อาชญากรรม

รอง ผบช.น.เปิดความสัมพันธ์ 6 ศพชาวต่างชาติ คาดเป็นการฆ่าล้างหนี้

โดย paranee_s

17 ก.ค. 2567

484 views

กรณีพบศพชาวเวียดนาม 6 คน ภายในห้องสวีตของโรงแรมดังย่านราชประสงค์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16ก.ค.67) ล่าสุดรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สรุปสาเหตุวางยาฆ่ากันเอง คาดเป็นการฆ่าล้างหนี้ แล้วฆ่าตัวตายหนีความผิด


ซึ่งเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นที่ห้องสวีต 502 ชั้น 5 ของโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ ภายในห้องพักพบศพ ชายชาวเวียดนาม 3 คน และหญิงชาวเวียดนามอีก 3 คน นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน และห้องรับแขก สภาพศพคล้ายคนนอนหลับ บางคนมีเลือดออกที่จมูกและปากเล็กน้อย สันนิษฐานว่าทั้ง 6 คน น่าจะถูกวางยาพิษ เพราะภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และอาหารที่สั่งมาก็ยังไม่ได้กิน มีเพียงถ้วยชา 6 ถ้วยที่ถูกใช้งานเท่านั้น


เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่า มีการจองโรงแรมผ่านทางแอปพลิเคชันเข้ามา 7 คน แต่ระบุชื่อผู้เข้าพักแค่ 5 คน แต่วันที่เจอศพกลับเจอ 6 ศพ นี่คือประเด็นที่ตำรวจสรุปไว้เมื่อคืนนี้ว่าคำตอบที่ต้องหาให้ได้คือ ใครเข้ามาเมื่อไหร่ อย่างไร ใครพักห้องไหน ใครเป็นคนเปิดห้องสวีต บุคคลที่ 6 มาได้อย่างไร กับใคร และบุคคลที่ 7 ที่ไม่ได้เข้าพัก เกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้หรือไม่


ตำรวจใช้เวลาสอบสวนผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 10 คนตลอดทั้งคืน ทั้งน้องสาว 1 ในผู้เสียชีวิต แม่บ้านโรงแรม รปภ. พนักงานเสิร์ฟ และเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในไทย


กระทั่ง 11 โมง ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้าคดีนี้โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย มีข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทยและการเข้าพักที่โรงแรมนี้ คือ


ศพแรก นางสาว ธิ อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม สวมใส่เสื้อสีขาว พบเสียชีวิตใกล้ประตูห้อง เดินทางเข้าไทยวันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 13.48 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเคยเดินทางมาแล้ว 3 ครั้ง เข้าพักที่โรงแรมนี้วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ห้อง 502 ก่อนวันที่ 13 และ 14 เปลี่ยนมาพักที่ห้อง 708 จากนั้นวันที่ 15 กรกฎาคม เข้าพักที่ห้อง 502 ซึ่งเป็นห้องเกิดเหตุ


ศพที่ 2 นางสาว ธิ อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม สวมใส่เสื้อสีชมพู พบเสียชีวิตภายในห้องนอน เดินทางเข้าไทยวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 12.56 น. จากเมืองดานัง โดยเคยเดินทางมาแล้ว 17 ครั้ง เข้าพักโรงแรมนี้วันที่ 12 และ 13 ที่ห้อง 1215 วันที่ 14 -15 พักห้อง 709 ก่อนจะเช็กเอาท์ช่วงสายของวันที่ 15 เพื่อมาพักที่ห้อง 502


ศพที่ 3 นายดิน อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม พบเสียชีวิตใกล้กันกับนางสาว ธิ (ศพที่ 1) เดินทางเข้าไทยวันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 12.28 น. จากเมืองดานัง โดยเคยเดินทางมาแล้ว 11 ครั้ง วันที่ 12-13 กรกฎาคม เข้าพักที่ห้อง 1219 แล้ววันที่ 14-15 กรกฎาคมพักที่ 726 ก่อนจะย้ายออกมาที่ 502 ในวันที่ 15 กรกฎาคมเช่นเดียวกับคนอื่น


ศพที่ 4 นายฮุง อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน ใส่เสื้อสีกรมท่า พบเสียชีวิตใกล้กับนางสาวธิ (ศพที่ 1) เดินทางเข้าไทยครั้งแรก วันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 09.55 น. จากเมืองไทเป ไต้หวัน วันที่ 12-13 กรกฎาคม เข้าพักที่ห้อง 1212 แล้ววันที่ 14-15 กรกฎาคมพักที่ 727 ก่อนจะย้ายออกมาที่ 502


ศพที่ 5 นางสาว เชอรีน อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน เสียชีวิตบริเวณโต๊ะอาหาร เดินทางเข้าไทยวันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 13.05 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเคยเดินทางมาแล้ว 5 ครั้ง วันที่ 12 กรกฎาคม เข้าพักห้อง 504 วันที่ 13 กรกฎาคมเข้าพักที่ห้อง 804 และ วันที่ 14 กรกฎาคมเข้าพักที่ห้อง 502 และเป็นผู้เปิดห้องที่เกิดเหตุเองด้วย


