สังคม
ฮือฮา! พบกระดูกมนุษย์โบราณ กลางเมืองโคราช กรมศิลปฯ คาดอายุกว่า 2,500 ปี
โดย nut_p
30 พ.ค. 2567
2K views
ฮือฮา! ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณกลางเมืองนครราชสีมา ขณะกำลังปรับปรุงภูมิทัศน์ กรมศิลปากรรุดตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุ 1,500 - 2,500 ปี
วันนี้ (30 พฤษภาคม 2567) นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วย นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) และนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และซากภาชะดินเผา ที่ถูกขุดพบบริเวณพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ ภายในสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (หลังเก่า) ซึ่งอยู่ติดกับคูเมืองในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ตามแผนดำเนินงานการปรับปรุงภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะของเทศบาลนครนครราชสีมา โดยทางเทศบาลนครนครราชสีมาได้ร่วมกับกรมศิลปากรดำเนินการขุดค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทางโบราณคดี ก่อนมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทางกายภาพของพื้นที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์
นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีชุมชนหรือเมืองที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ จำเป็นต้องดำเนินการขุดสำรวจเพื่อศึกษาก่อนดำเนินการก่อสร้างอาคาร เพื่อที่จะได้มีการศึกษาเรียนรู้พื้นที่ดังกล่าวว่า มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ และได้รู้ถึงต้นกำเนิดของเมืองนครราชสีมา ซึ่งการขุดค้นพบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขุดตามแนวกำแพงเมืองเก่า ระดับความลึก 180 เซนติเมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ 2 โครง ไม่ทราบเพศ เนื่องจากการตรวจสอบเพศนั้น จะตรวจสอบจากกระดูกเชิงกราน แต่ทั้ง 2 โครงกระดูกที่พบกระดูกเชิงกรานไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถระบุเพศได้ โดยโครงกระดูกแรกพบอยู่ในลักษณะนอนหงายเหยียดยาวหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ส่วนโครงกระดูกที่ 2 ลักษณะกะโหลกศีรษะถูกตัดวางอยู่บริเวณลำตัว คาดว่าจะเป็นโครงกระดูกเด็ก มีเศษเครื่องปั้นดินเผาลายเชือกทาบ เศษกระเบื้อง กระดูกสัตว์ รวมทั้ง ภาชนะแบบพิมายดำวางอยู่รอบโครงกระดูก
ซึ่งกระดูกทั้ง 2 ชิ้น น่าจะถูกฝังจากกิจกรรมการฝังศพของคนสมัยโบราณ และมีอายุประมาณ 1,500 - 2,500 ปี โดยน่าจะเป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ก่อนการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการขุดเพิ่มเติมและนำดินในบริเวณดังกล่าวไปตรวจสอบในห้องแล็บ เพื่อหาค่าทางวิทยาศาสตร์ และเพื่อตรวจสอบว่า ดินในพื้นที่นั้นได้สัมผัสแสงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อใด ซึ่งจะทำให้เราสามารถย้อนเวลาได้ว่า โครงกระดูทั้ง 2 โครง ถูกฝังตั้งแต่ช่วงเวลาใด คาดการณ์ว่าในอดีตพื้นที่ดังกล่าว น่าจะเป็นพื้นที่ฝังศพขนาดใหญ่ และเมืองนครราชสีมาในช่วง 1,500-2,500 ปีน่าจะเป็นบึงขนาดใหญ่ และมีชุมชนตั้งอาศัยอยู่รอบบึงเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา