้าได้นิมนต์พระมาทำบุญวันคล้ายวันเกิด ภายในบ้านพักเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวและคนสนิทเท่านั้น โดยไม่มีกำหนดการทางการใดใดหรือแม้แต่การเดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3



สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น จนถึงเช้าวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่ารายชื่อของบุคคลที่จะถูกเสนอเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่ถึงมือนายแพทย์ พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในของพรรคพลังพลังประชารัฐ



แต่แหล่งข่าวยืนยันว่าท้ายที่สุดแล้วในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐแม้จะมีความขัดแย้งกันภายในแบ่งเป็นสองฝ่ายแต่ก็จะมีวิธีการที่จะสามารถส่งรายชื่อมาในนามพรรคพลังประชารัฐได้



อย่างไรก็ตามเมื่อแต่ละพรรคการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งชื่อบุคคลที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีมายังเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วก็จะส่งต่อไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งในครั้งนี้มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม โดย เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งประวัติของทุกคนไม่ว่าจะเป็น อดีตรัฐมนตรีหรือคนใหม่ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย

อาทิ เช่น คณะกรรมการกำกับการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานตรวจตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นต้น ซึ่งจะต้องตรวจตั้งแต่ประวัติอาชญากรรม บัญชีทรัพย์สินหนี้สิน หุ้นตามบริษัทต่างๆ เป็นต้น



และหลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน จนทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้นโดยเฉพาะบุคคลที่เคยต้องคดี แม้จะพ้นคดีแล้วก็ตาม แต่ต้องส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งบุคคลที่เข้าข่ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการทั้งหมดว่าสามารถดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีได้ ซึ่งอาจทำให้การตรวจสอบคุณสมบัตินานขึ้นเป็นพิเศษ เดิมใช้เวลา3-4 วัน แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอขยายเวลาออกไป 2 สัปดาห์หรืออาจจะนานกว่านั้น ซึ่งทุกคนที่เข้าข่ายก็ทราบดี และหากรายชื่อถูกตีกลับ ทุกคนก็เข้าใจ



และจากความเข้มข้นของการตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ทำให้มีแรงงานข่าวว่าได้มีการเตรียมรายชื่อสำรอง สำหรับบุคคลที่อาจจะไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติไว้แล้ว



ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าในส่วนของความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ ณ เช้าวันนี้ เบื้องต้น มีข้อสรุปว่าจะได้สัดส่วนของคณะรัฐมนตรีจำนวนสามที่นั่งคือมาจากกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า โดยมีเงื่อนไขว่ากลุ่มของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ทั้งหมด 6 เสียงจะต้องมารวมกับกลุ่มของร้อยเอกเอกธรรมนัส



และจากปัญหาความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้มีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์คือหนึ่งในตัวเลือกที่จะมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเสริมเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของรัฐบาล ซึ่งมีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้โควตารัฐมนตรีจำนวน 2 ที่นั่ง