สังคม
พนง.แบงก์เตือนไม่ฟัง! แก๊งคอลฯปลอมเสียงลูกสาว หลอกป้าโอนเงินสูญนับหมื่น
โดย nattachat_c
12 ก.ค. 2567
750 views
วานนี้ (11 ก.ค.) เพจ Drama-addict โพสต์คลิป พร้อมข้อความเตือนภัย ระบุว่า “ลูกเพจฝากมาครับ คือคนรุ่นเราเนี่ย อาจจะไม่เชื่อว่ามุขแบบนี้มันใช้ได้ผล แต่มันใช้ได้จริง ๆ และมีเหยื่อถูกเล่นงานจากมุขนี้จริง ๆ ครับ ขอชื่นชมพนักงานธนาคารกรุงศรี สาขาสระแก้ว ที่เบรกเอาไว้ทัน ก่อนป้าแกจะหมดตัว
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตนำเสนอเรื่องราวของคุณป้าคนนึงนะคะ คุณป้าท่านนี้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพแจ้งว่าเป็นลูกสาวคนโต บอกว่าโทรศัพท์หายให้ลบเบอร์เก่าทิ้ง รวมทั้ง LINE แล้วบันทึกเบอร์ใหม่ที่โทรเข้ามา
หลังจากนั้น คุณป้าก็ทำตามที่มิจฉาชีพบอกทุกอย่าง ลบเบอร์ของลูกสาวตัวจริงทิ้ง ลบ LINE หลังจากนั้น ก็ติดต่อกับมิจฉาชีพมาตลอด โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าต้องการซื้อโทรศัพท์ใหม่ แล้วบอกว่าเงินไม่พอ ถ้าไม่ได้จ่ายเงิน จะไม่ได้ออกจากร้าน ความที่ป้าแกเป็นห่วงลูก ก็เลยถามไปว่าขาดเงินอีกเท่าไหร่ มิจฉาชีพบอกว่าขาดเงินอยู่ 10,000 บาท ให้ป้ารีบโอนมาให้ ไม่อย่างนั้นเจ้าของร้านจะไม่ยอม
ป้าแกกลัวลูกเป็นอันตราย ก็รีบจดเลขที่บัญชี แล้วรีบมาที่ธนาคาร เพื่อให้ธนาคารช่วยไปโอนเงินให้ที่ตู้เอทีเอ็ม ครั้งแรกธนาคารก็พาแกไปโอน เพราะคิดว่าแกจะโอนเงินให้ลูก ดูไม่มีพิรุธอะไร ก็โอนไปแล้ว 10,000 บาท
หลังจากนั้น ป้าก็โทรกลับไปบอกมิจฉาชีพ มิจฉาชีพถามว่าเหลือเงินอีกเท่าไหร่ ป้าแกก็บอกว่าเหลืออีก 10,000 บาท มิจฉาชีพก็เลยให้ป้าโอนอีกหนึ่งรอบ ป้าก็รีบร้อนขึ้นมาเรียกพนักงานให้ไปโอนให้
พนักงานสงสัย เลยเอาเลขที่บัญชีมาเช็กดู ปรากฏว่าเป็นบัญชีม้า มียอดเงินเข้าออกตลอดเวลา จึงโทรอายัดบัญชีให้ป้า แล้วก็บอกป้าว่า คนที่โทรมาเป็นมิจฉาชีพป้าก็ไม่เชื่อ ป้าแกก็ดึงดันจะโอนเงินไปให้มิจฉาชีพอย่างเดียว เพราะคิดว่าลูกกำลังเดือดร้อน
มิจฉาชีพมันกดดันป้าตามคลิปที่เห็นจริง ๆ กดดันมากกว่านี้ แถมบอกให้ป้าไปโอนเงินที่เซเว่น รวมทั้งกดดันป้าต่าง ๆ นานา ให้ออกจากธนาคาร รวมถึงด่าพนักงานด้วยที่เข้ามายุ่งเรื่องของครอบครัว สร้างสถานการณ์กดดันป้า พนักงานเตือนเท่าไหร่ ป้าก็ไม่เชื่อ แถมป้ายังแอบโกรธพนักงานด้วย แล้วก็ดึงดันจะโอนเงินไปให้ได้ จนพนักงานให้โทรหาแฟนของลูกสาว
ซึ่งก็ปรากฏตามคลิปที่เห็นนะคะว่า โดนหลอก อยากจะมาฝากทางเพจ ช่วยเตือนภัยให้หน่อยนะคะ คนแก่โดนกันเยอะมาก แล้วก็ไม่เคยเชื่อคนอื่นที่มาเตือนเลยนะคะ ดึงดันจะโอนอย่างเดียว”
---------------
วานนี้ (11 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่กรณีดังกล่าว พบกับ นางสมปอง อายุ 64 ปี อาศัยในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองบอน อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว
ป้าสมปอง เล่าว่า วันนั้น ตนเองกำลังทำงาน อยู่ ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ตนเองจึงตัดสินใจรับสาย ปลายสายแจ้งมาว่าเป็นลูกสาว ซึ่งได้ทำโทรศัพท์หาย จึงได้ใช้เบอร์ของเพื่อนโทรเข้ามาแจ้งป้าว่า ตอนนี้ หนูกำลังมาซื้อของเข้าร้าน แต่ว่า ตอนนี้เงินไม่พอ ขาดอีก 10,000 บาท ให้แม่ช่วยรีบโอนมาให้หน่อย
หลังจากนั้น ป้าก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ธนาคาร แต่ปลายสายแจ้งว่า ให้ไปที่เซเว่นไม่ให้ไปธนาคาร ด้วยความที่ป้าไม่รู้ว่าไปเซเว่น ป้าต้องทำยังไง เพราะตัวเองก็ถือสมุดบัญชีของธนาคารแห่งนี้อยู่ จึงได้รีบตรงไปที่เคาน์เตอร์ในธนาคาร ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยทำการโอน
หลังจากป้าโอนเงินไปแล้ว 10,000 บาท ทางปลายสายได้โทรกลับมาอีก พร้อมกับแจ้งว่า มันไม่พอ ต้องโอนเข้ามาอีก 10,000 บาท พร้อมทั้งใช้น้ำเสียง พูดจาข่มขู่ว่า ทำไมไม่ไปโอนที่เซเว่น ไปที่ธนาคารทำไม
