'ทักษิณ' เยือนวัดสวนแก้ว นมัสการ 'พระพยอม' ก่อนพาหลานเที่ยวเอ็มสเฟียร์

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.67 เวลา 13.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเข้าพบกับ พระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อถวายปัจจัยช่วยเหลือ หลังทราบข่าวว่ากุฎิพระถูกไฟไหม้ เมื่อกลางดึกวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา


โดยนายทักษิณ เดินทางมาด้วยรถส่วนตัว เบนซ์ S580 e ทะเบียน พท 4444 กทม. นายทักษิณได้เข้ากราบนมัสการพระพยอม และพูดคุยถึงปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน


นายทักษิณ กล่าวว่า ตนอดเป็นห่วงพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบันไม่ได้ เพราะคนรุ่นใหม่หันไปสนใจสายมูมากกว่าสนใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามากกว่า สายมูไม่ได้สติปัญญา ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ต้องออกมามีบทบาทให้มากกว่า ตนอยากเห็นการส่งเสริมเน้นหลักธรรมของพระพุทธเจ้า เพื่อส่งเสริมด้านปัญญาให้กับผู้คนในสังคม


นายทักษิณ กล่าวกับพระพยอมอีกว่า ปัจจุบันนี้คุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมน่าเป็นห่วงมาก ลูกติดยา แม่ติดหวย พ่อติดเหล้า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงในเรื่องคุณภาพชีวิต ซึ่งตนจะไปปรึกษาหารือ และให้เลขาธิการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาหาหลวงพ่อเพื่อปรึกษาหารือแนวทางชี้แนะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้านพระพุทธศาสนาต่อไป ทุกวันนี้ตนนั่งดูข่าวสารติดตามดูอยู่ทุกช่องทาง พบว่าในแต่ละวันมีคนฆ่าตัวตายรายวันกันเยอะมาก เพราะขาดสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจ ไม่มีธรรมะมาช่วยค้ำชู


อย่างตนเองในช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้น ตนอ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมะจนจิตใจสงบลง ปล่อยวางไปได้เยอะมาก ไม่อย่างนั้นคงบ้าตายแน่ ๆ จนเข้าใจว่าปัญหาต่าง ๆ นั้น มันก็เหมือนกับหิน มันจะหนักมากถ้าเราแบกไว้ แต่ถ้าปล่อยวางไว้ ไม่แบกหินมันก็เบาลง


ทางด้าน พระพยอม ได้กล่าวกับนายทักษิณว่า อาตมาอยากให้ทางรัฐบาลดูใส่ใจแก้ไขปัญาปากท้องความเป็นอยู่ของชาวบ้าน น้ำก็แล้ง เศรษฐกิจก็ไม่ดี เพาะปลูกก็ลำบากเพราะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาตมายังเป็นห่วงว่า สภาพอากาศจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีก จากปรากฏการณ์เอลนีโญมาเป็นลานีญา หากไม่มีการเตรียมการรับมือภัยแล้งให้เป็นระบบ เสียดายระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี


พระพยอม กล่าวอีกว่า ในเรื่องพระพุทธศาสนาก็น่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันผู้คนหันไปสนใจสายมูมากกว่าที่จะสนใจในแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา หลงลืมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปหมด จึงทำให้เกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงนั้นตรงนี้ขึ้นเต็มไปหมด ตรงไหนว่าดี ตรงไหนว่าดังก็แห่กันไปมู ถูกชักจูงได้ง่าย ไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้คนมีสติปัญญา เป็นเรื่องที่น่าห่วงเช่นกัน

หลังการสนทนาระหว่างนายทักษิณกับพระพยอม โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง นายทักษิณได้ถวายเงินสดจำนวน 200,000 บาท ให้กับทางวัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือ กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิ จนมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 3 ราย และมีการพูดคุยถึงเหตุเพลิงลุกไหม้กุฏิวัดในครั้งนี้ รวมทั้งพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ปัญหาภายในวัดถ้าหากมี หากต้องการให้ช่วยเหลือก็สามารถแจ้งติดต่อประสานมาได้


โดยพระพยอมได้ให้นายทักษิณกรวดน้ำ และรับศีลรับพร ก่อนพระพยอมจะให้ส้มโอ ทุเรียน มะม่วงน้ำปลาหวาน หมี่กรอบ พร้อมกระดาษยันต์กับนายทักษิณ ก่อนนายทักษิณจะขอตัวลากลับ


ทางด้าน พระพยอม กล่าวว่า ทางวัดไม่ได้รับการประสานหรือติดต่อใด ๆ จากอดีตนายกฯทักษิณ ท่านมาโดยไม่บอกกล่าว ทราบล่วงหน้าตอนท่านเดินทางมาถึงเพียง 10 นาที ตอนที่ท่านอยู่เมืองนอกทราบมาว่ามีคนนำหนังสือพุทธทาสภิกขุไปมอบให้กับท่านเป็นจำนวนมาก ท่านเองก็เลื่อมใสศรัทธา ในปีนั้นตนเองถูกต่อว่ามากมายจากสังคมหาว่าเป็นคนหิวแสง วันนี้ที่ท่านเดินทางมา ก็มาสนทนาธรรมกับอาตมา และมอบเงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมสิ่งของเครื่องใช้จำนวนหนึ่ง ให้กับทางวัด ทางอาตมาก็ขออนุโมทนาสาธุในผลบุญครั้งนี้กับอดีตนายกฯทักษิณด้วย


ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณไปที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ พร้อมครอบครัว ได้แก่ คุณเอม พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (บุตรสาว) นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ (บุตรเขย) และมีหลาน ๆ อย่างน้องเอมิ พิณธารา คุณากรวงศ์ น้องนานิ พิณนารา คุณากรวงศ์ ไปด้วย


นอกจากนี้ยังมี คุณปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พาน้องธิธาน ไปร่วมด้วย


ซึ่งนายทักษิณ และครอบครัว ได้เยี่ยมชมโครงการศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ โดยมีคณะผู้บริหารศูนย์การค้า ได้แก่ คุณศุภลักษ์ อัมพุช, คุณเกรียงศักดิ์ ตันติภิภพ ให้การต้อนรับ และพาชมบริเวณสกายวอร์ค


โดย คุณทักษิณ กล่าวว่า ถนนสุขุมวิทมีการพัฒนาไปมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยเฉพาะเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากในย่านนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IOrxwqR_5Ck