ล่าตัว 'เอส ป่าดอย' หึงโหด บุกเคลียร์ใจลูกค้ามาจีบเมีย ชักปืนกระหน่ำยิงดับสลด

ล่า "เอส ป่าดอย" หึงโหด บุกเคลียร์ใจลูกค้ามาจีบเมีย แต่โดนรุม ชักปืนกระหน่ำยิงสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลานสาวคนตายท้อง 7 เดือน วิ่งเข้าไปช่วยเคลียร์ ถูกชนล้มท้องกระแทกเจ็บด้วย

ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านค้าที่เกิดเหตุ นาทีที่ "เอส ป่าดอย" ชักปืนยิงใส่นายธีระ หรือ กุ้ง อายุ 53 ปี แบบรัว ๆ จนนายกุ้งล้มลงแน่นิ่ง ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของญาติ ๆ และยังได้ยินเสียงปืนดังรัว ๆ อีกรวม ๆ แล้วประมาณ 17 นัด ก่อนเอส ป่าดอย จะขับกระบะหนีไป

เหตุเกิดช่วง 1 ทุ่ม ของเมื่อวานนี้ ที่หน้าร้านค้าในบ้านท่าข้าม หมู่ 5 ตำบลมาบแค อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยนายกุ้ง ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ลำตัวและแขน 7 นัด บาดเจ็บสาหัส กู้ภัยช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่เสียเลือดมาก เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังพบมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ น.ส.ธิดารัตน์ อายุ 19 ปี หลานของนายกุ้ง ซึ่งตั้งท้องได้ 7 เดือน ได้วิ่งเข้าไปช่วยเคลียร์ แต่ช่วงชุลมุนถูกชนล้มท้องกระแทกพื้น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วเช่นกัน

ต่อมา ตำรวจ สภ.สามควายเผือก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกเกลื่อน นับได้ 7 ปลอก หัวกระสุนปืน 3 หัว ตกอยู่กลางถนน และกองเลือดของผู้บาดเจ็บ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายเอส ขับกระบะมาจอดที่หน้าบ้านของนายกุ้ง แล้วตะโกนด่าทอกัน เรื่องที่เอสหึงหวงเมีย หาว่ากุ้งไปจีบเมีย แล้วตะโกนท้าทายกันไปมา ก่อนที่ทั้งคู่จะชกต่อยกันบริเวณท้ายรถกระบะของนายเอส โดยมีญาติของนายกุ้งเข้ามาห้าม ก่อนมีเสียงปืนดังรัว 3 นัด ทำให้ทุกคนแตกฮือหนีตาย แล้วนายกุ้งก็วิ่งมาล้มท้ายรถ นายเอส ตามมากระหน่ำยิงอีก 5 นัดซ้อน นอนจมกองเลือด และยังมีสาวท้อง 7 เดือน ล้มท้องกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน

ส่วน เอส ป่าดอย ผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายฉัตรเฉลิม อายุ 48 ปี มีเมียขายก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่หัวสะพานข้ามคลองวัดพะเนียงแตก หลังก่อเหตุขับรถหนีไปทางอำเภอดอนตูม แล้วนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่อู่ซ่อมสีรถ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ตำรวจตามไปตรวจสอบ พบปืนที่ใช้ก่อเหตุถูกทิ้งไว้ในรถ พร้อมเครื่องกระสุน ขณะที่รถตัวรถมีร่องรอยรูกระสุนถึง 8 รู

จากการสอบถามเจ้าของอู่รถ พบว่า มีความสนิทสนมกับพ่อของเอส หลังนำรถไปจอด นายเอสได้ขอยืมมอเตอร์ไซค์ของอู่ไปซื้อของ แล้วก็ไปจอดมอเตอร์ทิ้งไว้ที่ร้านค้า จากนั้นให้เพื่อนมารับหนีไป ตำรวจจึงนำรถที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจสอบ พร้อมเร่งตามตัวนายเอสมาดำเนินคดี โดยคาดว่าจะหนีไปที่จังหวัดราชบุรี

