เลือกตั้งและการเมือง

'แบงค์ ศุภณัฐ' อัดกทม. จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพง 'ลู่วิ่ง 7.5 แสน' กางราคายุคชัชชาติแพงกว่าอัศวิน

โดย passamon_a

6 มิ.ย. 2567

119 views

กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากที่ เพจ ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย ออกมาแฉข้อมูลโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ภายในศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ 2 แห่ง ของ กทม. ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย.67 สส.ก้าวไกล คุณแบงค์ ศุภณัฐ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มตัวเลขการจัดซื้อ พบว่าราคาลู่วิ่งยุคผู้ว่าฯชัชชาติ แพงกว่ายุคผู้ว่าฯอัศวิน ถึง 3 เท่า และแพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่า และส่อทุจริตด้วย


จุดเริ่มต้นมาจากเพจชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย โพสต์ข้อมูลเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา บอกว่า เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย พบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อแพงจริงภายในศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ - Wachirabenchathat รวมกัน 2 ที่เกือบ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท และศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท


นอกจากนี้ ยังมีโพสต์อื่น ๆ ตามมา บอกว่า ใครอยากลองลู่วิ่งราคา 7.5 แสน จักรยานปั่น 4.8 แสน ดัมเบลชุดละ 2.7 แสน เชิญที่ศูนย์กีฬา อ่อนนุช มิตรไมตรี เฉลิมฯ72 วารีฯ วชิรเบญจทัศของ กทม.


อีกโพสต์บอกว่า ปี 67 กทม.จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการ เกือบ 80 ล้าน 2 บริษัท สลับกันได้งาน วาล็อค และ แกรนด์สปอร์ต


นอกจากนี้ มีภาพเอกสารแสดงราคากลางในการจัดซื้ออุปกรณ์ อย่างของศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 11 รายการ ประกอบด้วย

1. อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง 759,000 บาท

2. จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีผนักพิง 1 เครื่อง 483,000 บาท

3. จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง เครื่องละ 451,000 บาท

4. อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง 466,000 บาท

5. อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อขาด้านหน้าและขาด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท

6. อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อห้วงไหล่ อก และหลังแขน 1 เครื่อง 483,000 บาท

7. อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 652,000 บาท

8. ชุดดัมเบลพร้อมชั้นวาง 1 เครื่อง 276,000 บาท

9. อุปกรณ์บาร์โหนฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 302,490 บาท

10. เก้าอี้ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง 1 เครื่อง 103,000 บาท

11. เก้าอี้ฝึกตัมเบลดัมเบลแบบปรับระดับได้ 1 เครื่อง 96,000 บาท


ส่วนของศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท 11 รายการ เช่นกัน อาทิ

1. จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีพนักพิง 3 เครื่อง ราคา 1,449,000 บาท เครื่องละ 483,000 บาท

2. จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง ราคา 902,000 บาท เครื่องละ 451,000 บาท

3. อุปกรณ์ บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง ราคา 466,000 บาท

4. อุปกรณืบริหารกล้ามเนื้องขาด้านหน้า และด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท เป็นต้น


และที่เป็นประเด็นร้อนแรงมากขึ้น ทำให้ทาง กทม. ทั้งผู้ว่าฯชัชชาติ และรองผู้ว่าศานนท์ เตรียมจะมีการแถลงข่าวชี้แจง วันนี้ (6 มิ.ย.67) ที่ศาลาว่าการ กทม. เนื่องจาก สส.แบงค์ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์ข้อมูลเพิ่ม บอกว่า ขอบคุณชมรม STRONG ที่ออกมาเปิดโปงเมื่อวานครับ จริง ๆ เรื่องนี้ผมตามส่องมาตั้งแต่เมื่อต้นปี โดยได้ส่งหนังสือลงวันที่ 19/1/67 ให้กทม.ชี้แจงแล้ว 1 โครงการ คือ โครงการปี 65 สมัยผู้ว่าอัศวิน ซึ่งพบว่ารายการที่กทม.ซื้อนั้น แพงกว่าราคาตลาด (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปคเดียวกัน) โดยเฉลี่ยถึง 4 เท่า เลยขุดเพิ่มอีกหลายโครง


และเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ผมให้ทาง กมธ.ติดตามงบประมาณ ส่งหนังสือตรงไปยังผู้ว่า กทม.เพื่อให้ชี้แจง โครงการซื้อครุภัณฑ์ 10 โครงการ ช่วงปี 65-67 โดยเป็นโครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายรวม 9 โครงการ รวมมูลค่า 74 ล้าน เพราะต้องสงสัยว่าอาจมีการทุจริต เนื่องจากราคากลางที่กทม.ใช้นั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่ากลัว (แพงกว่ายุคแรก ๆ 3 เท่า จาก 254,000>> 759,000) ทำให้ราคาของที่กทม.จัดซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5-10 เท่า แต่ทาง กทม.ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงกลับมายัง กมธ.


สส.แบงค์ บอกด้วยว่า จริงๆ โครงการซื้อเครื่องออกกำลังกาย ช่วงปี 2562-2567 มีไม่น้อยกว่า 110 ล้านบาท เป็นของสมัยผู้ว่าอัศวินอย่างน้อย ๆ 25 ล้าน ส่วนผู้ว่าชัชชาติอีก 87 ล้านบาท


และถ้าไปดูในรายการราคาเครื่องออกกำลังกายแต่ละชิ้น อย่างราคาลู่วิ่ง ยุคผู้ว่าอัศวิน (2559-2565) ราคาตัวละ 254,000 (ปี 62) แล้วมีการปรับราคากลางขึ้นมาเป็น 500,000 (ปี 63) มีการปรับลงมาตัวละ 334,000 (ต้นปี 65)


พอมายุคผู้ว่าชัชชาติ (2565-2567) ราคาลู่วิ่ง ปรับราคาขึ้นมาเป็น ตัวละ 518,000 ในปี 65 และตั้งแต่ปี 66 ราคาได้กลางกระโดดไปที่ตัวละ 759,000 บาท โดยมีหลายโครงการที่ใช้ลู่วิ่งราคา 759,000 บาท บอกพิกัดด้วย ไม่ใช่แค่ที่ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ แต่มีทั้ง ศูนย์มิตรไมตรี ศูนย์วัดดอกไม้ ศูนย์วารีภิรมย์ ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และศูนย์อื่น ๆ ที่คาดว่ามีได้รับเครื่องออกกำลังกาย ราคาสูงเกินราคาตลาด 5-10 เท่า ตั้งแต่ปี 62-67 ด้วย ได้แก่ ศูนย์เยาวชนดอนเมือง ศูนย์เยาวชนหนองจอก ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่ ศูนย์เยาวชนลุมพินี ศูนย์เยาวชนคลองสามวา ศูนย์เยาวชนทวีวัฒนา ศูนย์เยาวชนเกียรติกาย ศูนย์เยาวชนชัยพฤกษมาลา ศูนย์เยาวชนอัมพวา


นอกจากราคาจะพุ่งแบบก้าวกระโดดแล้ว สส.แบงค์ ยังระบุด้วยว่า มีการล็อคผลงาน ทำให้ช่วงหลัง ๆ คนเสนอราคาแข่งกัน จะเป็นหน้าเดิม ๆ 3 บริษัท


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uAYHQ4MjI-M

คุณอาจสนใจ

Related News