สังคม

“บิ๊กเต่า” พบกล้องวงจรปิด แฉลูกเรือเตรียมเสบียงกว่าปกติ ก่อนเรือขนน้ำมันเถื่อนหาย

โดย paranee_s

13 มิ.ย. 2567

477 views

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยอีกครั้งหลังประชุม และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า จากการสอบปากคำตำรวจเวรคืนวันเกิดเหตุ 2 นาย และผลัดก่อนหน้า 1 นาย มองว่าทางตำรวจทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์เอง โดยการปล่อยปละละเลย หรือทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนให้ครบถ้วน หรือทำนิดหน่อย จนเกิดความเสียหาย และบกพร่องต่อหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างแน่นอน รวมถึงผู้บังคับบัญชาด้วย รวมทั้งหมด 5 นาย


โดยขั้นตอนก็จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ของทั้ง 5 นายว่า มีส่วนล่อแหลม ทำให้เกิดเหตุการณ์ความเสียหายครั้งนี้อย่างไร มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องการสืบสวนให้ครอบคลุมทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ประกอบกับเราได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนของ ปปป. คู่ขนานกับตำรวจน้ำ หากพบความผิด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด ม.157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่


โดยล่าสุดชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและจากการซักถามพยาน รู้แล้วว่าใครบ้างอยู่ในคืนวันเกิดเหตุ ประกอบกับวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนนี้ พนักงานสอบสวน ปอศ. จะออกหมายเรียกลูกเรือ 17 คนที่หลบหนีมารายงานตัว หลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 28 คน ซึ่งอยู่ระหว่างสกรีนแต่ละคน ส่วนจำนวน 17 คนที่หลบหนีนั้น พบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดว่าในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ลูกเรือมีการซื้อเสบียงขนของขึ้นเรือมากกว่าทุกวัน แสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมตัว หากหลักฐานชัดเจนจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป


ส่วนเรื่องประเด็นมีเจ้าหน้าที่รับสินบนหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างขยายผล เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่ตรงนี้ และเรากำลังตามทรัพย์สินและของกลางที่หายไป หลังจากนี้จะเข้าใจว่าตำรวจเราทำอะไรบ้าง / รวมถึงกระแสข่าวมีการนำเงิน 6 ล้านมาเคลียร์ เป็นค่าใช้จ่ายในการเอาเรือออกไปด้วย


ทั้งนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และทำการสืบสวนทางเทคนิค ทั้งใต้ดินบนดิน โดยเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะข้ามน่านน้ำไทยไปแล้ว แต่ปลายทางไม่มีใครรู้


ส่วนการหลบหนีจะใช้วิธีอย่างไร เนื่องจากเรือไม่มี GPS ทางตำรวจเชื่อว่า 1.หนีโดยการเอาเครื่องเทคนิคอื่นมาใส่ 2.ใช้แอพยิงดาวเทียมขึ้น 3.มีเรือนำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอความชัดเจนก่อน


รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกอีกว่า “ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย แต่เรื่องนี้ตำรวจบกพร่องเอง ซึ่งก็ต้องหาวิธีแก้ไข เพราะยังมีอีกหลายจุดล่อแหลม เรามองว่าหากเขาแน่จริง (เสี่ยโจ้) คงไม่หนีออกนอกประเทศ และคงเจออีกหลายเรื่องราว เราเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ก็ต้องตามไล่จับ และต้องไปตามเอาเรือกลับมาคืนให้ได้ ยืนยันไม่เกินความสามารถที่จะหาเรือให้เจอว่าอยู่พิกัดไหน จะดำเนินการให้ทุกมิติ”


ด้านพันตำรวจเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม บอกว่า คดีนี้เป็นคดีที่กองปราบทำตั้งแต่แรก เป็นของ ปอศ. ยืนยันว่าเรามีข้อมูลในคดีเรื่องน้ำมันเถื่อนทั้งหมด รู้ทั้งที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าของ แต่ในส่วนของคดีที่จับผู้ต้องหา 28 คน จับห่างจากฝั่งหลายไมล์ทะเล อยู่ในน่านน้ำสากล


ส่วนพฤติการณ์คร่าวๆ คือเรือไปรับน้ำมันจากเรือใหญ่กลางทะเลนอกน่านน้ำไทย และจะรับกลับมาขึ้นฝั่งพื้นที่อ่าวไทย จ.เพชรบุรี , จ.สมุทรสาคร และโซนภาคใต้ แต่จะเชื่อมโยงถึง “เสี่ยโจ้” เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ ตำรวจมีหลักฐาน แต่ขอให้อยู่ในสำนวน และขอขยายผลก่อน ตลอดจนเส้นทางการเงินว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ เบื้องต้นพบหลักฐานบางส่วนเชื่อมโยงกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