อาชญากรรม

'โฟโต้' เครียดนอนคุก แจงไม่ตั้งใจฆ่า รับชีวิตเสียอนาคต ญาติลั่นไม่อโหสิกรรม แต่เข้าใจพ่อสำนึกผิดแทนลูก

โดย thichaphat_d

3 มิ.ย. 2567

679 views

คุมตัว ‘โฟโต้’ ผู้ต้องหาแทงหนุ่มใหญ่ส่งศาลฝากขัง คัดค้านประกันตัวโทษหนัก เจ้าตัวเครียดขอโทษครอบครัวตัวเองไม่ได้ตั้งใจฆ่า ไม่ขอประกันตัว ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ย้ำ “พี่เค้าเสียชีวิต ผมก็ต้องเสียอนาคต เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนี้” ด้านครอบครัวผู้ตาย นิมนต์พระเชิญวิญญาณคอนโดเกิดเหตุ ญาติลั่นไม่อโหสิกรรม แต่ยินดีที่ผู้เป็นพ่อจะมาขอขมา เพราะรู้สึกได้ว่าสำนึกผิดจริง

กรณีที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ควบคุมตัวนายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ หรือ โฟโต้ อายุ 27 ปี อดีตนักศึกษานิติศาสตร์ ม.ดัง ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธมีดฆ่า นายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี เสียชีวิตในห้องพักคอนโดย่านงามวงศ์วาน อ.เมืองนนทบุรี แล้วหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในเขตอำเภอเมืองชุมพร

คืบหน้าวานนี้ (2 มิ.ย.) ตำรวจคุมตัวนายภูริณัฐ ไปฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี  ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามระหว่างที่ตำรวจคุมตัวใส่กุญแจมือขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาใส่เสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสั้น เสื้อฮู้ดสีดำคุมหัว และใส่หน้ากากอนามัย นายภูริณัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวพร้อมกล่าวขอโทษครอบครัวนายไพศาล ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งที่ทำลงไปเพราะต้องการป้องกันตัว และเป็นอุบัติเหตุพร้อมย้ำว่า “พี่เค้าเสียชีวิตผมก็ต้องเสียอนาคต เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนี้” ส่วนรายละเอียดว่าเป็นอุบัติเหตุอย่างไรนั้นได้แจ้งและรับสารภาพกับตำรวจไปทั้งหมดแล้ว

พร้อมยอมรับว่าได้ไปซื้อมีดแต่ไม่ได้เป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า และไม่ได้คิดว่าจะนำไปเตรียมการฆ่าใคร แต่เพราะมีปัญหากับผู้เสียชีวิตเรื่องการทำธุรกิจก่อนหน้านี้ ประกอบกับตัวเองมีปัญหาทางด้านร่างกายที่ไม่แข็งแรง จึงยิ่งกลัวและมีปัญหาทะเลาะกับผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้แล้วก่อนจะเดินทางไปเจอกัน ส่วนเรื่องบัตรประชาชนของบุคคลอื่น ๆ อีก ที่ตำรวจตรวจพบ ผู้ต้องหาไม่ขอตอบในประเด็นนี้เพราะให้ข้อมูลกับตำรวจไว้ทั้งหมดแล้วก่อนจะย้ำอีกครั้งระหว่างนั่งอยู่บนรถควบคุมผู้ต้องหาว่า “อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตมาก ๆ และขอโทษครอบครัวตัวเอง” พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ไม่ได้ร้องขอให้ครอบครัวเตรียมมาประกันตัว ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป

ขณะที่ก่อนรถควบคุมผู้ต้องหาจะเคลื่อนออก ในช่วงท้ายยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือ ”ยอมรับว่าตอนนี้เครียดทุกเรื่อง ไม่มีอะไรที่ไม่กังวลเลย กังวลตั้งแต่วันแรกที่เหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งรู้ว่าตัวเองตกเป็นจำเลยสังคม เพราะเลือกที่จะหลบหนีหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ยอมรับว่าไม่มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้เลือกที่จะหนีไปไหน แค่อยากกลับบ้านเพื่อไปพูดคุยกับครอบครัวก่อน“

