สังคม

แม่โต้บังคับลูกค้ากาม หลังสาววัย 22 ร้องถูกพ่อแท้ๆข่มขืน แม่บังคับขายบริการ หาเงินซื้อยาบ้าเสพ

โดย thichaphat_d

6 มิ.ย. 2567

292 views

สาววัย 22 ถูกพ่อแท้ๆข่มขืน แม่บังคับขายตัวหาเงินซื้อยาบ้าเสพ เจ้าตัวสุดทนนั่งรถตู้ไปร้องมูลนิธิ ด้านแม่โต้ไม่เคยคิดให้ลูกค้าบริการ ยอมรับแค่เสพยาจริง อ้างเจ้าของหอเป็นคนพาไป

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.67) นายวรุต ขำเขนก ผอ.มูลนิธิเพื่อให้โอกาส อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี  มาแจ้งความที่ สภ.เมือง บุรีรัมย์  เนื่องจาก น.ส.เอ ไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ ว่าถูกแม่แท้ๆบังคับให้ขายบริการ เพื่อเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ


นายวรุต  เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เอ นั่งรถตู้ ไปพบตนที่มูลนิธิฯ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยบอกว่า ถูก น.ส.กัลยา แม่แท้ๆ บังคับให้ขายบริการรวม 10 ครั้ง กับผู้ชายคนเดิม เพื่อเอาเงินให้แม่ไปซื้อยาบ้ามาเสพ  โดยก่อนที่จะเดินทางมามูลนิธิฯ ก็เพิ่งถูกแม่บังคับให้ไปขายบริการอีก จนน้องทนไม่ไหว ต้องมาขอความช่วยเหลือ


เจ้าหน้าที่มูลนิธฯ ได้ตรวจร่างกายน้องเบื้องต้น พบว่ามีคราบอสุจิในช่องคลอดจริง จึงรีบพาไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลนางรอง   ก่อนจะพามาแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์  


นายวรุต ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าครอบครัวน้องเอ มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ส่วนใหญ่แม่จะเอาลูกๆ มาฝากไว้ที่มูลนิธิฯ เกือบทั้งหมด  โดยน้องเอซึ่งเป็นลูกคนโต ก็ถูกเอามาฝากไว้ที่มูลนิธิฯ ตั้งแต่อายุได้ 12 ปี  ซึ่งตอนที่เอามาฝากตอนนั้น สาเหตุเพราะน้องเอถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน  หลังจากนั้นพ่อถูกดำเนินคดีและหายสาบสูญไป


เมื่อน้องเอ อายุได้ 19 ปี แม่กับพ่อเลี้ยงก็มารับตัวไปอยู่ด้วย  น้องเอเล่าสภาพหลังจากไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงว่า แม่เสพยาบ้าเป็นประจำ  จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แม่บังคับให้ไปร่วมหลับนอนกับชายคนหนึ่ง ตอนแรกน้องเอไม่ยอม แต่ถูกแม่ทำร้าย จึงจำเป็นต้องทำตามแม่บอก หลังจากนั้นแม่พาตนไปหาชายคนเดิมอีกเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 10 ครั้ง  จนทนไม่ไหวจึงนั่งรถตู้ประจำทางไปขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิฯ

หลังได้รับเรื่องร้องเรียน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์  ไปพบกับ น.ส.กัลยา อายุ 44 ปี  แม่ของน้องเอ ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์


น.ส.กัลยา บอกว่า ตนกำลังตามหาลูกสาว  เพราะหายออกจากบ้านไปเมื่อ 2 วันก่อน  ไม่คิดว่าลูกจะไปที่มูลนิธิฯ ที่เคยอยู่  สาเหตุที่ลูกสาวไปที่มูลนิธิฯ คาดว่าน่าจะเกิดอาการทางจิตเวช เพราะเคยไปรักษาและรับยามากินเป็นประจำ


ส่วนที่ลูกสาวกล่าวหาว่าตนพาไปขายบริการนั้นไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น คาดว่าลูกน่าจะเอาเหตุการณ์ที่ประสบมา คือมักจะถูกผู้ดูแลบ้านพักชวนไปหลายครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการเสพยานั้น ตนยอมรับว่าเสพจริง


ส่วนสาเหตุที่ลูกต้องไปหาคนเฝ้าหอพัก เพราะไปขอเข้าห้องน้ำที่ห้องคนดูแลหอพัก เนื่องจากตนกับลูกสาวขออาศัยอยู่หน้าห้องพัก เพื่อรอเงินจากสามีเอามาจ่ายค่าเช่าก่อนเข้าไปอยู่ จำนวนเงิน 6,000 บาท คือเช่าเดือนละ 3,000 บาท จ่ายล่วงหน้า 3,000 บาท รวมเป็น 6,000 บาท  จึงไม่มีห้องน้ำใช้  ลูกสาวจึงไปขอใช้ห้องน้ำที่ห้องคนดูแลหอ ที่ชื่อนายจำรัส อายุ 62 ปี และคาดว่าน่าจะถูกผู้ดูแลหอทำอนาจารระหว่างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเคยให้เงินกับลูกมา 400 บาท ซึ่งตนเคยห้ามแล้ว


ขณะที่นางสาวรตะวรรณ อายุ 38 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามห้องเช่า เล่าว่า เห็นครอบครัวนี้มาอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน แต่เข้าไปในห้องไม่ได้ เพราะยังไม่ได้จ่ายค่าเช่า ต้องอาศัยหลับนอนอยู่หน้าห้องเช่าเพื่อรอเงินจากสามีเอามาจ่ายค่าเช่าและค่ามัดจำห้องจำนวนเงิน 6,000 บาท  และที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นแม่ทำร้ายลูกสาว  ไม่เคยแม้จะดุด่า มีแต่จะออกตามหาเวลาลูกหายไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Z-pYZawHcr8

คุณอาจสนใจ

Related News