สังคม

เร่งล่าคนร้ายจี้ชิงเงินกว่า 3 ล้าน ในลานจอดรถห้างย่านประเวศ พบประวัติโชกโชน

โดย panwilai_c

6 ก.ค. 2567

50 views

ตำรวจเร่งไล่ล่า บอล ปากแหว่ง ร่วมกับพวกใช้ปืนจี้ชิงเงินกว่า 3 ล้าน ที่ย่านประเวศ พบประวัติก่อคดีอาชญากรรมมาอย่างโชกโชน ขณะที่ผู้การจ๋อ ยันหากผู้ต้องหายิงสู้ขัดขืนตำรวจพร้อมใช้มาตรการเด็ดขาดทันที



พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมความคืบหน้า 2 คนร้ายใช้ปืน ชิงเงินสด 3.3 ล้านบาท ไปจากบริเวณลานจอดรถห้างดังแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง แล้วหลบหนีไป



พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยว่าจากการสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุ มีทั้งหมด 2 คน โดยได้มีการออกหมายจับแล้ว 1 คือ นายนันทพร เพียนทำดี อายุ 35 ปี หรือ ฉายา บอล ปากแหว่ง ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้ผู้เสียหาย ระหว่างทำการเบิกเงินจากธนาคาร ก่อนจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน มารอรับเงินและขับรถหลบหนีออกไป



โดยพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ พบว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการมาเปิดห้องโรงแรมแถวที่จะก่อเหตุ 1 วัน และวันก่อเหตุ ได้มาจอดรถรอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้เสียหายจะมาเบิกเงิน



จากการตรวจสอบประวัติ นายบอล ปากแหว่ง พบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อปี 2551 ถูกดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร โดยใช้วิธีการดักจี้เหยื่อ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนหนุ่ม โดยทำการชิงทรัพย์และพาผู้หญิงไปข่มขืน พ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 2566



ต่อมาเดือนธันวาคม 2566 ก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา ในพื้นที่ สน.โชคชัย โดยมีการจี้ผู้หญิงที่มาจอดรถอัลพาร์ดนอนหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนขับพาผู้หญิงไปกระทำชำเรา และทิ้งผู้หญิงลงข้างทาง ก่อนชิงรถอัลพาร์ดไป ซึ่งเจ้าตัวยังหลบหนีหมายจับ จนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้



พลตำรวจตรีนพศิลป์ ย้ำว่า ผู้ต้องหารายนี้ ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย โดยเมื่อครั้งตำรวจเข้าจับกุมตอนปี 2551 ผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้อาวุธปืนต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ โดยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทางภาคตะวันออก โดยให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมแล้ว และฝากเตือนไปยังผู้ให้การช่วยเหลือว่าจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน



ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ ส่วนจะมีคนอื่นร่วมบววนการอีกด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน แต่ตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีอีก เพราะมีการวางแผนมายังดี



สำหรับเงิน 3.3 ล้านบาทที่ผู้เสียหายเบิกมานั้น ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าของเงินว่า เป็นเงินจากการทำธุรกิจอะไร และจะเบิกเงินไปทำอะไร ยืนยันว่าจะทำทุกมิติในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงคดีนี้


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/tSJ6jzE1IFU

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