ศพที่ 6 นายฮง อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม เป็นสามีของนางสาว ธิ (ศพที่ 1) เสียชีวิตในห้องนอน เดินทางเข้าไทยครั้งแรก โดยมาพร้อมกันกับภรรยา วันที่ 12 กรกฎาคม เวลา 13.48 น. จากเมืองโฮจิมินห์ โดยเป็นคนที่ไม่ปรากฏรายชื่อเช็กอินเข้าพักที่โรงแรม เนื่องจากใช้ชื่อของภรรยาในการจองห้องเข้าพัก


ส่วนบุคคลที่ 7 ที่มีบุ๊กกิ้งมาว่าจะพัก เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตศพที่ 2 เดินทางเข้าไทยมาพร้อมกับพี่สาวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม แต่บินกลับไปที่ดานัง ประเวศเวียดนามเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งทาง ตม. อยู่ระหว่างประสานเพื่อสอบถามสาเหตุของการเดินทางกลับก่อน


รอง ผบช.น. ขยายความเรื่องที่พบศพทั้ง 6 คนในห้องพักด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม พบว่า นางสาว เชอรีน เป็นผู้มาเปิดห้องพักนี้เอง จากนั้นราว 5 ทุ่ม ทั้ง 5 คนที่เหลือก็เดินทางมาที่ห้องนี้ก่อนจะแยกย้ายกลับห้องตัวเองไป


จากนั้น 15 กรกฎาคม ทั้งหมดได้เช็กเอาท์ที่ห้องตัวเองแล้วขนกระเป๋ามาไว้ที่ห้อง 502 จากนั้น นาย ฮุง สัญชาติอเมริกันสั่งอาหารจากโรงแรม ตอนเวลา 11.42 น. โดยสั่งข้าวผัด 5 จาน, ต้มยำกุ้ง 4 จาน, ผัดผัก 4 จาน, ผัดผักบุ้ง 1 จาน และชาร้อนอังกฤษ 2 กา พร้อมแก้วน้ำชา 6 ใบ


สักพัก นาย ดิน ช่างแต่งหน้าชื่อดังก็สั่งข้าวผัดเพิ่ม 1 จาน และขอให้มาส่งตอนบ่าย 2 โมง ซึ่งพนักงานเสิร์ฟมาส่งอาหารตอนบ่ายโมง 51 นาที ใช้เวลาเข้าไปเสิร์ฟอาหาร 6 นาที ซึ่งตอนเสิร์ฟ พนักงานถามว่าจะให้ชงชาเลยไหม แต่นางสาว เชอรีน ปฏิเสธ บอกว่าจะชงเอง


สอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดของโรงแรม พบว่า ทุกคนมาเช็กอินเข้าพักด้วยตัวเอง และไม่มีบุคคลอื่นที่เข้าไปพักด้วยเลย จึงสันนิษฐานได้ว่า น่าจะมี 1 ใน 6 คนนี้เป็นคนวางยา เพื่อปลิดชีพทุกคน เพราะเมื่อตรวจสอบแก้วเครื่องดื่มพบสารไซยาไนด์


พลตำตรวจตรี นพศิลป์ บอกด้วยว่า ญาติของผู้เสียชีวิตบางคนให้ข้อมูลว่า นางสาว เชอรีน ได้ให้นางสาว ธิ (ศพที่ 2) เป็นนายหน้าไปชักชวน นางสาว ธิ (ศพที่ 1) และสามี คือ นายฮง มาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำถนนที่ประเทศเวียดนาม ให้ร่วมลงทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดมูลค่าเป็นเงินไทย 10 ล้านบาท


แต่กลับไม่เห็นความคืบหน้าของการลงทุน นางสาว ธิ (ศพที่ 1) และสามี ได้ทวงถามมาตลอด จนล่าสุดทั้งหมดนัดหมายจะไปเคลียร์เรื่องนี้กันที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ติดขัดเรื่องการขอวีซา จึงเปลี่ยนมาที่ประเทศไทยแทน และทราบว่าทั้งหมดมีแพลนที่จะไปไหว้พระที่วัดยานนาวาด้วย ดังนั้นคดีนี้เป็นความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวของทั้ง 6 คน ไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งองค์กรอาชญากรรม


ส่วนนาย ดิน ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ศพที่ 3 คาดว่าถูกชักชวนให้มาร่วมลงทุน จึงเดินทางมาพูดคุยในครั้งนี้ด้วย


ส่วนการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบของผู้เสียชีวิต ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แต่พบเอกสารการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับที่ดินของนางสาวเชอรีน แต่คู่ความเป็นบุคคลอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เสียชีวิต

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