สังคม

'ปลาหมอคางดำ’ โผล่ภูเก็ต สส.รีบตัดตอนทำลาย – ครบเส้นตาย! 'กาย ณัฐชา' ทวงสัญญานายกฯ แก้ปัญหา

โดย petchpawee_k

30 ก.ค. 2567

13 views

ภูเก็ต 'สส.ภูเก็ต' กว้านซื้อปลาหมอคางดำ หลังมีแม่ค้าหัวใสแอบนำมาโพสต์ขายผ่านโซเชียล หวั่นไข่หลุดลงคลองและออกทะเล 

จากกรณี เพจดัง "ขยะมรสุม" ได้โพสต์ ภาพพร้อมข้อความ ระบุ “ปลาหมอคางดำที่เอาเข้ามาภูเก็ต ระวังไข่หลุดลงท่อน้ำนะครับ เป็นห่วง"


ซึ่งโพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีแม่ค้า รายหนึ่งมีการ โพสต์ขายในกลุ่มไลน์และโซเชียลมีเดีย กิโลกรัมละ 50 บาทพร้อมส่ง จากนั้นเพจดังกล่าว ยังได้โพสต์ เกี่ยวกับประเด็นปลาหมอคางดำรัวๆ เช่น "ภูเก็ต ไม่เอาปลาหมดคางดำ ไม่อยากเสี่ยง อย่างเอามาเลย กินอย่างอื่นเถอะนะ ถ้าเกิดพลาดมา ชิบหายยาวๆ เลย ไม่คุ้มเลย"


โดยเมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (29 ก.ค.) ที่บริษัทขนส่งเอกชน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต 2 จ.ภูเก็ตได้เข้ารับพัสดุที่ถูกส่งมาจากนอกพื้นที่ จ.ภูเก็ต


โดยเป็นลังโฟมขนาดใหญ่ภายในบรรจุปลาหมอคางดำจำนวนหลายสิบกิโลกรัม หลังจากมีแม่ค้าออนไลน์ได้ไปโพสต์ขายปลาหมอคางดำ จนทำให้เพจ ‘ขยะมรสุม’ ซึ่งเป็นเพจด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพบโดยบังเอิญ


จากนั้นได้ติดต่อขอซื้อปลาหมอคางดำทั้งหมดจากแม่ค้าออนไลน์ โดยต้องการนำไปทำลาย เพราะเกรงว่าไข่หรือลูกที่อยู่ในตัวปลาหมอคางดำจะหลุดรอดลงสู่ลำคลองและออกสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลให้การวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและสัตว์ทะเลในที่สุด  


อย่างไรก็ตาม หลังจากรับปลาหมอคางดำ มาแล้ว นายเฉลิมพงศ์ ได้นำปลาหมอคางดำไปยังสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต และ เข้าพบนายประยุธ รัตนวรรณ ประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อพูดคุยและหารือ แนวทางในการป้องกันการนำปลาหมอคางดำเข้ามาในภูเก็ต หลังพบว่าในโซเชียล มีการโพสต์จำหน่าย ปลาหมอคางดำ ให้กับประชาชน โดยส่งขายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่  ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท โดยมีการสั่งนำเข้าจากจังหวัดสมุทรสาคร


 และหลังจากมีการหารือถึงมาตรการและแนวทางในการป้องกัน การนำปลาหมอคางดำเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นายเฉลิมพงศ์ ส.ส. จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยประมงจังหวัดภูเก็ต ได้นำปลาหมอคางดำไปฝังกลบ เพื่อเป็นการทำลายปลาหมอคางดำทั้งหมด ป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต่อไป

-----------------------------

'กาย ณัฐชา' ทวงสัญญานายกฯ  7 วัน หาความจริง 'ปลาหมอคางดำ' ยังเงียบ ซัดครบกำหนดยังมืดมน ห่วงเหมือน 'หมูเถื่อน' สุดท้ายเป็นแค่ลมปากเหมือนเดิม

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. บางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากกรณีการระบาดของปลาหมอคางดำที่กำลังสร้างวิกฤตทำลายทั้งอาชีพเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเสี่ยงกระทบต่อระบบนิเวศอย่างรุนแรงในเวลานี้ ทำให้เมื่อสัปดาห์ก่อน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสั่งการให้ ทำความจริงให้ปรากฏ ต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับลูกและแจ้งต่อสาธารณะว่าได้ตั้งคณะทำงานตามล่าหาความจริง ขีดเส้นใน 7 วันต้องรู้ นับเวลาเริ่มต้น วันที่ 19 ก.ค. 2567 ครบ 7 วัน ในวันที่ 26 ก.ค. 2567


