สังคม
น้าชายน้าสาวร้อง หลานชายตกตึกชั้น 4 ปริศนาอาการโคมา หลังนัดพบสาวผ่านโซเชียล คดียังไร้ความคืบหน้า
โดย kanyapak_w
7 มิ.ย. 2567
241 views
นางสาวรัตติญา อายุ 48 ปี พร้อมด้วย นายเรืองสินธุ์ อายุ 45 ปี มาขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังเกิดเหตุที่หลานชาย ไปหาสาวที่รู้จักกันจาก โซเชียลมีเดีย ที่อาคารแห่งหนึ่งย่านบางชัน แต่กลับปรากฏว่าหลานชายตกตึกจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสตอนนี้โคมานอนไม่รู้สึกตัวอยู่ในโรงพยาบาล
โดยนางสาวรัตติญา ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นอาคารแห่งหนึ่งที่อยู่ในย่านบางชัน เหตุเกิดในพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาลบางชัน
ซึ่งหลานชายเดินทางไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งทราบว่า ตอนแรกมีการไปหาหญิงสาวที่ไปนั่งกินหมูกระทะกันก่อน ก่อนจะมานั่งดื่มกินกันต่อและกลับไปที่ตึกดังกล่าว เพราะเนื่องจากมีหนึ่งในสองของผู้หญิงที่หลานชายไปหาเป็นพนักงานดูแลร้านกาแฟดังกล่าวและพักอาศัยอาศัยอยู่บริเวณที่ชั้นสี่ของอาคาร
ก่อนที่ได้รับต่อมาตนเองจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า หนึ่งในผู้หญิง ที่หลานชายไปหามีคนนึงนอนอยู่บนเตียงและหลับตา ส่วนอีกคนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำโดยใช้เวลาไม่นานก่อนจะออกมาและไม่พบกับตัวหลานชายของตนเอง จึงมีการพยายามตามหาและพบว่ามานอนหมดสติมีเลือดออกที่ปากอยู่ที่ริมถนน จึงมีการเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และลงบันทึกประจำวันไว้กับทางตำรวจ สน. บางชัน
สิ่งที่ตนเองรู้สึกผิดปกติกับเหตุการณ์นี้ก็คือ หลังเกิดเหตุหนึ่งในสองของผู้หญิงที่หลานชายตนเองไปหามีการใช้โทรศัพท์ของหลานชายตนเองโทรไปหาเพื่อนของหลานชายเพื่อแจ้งข่าวว่าหลานชายตกตึกได้รับบาดเจ็บ โดยตนเองสงสัยว่าเหตุใดจึงรู้รหัสของโทรศัพท์หลานชายตนเอง ซ้ำยังมีการบอกกับทางเพื่อนของหลานชายในทำนองว่ามีผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่เมื่อมีการไปลงบันทึกประจำวันกลับไม่มีการบอกในประเด็นนี้
ตนเองและน้าชายอีกคนได้มีการพูดคุยกับผู้หญิงที่หลานชายไปหา ทั้งคู่ได้มีการบอกเล่าถึงเหตุการณ์ว่าช่วงเกิดเหตุ มีผู้หญิงคนหนึ่งไปนอนอยู่บนเตียงเพราะทั้งสามคนมึนเมาและต้องการไปพักสายตา ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งและหลานชายตนเองได้นั่งคุยกันอยู่ที่ปลายเตียงก่อนที่ในเวลาต่อมาผู้หญิงคนที่นั่งคุยกับหลานชายตนเองจะเดินเข้าห้องน้ำไป และใช้เวลาอยู่ไม่นานออกมาจากห้องน้ำก็ไม่พบว่าหลานชายอยู่ในห้องแล้ว
ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงในประเด็นเกี่ยวกับเรื่องผู้ชายที่มีการพูดกับทางเพื่อนของหลานชายก่อนหน้านี้ ซ้ำทั้งสองยังยืนยันกับทางครอบครัวว่าไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ตอนที่หลานชายตกไปจากที่พัก ที่ชั้นสี่ แต่กลับไปลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจโดยระบุชัดเจนว่าหลานชายเป็นคนกระโดดตกไปเองซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ
ซ้ำเมื่อทางครอบครัวได้เห็นกล้องวงจรปิดขณะที่หลานชายตกกระแทกพื้นก็พบสังเกตเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องท่าทางของหลานชายซึ่งไม่เหมือนกับคนตกตึกโดยทั่วไป เป็นลักษณะคล้ายเป็นการถูกทำให้ตกลงไปหรือไม่