เช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านผู้เสียชีวิตอีกครั้ง พบหลานสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า ก่อนเกิดเหตุลุงเพิ่งกลับมาจากทำงาน เพิ่งมานั่งกินข้าวบริเวณหน้าบ้าน ก็มีนายเอสขับรถมาจอดหน้าบ้าน แล้วเข้ามาพูดคุยกับลุง ก่อนจะทะเลาะกันจนถึงขั้นชกต่อย นายเอสล้มลงแล้วปืนหล่น จึงคว้ามายิงใส่ลุงจนล้มแน่นิ่ง ก่อนขับรถหนีไป ช่วงชุลมุนทางฝั่งของลุงได้ยิงสวนกลับไปประมาณ 8 นัด เพื่อป้องกันคนในบ้าน เพราะกลัวว่านายเอสจะยิงซ้ำเข้ามาอีก

ลุงของตนเป็นคนอุปนิสัยดี เป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูกทั้งหมด 4 คน ยังเล็ก ๆ อยู่ เช้ามาก็ไปทำมาหากิน ทำบ่อกบ บ่อปลา ช่วงเย็นก็จะไปรับลูกที่โรงเรียน แล้วก็ไปเลี้ยงกบต่อ ซึ่งจะไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกับใคร ปกติลุงซื้อแกงถุงกิน ก๋วยเตี๋ยวไปซื้อแต่ไม่บ่อย ส่วนใหญ่จะให้ลูกไปซื้อ ลุงเป็นอัธยาศัยดี ทักทายคนทั่วไปถ้าสนิทสนม เชื่อว่าไม่มีเรื่องชู้สาว ซึ่งลุงไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับนายเอส แต่เขาทักมาด่า หาว่าไปยุ่งกับเมียเขา ก่อนเกิดเหตุลุงเคยฝันเป็นลางว่า โดนยิงตาย แต่คนในบ้านก็บอกว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ สุดท้ายก็มาเกิดเรื่อง

ผู้สื่อข่าวได้แชทที่นายเอส ทักมาคุยกับนายกุ้ง โดยทักมาว่า ได้ข่าวว่าจีบแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวต้นยาง แน่มากนะมึงจีบเมียกู, นายกุ้ง ตอบไปว่า อะไร, นายเอส บอกว่า อย่าเอาข้อความไปให้เมียกูดู ไม่งั้นจะเจอกูแน่ บอกไว้ก่อน, นายกุ้งก็ต่อไปว่า อะไรของมึง

นายเอส บอกอีกว่า จีบเมียกู ไอ... ทะลึ่งมากนะมึง แล้วขึ้นกูมึงกับใคร, นายกุ้งถามว่า กูไปจีบเมียมึงตอนไหนวะ แล้วมึงขึ้นกูมึงกับกูก่อนไหม, นายเอส ถามว่า มึงเป็นใคร มาจับเมียกูทะลึ่งมากนะมึง นึกว่ากูไม่รู้หรือไง มาขอเป็นเพื่อนในเฟซนานแล้ว แชทมาหาเมียกู มาจีบเมียกู หลายครั้ง มึงแชทมาทำไม

นายกุ้ง ตอบกลับไปว่า มึงแน่มึงมา กูอยู่หมู่ 5, นายเอสเลยบอกว่า รอกูแป๊บ, นายกุ้งยังท้าต่อ มึงมาเร็วนะไอ้.. กูไม่เคยคุยกับเมียมึงเลย มาด่ากู มึงมายังเร็ว ๆ เลย มึงมายัง กูรออยู่, จากนั้นนายเอสก็มาตามคำท้า แล้วเกิดเรื่องขึ้น

ผู้สื่อข่าวไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของเมียนายเอส พบว่า ปิดร้าน ขณะที่เมียของนายเอส ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/BXw8cNBtHKc