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารเริ่มเอะใจ ด้วยพฤติกรรมของปลายสาย มีการเร่ง คะยั้นคะยอให้ป้ารีบโอนเงินแบบเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้ขอเปิดสปีกเกอร์โฟน เพื่อฟังเสียงปลายสาย ทางปลายสายยังได้ดุเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า มายุ่งทำไม ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เป็นเรื่องของครอบครัว
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ถามกลับไปว่า คุณเป็นลูกของป้า คุณลองบอกมาสิว่าคุณชื่อ-นามสกุล อะไร ซึ่งทางปลายสายไม่สามารถที่จะตอบได้
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้ให้ป้าโทรไปหาบุคคลใกล้ชิดกับลูกสา วเพื่อให้ยืนยันว่า ปลายสายนั้นเป็นลูกของตนป้าจริงหรือไม่ ป้าจึงได้โทรไปหาลูกเขย ด้านปลายสายคือลูกเขย แจ้งมาว่าคนที่โทรมาไม่ใช่ลูกแม่ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ พร้อมทั้งตอบมาอีกว่า แม่โดนหลอกแล้ว
ป้าสมปอง ยังเล่าอีกว่า ทีแรกตนเองไม่เชื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าโดนหลอก ตนเองยังบอกอีกว่า เสียงก็เป็นเสียงของลูกตนเองชัด ๆ แล้วจะเป็นคนอื่นได้ยังไง ด้วยความกังวลเป็นห่วงลูก กลัวลูกไปซื้อของ แล้วจะไม่มีเงินจ่ายเขา ก็เร่งรีบจะโอนเงินให้ลูก
หลังจากนั้น พอรู้ว่าตนเองโดนหลอกก็รู้สึกเสียใจ และตกใจ ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับตนเอง โดยปกติแล้ว ตนเองก็ไม่เคยดูข่าว หรือเล่นออนไลน์เลย จึงไม่เคยรู้ว่าจะมีแก๊งมิจฉาชีพแบบนี้
ป้ายังบอกอีกว่า ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ก็เป็นวันเกิดของป้าพอดี ก็เลยคิดเสียว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน โดยป้าก็อยากฝากเตือนภัย อย่าให้คนเฒ่าคนแก่ที่อยู่บ้านเหมือนป้า อย่ารับโทรศัพท์ใครมั่ว ๆ ถ้าไม่มีชื่อลูกของตน อย่ารับเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้โดนหลอกเหมือนตนเองได้
หลังจากนั้น ป้าสมปองจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
---------------
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางพบกับ น้องพัช เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองสระแก้ว ซึ่งเป็นคนโพสต์คลิปเตือนภัย พร้อมเล่าว่า ตนเองทำงานอยู่ในธนาคารแห่งนี้ ก็มักจะพบกับมิจฉาชีพซึ่งมาในรูปแบบต่าง ๆ บางทีก็เป็นเด็กนักเรียนถูกหลอกให้เปิดบัญชี บ้างก็เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง บ้างก็หลอกให้โอนเงิน บ้างก็หลอกให้ซื้อสินค้า
ตนอยากจะฝากเตือนให้บุตรหลานช่วยกันดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้าน และคอยพูดคุยกับคนในครอบครัวให้มาก ๆ ซึ่งจะได้รู้เท่าทันกลโกงของแก๊งมิจฉาชีพ เพราะทุกวันนี้ แก๊งมิจฉาชีพก็จะมาในรูปแบบที่หลากหลายต่างกันไป ตนเองก็เจอเคสแบบนี้มากขึ้นทุกวัน
อย่างเคสของป้าสมปอง ตนเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปลายสายมีการคะยั้นคะยอป้าให้เร่งโอนเงิน ซึ่งผิดปกติ ตนเองจึงได้ขอคุยกับปลายสายเอง จนกระทั่งรู้ว่าไม่ใช่ลูกของป้า ตนเองก็รู้สึกดีใจที่สามารถช่วยป้าไว้ได้ ไม่ให้สูญเงินไปมากกว่านี้
---------------
จากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางมายัง สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่า แต่ละวัน จะมีผู้ที่โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก โดยเข้ามาแจ้งความ ประมาณวันละ 1 เคส
3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เข้ามาแจ้งความแล้ว ประมาณ 90 -100 คน ทีเดียว ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น ได้มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความ โดยถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก สูญเงินไปกว่า 30,000 บาท
ด้าน พันตำรวจเอก สราวุธเอี่ยมสำอางค์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสระแก้ว กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าติดตาม เคสต่าง ๆ ซึ่งบางเคสก็มีผู้ที่ได้รับเงินคืนบ้างแล้ว
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tBkTVPGcWyE