พี่สาวโพสต์ซึ้ง อาลัยหนุ่มขับแกร็บ เสาหลักดูแลแม่ชรา-ป้าป่วยหนัก แม่เศร้าจากนี้ไม่มีลูกให้กอด

พี่สาวเหยื่อถูกฆ่าขโมยรถนำไปชิงทองเศร้ารับศพน้องชาย เผยสูญเสียเสาหลัก น้องขับรถหาเงินเลี้ยงลูกวัย 15 ปี และดูแลป้า กับแม่ที่ป่วยหนัก ด้านแม่เศร้า จากนี้ไม่มีลูกให้กอดแล้ว เผยเคยเตือนให้เลิกขับแกร็บ

วานนี้ (วันที่ 9 ก.ค. 2567) ที่วัดช่อแลพระงาม หมู่ 1 ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี เหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิต แล้วโดนชิงรถหลบหนีไปชิงทอง 70 บาท โดยญาติได้ช่วยกันเตรียมงานศพ

นางแสง อายุ 80 ปี แม่ของว่าที่ร้อยโทนายสุเทพ เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนดีมาก ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว เคยแต่งงานมีลูกชาย 1 คน ขณะไปทำงานที่ จ.ระยอง และกลับมาดูแลแม่ได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว โดยมีอาชีพเสริมเป็นเทรนเนอร์ลดน้ำหนัก และยังเป็นอสม.ดีเด่น ทั้งยังทำอาชีพเสริมเป็นไรเดอร์ขับแกร็บ

นางแสง กล่าวต่อว่า ก่อนเสียชีวิตเคยเตือนให้ลูกเลิกขับแกร็บ เนื่องจากอยากให้อยู่กับบ้านคอยดูแลแม่ แต่ลูกชายก็อยากทำงาน คนร้ายใจดำมากที่ทำกับลูกจนถึงชีวิต จากนี้ไปก็ต้องดูแลตัวเอง เนื่องจากขาดเสาหลักของครอบครัว ส่วนลูกสาวก็ต้องมาดูแลแม่ช่วงวันหยุดและวันเสาร์อาทิตย์ สำหรับผู้ก่อเหตุก็ปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรมที่กระทำไป หลังจากนี้คงไม่มีใครกอดแม่อีกแล้ว เพราะก่อนลูกไปทำงานจะกอดแม่ทุกครั้ง

ด้านนางกฤษณา อายุ 56 ปี พี่สาวของว่าที่ร้อยโทสุเทพ ที่วานนี้ ไปเดินเรื่องเอกสารขอรับศพน้องชายไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิดอำเภอแม่แตง โดยหลังเจ้าหน้าที่กู้ศพขึ้นมาจากเหวได้ ก็นำไปส่งที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อชันสูตรศพ ประกอบสำนวนคดี เมื่อเสร็จสิ้น จึงประสานญาติมารับไปประกอบพิธี โดยเจ้าหน้าที่ให้ยืนยันร่างก่อน จากนั้นจึงไปแจ้งตายรับใบมรณบัตรที่เทศบาลตำบลสุเทพ ก่อนจะนำเอกสารมายืนรับศพ

พี่สาว เปิดเผยว่า ว่าที่ร้อยโทสุเทพ เป็นน้องชายคนเดียว และเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของครอบครัว ฃที่จำเป็นต้องแยกทางกับภรรยาและลูกชายวัย 15 ปี ซึ่งอยู่ที่ระยอง เพื่อมาทำงานและดูแลป้าที่ป่วยติดเตียงกับแม่ที่ป่วยเรื้อรัง เมื่อทราบข่าวร้าย ญาติๆ ช็อกและเสียใจมาก เพราะน้องชายมาจากไปก่อนวัยอันควร ด้วยเหตุที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะผู้ก่อเหตุไม่ได้สนใจว่าจะเป็นใคร ก่อเหตุฆ่าแบบสุ่มเหยื่อ เพียงเพื่อหวังจะเอารถไปก่อเหตุชิงทอง ตอนนี้อดีตภรรยากับลูกชาย ทราบข่าวแล้ว กำลังจะเดินทางมาร่วมงานศพในวันนี้  (10. ก.ค.67)

ก่อนหน้านี้ ว่าที่ร้อยโทสุเทพ เพิ่งจะไปเยี่ยมลูกชายที่ จ.ระยอง และกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ ปกติจะเป็นคนนิสัยร่าเริง ชอบช่วยเหลือคนอื่น และขยันทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และส่งเสียลูกชาย ซึ่งส่วนใหญ่จะจอดรถพักนอนตามปั๊มน้ำมัน เพื่อสะดวกต่อการขับรถโดยสารบริการผ่านแอปพลิเคชั่น ปกติแม่มักจะเป็นห่วงน้องชายเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน มักกำชับให้ระวังอุบัติเหตุเสมอ  ไม่คิดว่าน้องชายจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดยเมื่อแม่รู้ข่าว ก็เสียใจมาก 