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายภูริณัฐ หรือ โฟโต้ นำตัวไปศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูงสุดขั้นโทษประหารชีวิต ซึ่งนายภูริณัฐเองก็มีท่าทีเคร่งเครียดเช่นกัน ขณะที่พ่อของนายโฟโต้ กล่าวเพียงสั้น ๆ ระหว่างตำรวจคุมตัวลูกชายไปฝากขัง ว่าตนในฐานะพ่อของผู้ก่อเหตุ ต้องขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนลูกชายด้วย หลังจากนี้หากครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ว่าอะไร ตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปแสดงความเสียใจแทนลูกชาย

ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูป ไปทำพิธีเชิญวิญญาณของนายไพศาล ที่ห้องพักชั้น 6 คอนโดฯ จุดเกิดเหตุ  โดยแม่ร้องไห้ได้จุดธูปบอกลูกชายว่า “โต้สแม่มารับน้องกลับบ้านแล้วนะ ไปอยู่กับแม่นะ กลับบ้านกับแม่นะ หนูจะได้ตายตาหลับไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ แม่อยู่ได้” จากนั้นพระได้ทำพิธี บอกให้ตามหลวงพี่ไปที่วัดไม่ต้องห่วงแม่จับคนร้ายได้แล้ว ขอให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยเปิดทาง ในห้องได้มีการทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีกลิ่นอยู่บ้างเล็กน้อย  

ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทางครอบครัวก็ลงมาจากอาคารด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย พร้อมกับกล่องพัสดุกล่องสุดท้ายของผู้ตาย จากนั้นนางบรรจง ทองอ่อน อายุ 80 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่ายังรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะยังเห็นภาพของลูกชายที่เขาขึ้นไปแล้วไม่มีโอกาสกลับลงมาอีก ส่วนเรื่องของผู้ต้องหาที่มาขอโทษ เชื่อว่าไม่ได้มาจากใจและไม่ได้สำนึกผิด เพราะยังมาโทษลูกชายว่าทำร้ายเขา ติดหนี้อีก 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้

ขณะที่พี่ชายของผู้เสียชีวิตบอกว่า ตอนที่เข้าไปในห้องก็รับรู้ได้เช่นกัน คือ รู้สึกขนลุก และน้ำตาไหล เพราะต้องเข้าไปในห้องที่น้องชายเสียชีวิต ซึ่งตลอดเวลาที่ทำพิธีก็รับรู้ได้ว่าน้องชายรับทราบแล้ว และน่าจะดีใจที่จับคนร้ายได้

ที่คนร้ายบอกว่าเป็นการต่อสู้ป้องกันตัวยิ่งไม่เชื่อว่าน้องชายจะทำร้ายใครได้ หากบอกว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องหนี้สินยิ่งเป็นไปไม่ได้ น้องชายไม่มีหนี้ ถ้าเป็นหนี้จริงทำไมไม่ติดตามหรือใช้กระบวนการทางกฎหมาย ทำไมต้องฆ่ากัน และแทงกันถึง 15 แผล และไม่กังวลด้วยว่าที่เขาจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง จะเอาความรู้ด้านกฎหมายมาต่อสู้เพราะสิ่งที่เขาทำมันเห็นกันอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นและโหดร้ายแค่นี้

ถ้าครอบครัวผู้ก่อเหตุจะมาขอขมาในวันอังคารนี้ก็ยินดี เพราะลูกเขาทำผิดไม่ใช่คนเป็นพ่อ และที่พ่อผู้ก่อเหตุให้สัมภาษณ์ก็รู้สึกได้ว่าสำนึกผิดจริง แต่คนเป็นแม่ไม่รู้สึกเลยว่าสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป หากจะเยียวยาชดใช้จะนำเงินที่ได้ไปทำบุญทั้งหมด เพราะเยียวยามาก็คงไม่เท่ากับความสูญเสียของคนในครอบครัว สำหรับร่างน้องชายจะนำมาบำเพ็ญกุศลที่ในวันอังคารนี้ และฌาปนกิจในวันศุกร์



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zjmedPFTQbg

คุณอาจสนใจ

Related News