ทางครอบครัวในตอนแรกก็ไม่เชื่อคำบอกเล่าของสองสาวที่หลานชายเดินทางไปหายิ่งมาเจอกับภาพจากกล้องวงจรปิดยิ่งทำให้ไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยส่วนตัวในเรื่องของการฆ่าตัวตายไม่มีทางเกิดขึ้นได้เพราะหลานชายไม่เคยมีสัญญาณเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายใดๆ และการหาหญิงสาวในครั้งนี้ก็ไม่มีเหตุจะต้องให้ฆ่าตัวตายแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุน้าชายได้มีการพยายามจะเข้าไปขอดูที่เกิดเหตุ แต่ทางหญิงสาวที่เป็นพนักงานของร้านดังกล่าวซึ่งเป็นหนึ่งในสองหญิงสาวที่อยู่กับหลานชายตนเองก่อนเกิดเหตุการณ์ กลับบ่ายเบี่ยงปฏิเสธไม่ให้ตนเองเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยอ้างว่าเกรงว่าเจ้านายจะว่า แล้วตนเองไม่ได้มีการติดต่อไปสอบถามกับทางเจ้าของสถานที่ ที่ตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพ เพื่อให้ช่วยเหลือในประเด็นนี้
ขณะที่ความคืบหน้าในทางคดีถึงขนาดนี้เป็นเวลากว่าสี่วันยังไม่รับความคืบหน้าใดๆ ตำรวจไม่ได้มีการเรียกใครเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม ซ้ำตนเองยังเคยเข้าไปติดตามความคืบหน้าในคดีที่สน. เจ้าของคดีกลับบอกว่าไม่อยู่และมีการฝากเรื่องไว้กับบุคคลหนึ่ง แต่เมื่อมีการไปถามบุคคลคนนั้นกลับโยนกลับไปให้ถามความคืบหน้ากับเจ้าของคดีเองและเดินหนีไป ตนเองดูข่าวมาเยอะเกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจไม่ยอมทำงานช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเองจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วยตนเอง
น้าชายและน้าสาวยังร้องขอผ่านสื่อมวลชนไปยังประชาชนที่อยู่ในรอบพื้นที่จุดเกิดเหตุหากใครที่ได้ยินเสียงผิดปกติในช่วงวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา หรือใครที่มีกล้องหน้ารถสามารถบันทึกช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ ขอให้ช่วยส่งพยานหลักฐานมาให้กับทางครอบครัวเนื่องจากทางครอบครัวต้องการรู้ความจริงว่าวันดังกล่าวเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น มีใครทำให้หลานชายตนเองต้องตกจากอาคารสูงสี่ชั้นหรือไม่
ด้านนายเอกภพ ระบุว่า จากการที่ได้ดูกล้องวงจรปิด ของผู้บาดเจ็บขณะตกกระแทกพื้นพบว่ามีความผิดปกติในเรื่องของท่าทางที่คล้ายกับการตกตามปกติ หรือตกด้วยตัวเอง เพราะท่าทางดูผิดปกติ ประกอบกับคำให้การของทางผู้หญิงทั้งสองคน ที่ให้การกับทางตำรวจในวันลงบันทึกประจำวันไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เปิดเผยกับทางญาติ
ตนเองอยากฝากถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางชัน ให้ดำเนินการในประเด็นนี้พร้อมทั้งคำถามว่าเหตุใดหลังเกิดเหตุทำไมถึงไม่มีการเรียกหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงอยากให้ทางผู้กำกับ สน.บางชัน ลงมาช่วยดูในคดีนี้
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองจะพาผู้เสียหายลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุและขอความร่วมมือเจ้าของอาคารในการตรวจสอบจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดตก เพื่อความชัดเจน
แท็กที่เกี่ยวข้อง อาชญากรรม ,พลัดตกตึก ,ปมตกตึก