ส่วนที่พ่อและแม่ของผู้ต้องหา อยากจะมาขอขมาศพและญาตินั้น พวกตนก็ไม่ได้ห้าม เพราะมองว่าพ่อแม่ของผู้ต้องหาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการก่อเหตุ  เป็นคนละคนกันและไม่มีผลกระทบกับคดีความ ส่วนผู้ต้องหานั้น ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับความผิดที่ร้ายแรงที่ก่อขึ้น

นอกจากนี้ พี่สาวยังโพสต์ถึงน้องชายว่า“เกินกว่าจะเอ่ยถ้อยคำใด  เรามีกันอยู่เพียง 2 คนพี่น้อง  หากชาติหน้ามีจริงมาเจอกันอีกนะน้องรัก จำได้ว่าตอนน้องเกิดมาวันที่ 3 มกราคม 2519 ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่  พี่รออยู่ที่บ้านเมืองแกน เนื่องจากต้องไปเรียนหนังสือ ราว 3 - 4 วัน  หลังแม่คลอดน้อง เราได้เจอกันในยามบ่ายแก่ๆ  น้องหัวยาวเหมือนรูปในซองยาแก้ปวด  ข้าพเจ้าในวัย 9 ขวบบ่นพึมพำ อันที่จริงเพราะแม่มีแรงเบ่งน้อย คุณหมอเลยต้องใช้เครื่องดูดสูญญากาศดูดหัวออกมา ทารกเพศชายน้ำหนัก 3,200 กรัม ออกมาดูโลก

น้องเป็นเด็กดีแต่ซนตามประสาเด็กผู้ชาย มีอยู่ครั้งหนึ่งตอน 3 ขวบ น้องแอบเอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Casio ของพ่อไปแกะชิ้นส่วน แบบเละแถมแยกกองชิ้นส่วนด้านในเป็นกองๆ สิ่งหนึ่งในหัว คือ พี่คนนี้จะต้องโดนพ่อดุและตีด้วยไม้เรียว แต่ผิดคาดพ่อไม่โกรธ แต่บอกว่า "นาฬิก๋าฮาบ่ามีละแหล๋วละ" ตามด้วยเสียงหัวเราะของพ่อ "อีกหน่อยน้องมันจะเป๋นนายช่างใหญ่" แล้วหันมายิ้มให้ข้าพเจ้าที่นั่งใจตุ้มๆต่อมๆ

17 ปีต่อมา มีนายช่างใหญ่ในบ้านเราจริงๆน้องเรียนจบ ปวส.สาขาไฟฟ้ากำลัง (อาคารขนาดใหญ่) จากวิทยาลัยเทคนิค ก่อนหน้านั้นจบ ปวช.จากวิทยาลัยโปลิเทคนิค ระหว่างเรียนนั้นข้าพเจ้าส่งเรียนเพิ่มเติมด้านคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ จนจบระดับ10 ที่ AUA เชียงใหม่

และได้บรรจุเป็นพนักงานที่บริษัทระยองโอลีฟินเป็นเวลา 20 ปี หลังจากพ่อเสีย น้องจึงลาออกมาดูแลแม่กับป้าเต็มเวลา และมีอาชีพขับรถรับจ้างด้วย เพื่อส่งค่าผ่อนรถเดือนละ 6,500 บาท และค่าบ้านที่ระยอง 4,400 บาท/เดือน ซื้ออาหารเสริมให้แม่กับป้า ตัดหญ้าให้ทั้งบ้านพี่และบ้านแม่ เก็บหอมรอมริบ เอาลำไยไปขาย เผาถ่าน

ด้วยความเป็นห่วงน้องเรื่องสวัสดิการข้าพเจ้าจึงแนะนำให้น้องสมัครเป็น อสม.เพื่อได้ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท/เดือน แต่น้องชอบบ่นว่าไม่ค่อยมีเวลาทำงานให้หมู่บ้าน เพราะกำลังจะปลูกผักไว้ขาย เอาเถอะนะ ไม่ชอบก้อไม่เป็นไร ต่อไปน้องไม่ต้องทำแล้วก็ได้ เราคุยกันว่าอนาคตคงจะมีสองคนพี่น้องยามแก่เฒ่า ถ้าพี่จากไปก่อน น้องก็ดูแลบ้านได้ตามสบายเลย ลูกหลานคงจะอยู่ในเมืองหรือเมืองนอกกันหมด

แต่ชะตาชีวิตแสนสั้นเพราะน้ำมือโจรน้องต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ คุณความดีใดๆที่พี่ได้กระทำมาทั้งหมด ขออุทิศให้ดวงวิญญาณของน้องสู่สัมปรายภพ ฝากไปดูแลพ่อที่บนฟ้าด้วยนะ เมื่อถึงเวลาอันสมควรเราจะเจอกันที่นั่น รักน้องสุดหัวใจ จากพี่" 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Wh9H83z2xvs