ต่อเวลาให้จนถึงวันนี้เป็นสิบวันถ้วน ทว่าความจริงยังไม่ปรากฏแถมกลับมืดมนลงทุกที เพราะคณะทำงานดังกล่าวเงียบหายไป ส่วนบริษัทเอกชนที่มีข้อมูลพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการนำเข้ามาและอาจเป็นต้นตอการระบาดในครั้งนี้ก็ยังคงหลบหน้า ไม่ยอมมาชี้แจงใดๆ ต่อคณะกรรมาธิการที่สภาตั้งขึ้น


นายณัฐชา กล่าวต่อว่า อย่างที่ตนได้อภิปรายในสภาฯ ไปแล้ว ประเทศไทยเคยเจอสถานการณ์ที่ภาครัฐต้องชนกับทุนมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นเป็นประเด็นเรื่องหมูเถื่อน เป็นประเด็นที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากต้องขาดทุนล้มหายตายจากไปจากตลาดเกือบหมด จนเกิดสภาพกึ่งผูกขาดที่ทำให้หมูมีราคาแพงกระทบปากท้องค่าครองชีพมาจนถึงตอนนี้ เป็นเหตุให้พี่น้องประชาชนเฝ้าจับตาติดตามมาตลอดว่าใครคือไอ้โม่งที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น


 "แต่สถานการณ์ก็ดูเหมือนซ้ำรอยอีกแล้ว เมื่อทุนใหญ่ทำท่าว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กรณีปลาหมอคางดำก็เหมือนกรณีหมูเถื่อน ท่าทีของนายกรัฐมนตรี ดูขึงขังเอาจริงเอาจังตอนออกสื่อตอนแรกเหมือนเดิม หน่วยงานต่างๆ ก็รับลูกขีดเส้นดูเอาจริงเอาจังบอกว่าต้องหาตัวการคนผิดให้ได้เหมือนเดิม เป็นละครหน้าฉากบทเดิมๆ เล่นกันเหมือนเดิมๆ” นายณัฐชา กล่าว


“สุดท้ายก็เป็นแค่ลมปากเหมือนเดิม ตอนนี้เกินเส้นตาย 7 วันตามที่สัญญาไว้ว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ แต่ก็ดูเหมือนความจริงกำลังจะเงียบหายไปกับสายลมอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งจากการดำเนินงานผ่านกลไกสภาฯ ร่วมกับภาคประชาชนและผู้เดือดร้อน เราเชื่อว่ามีข้อมูลบ่งชี้ให้รัฐไปทำงานหาตัวคนต้องรับผิดชอบต่อได้แน่ แต่เรากลับยังคงไม่ได้รับความจริงว่าต้นตอสาเหตุของปลาชนิดนี้มาได้อย่างไร กระบวนการวิธีการก็ยังคงเป็นปริศนาว่าเหตุใดปลาที่อยู่ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ถึงมาโผล่อยู่ใจกลางประเทศไทย ซึ่งผมได้กล่าวไปแล้วในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาว่าสามารถเรียกได้เลยว่าคือปลาเถื่อน และเหตุการณ์ปลาเถื่อนครั้งนี้ต้องเฝ้าดูว่ารัฐไทยกับกลุ่มทุน จุดจบจะจบลงแบบใด พี่น้องประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถช่วยกันติดตาม และตามทวงถามความจริงให้เกิดขึ้นให้ได้" นายณัฐชา กล่าว


นายณัฐชา กล่าวต่อไปอีกว่า สิ่งที่พวกเราทำผ่านสภาฯ ได้ก็ได้ทำไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงว่าจะไปตามคณะทำงานหาความจริงของรัฐบาลได้ที่ไหน ใครรู้ฝากแจ้งข่าวด้วย เพราะตั้งแต่ครบเวลาแล้วก็สาบสูญไปเลย หรือถ้าพวกท่านรู้ตัวว่าพี่น้องประชาชนถามถึง ก็ช่วยปรากฏตัวมารายงานความคืบหน้าด้วย


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZsmweItruzY


คุณอาจสนใจ

Related News