สังคม
หนุ่มเมียนมา กระหน่ำแทงแม่ดับ-เผาศพอำพราง สารภาพโมโหพี่ได้เรียนจบปริญญาตรี-ถูกด่าไม่ใช่ลูก
โดย nutda_t
14 พ.ค. 2567
715 views
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด รับแจ้งจากชาวบ้าน และญาติของนางมิซาน สัญชาติเมียนมา ว่า นางมิซาน อายุ 49 ปี อยู่บ้านห้วยม่วง อ.แม่สอด จ.ตาก ได้หายตัวไปนานกว่า 10 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 15.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 67 จึงขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบศพ นางมิซาน นอนเสียชีวิตอยู่ด้านหลังของบ้าน สภาพศพถูกเผาไหม้ มีเสื่อปูพื้นปิดบังอำพรางศพไว้ ขณะที่พบนายหน่ายมินทวย อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของนางมิซาน นั่งอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ท่าทางมีพิรุธ สภาพร่างกายมีบาดแผล
จากการสอบถาม นายหน่ายมินทวย ให้การว่า เมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. แม่ตนมาขอเงิน แต่ตนไม่มีให้ จึงทะเลาะกัน และเกิดการต่อสู้ ตนได้ใช้มีดแทงไปที่ท้องของแม่ จำนวนหลายครั้ง จนถึงแก่ความตายคามือ จากนั้นได้ลากศพโยนออกทางหน้าต่าง เพื่อจะนำร่างไปซ่อนที่หลังบ้าน ก่อนจะออกจากบ้านไปซื้อน้ำมันเบนซินจากร้านค้าแถวบ้าน แล้วนำมาราดลงบนศพ และจุดไปทำการเผาเพื่ออำพราง แต่ศพไหม้ไม่หมด จึงได้นำเสื่อปูพื้นมาปิดบังเอาไว้ แล้วมาหลบซ่อนอยู่ในห้องของตนเอง
นายหน่ายมินทวย ยังสารภาพอีกว่า ตนทนถูกด่ามาเป็นปี เก็บสะสมความเครียดแค้น จนนำไปสู่การลงมือฆ่าดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.ตาก และพ.ต.อ.พิทยากร เทพรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด และพ.ต.ท.เอกรัฐ นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด พร้อมด้วยกำลังตำรวจได้นำตัวนายหน่ายมินหรือ ไมค์ อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา ไปประกอบการทำแผน และให้คำรับสารภาพในการฆ่านางมิซาน อายุ 49 ปี ผู้เป็นมารดา ณ บ้านไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านห้วยม่วง ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก
นายหน่ายมิน หรือ ไมค์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. นางมิซาน มารดาของตนเองได้มาขอเงินของตนเอง แต่ตนไม่มีให้ จึงได้ทะเลาะกัน ตนได้ใช้มีดแทงไปที่ท้องของนางมิซานหลายครั้ง จนนางมิซานถึงแก่ความตาย จึงได้ลากศพนางมิซาน ไปซ่อนที่หลังบ้าน เพื่ออำพรางศพโดยการเผา และได้ไปซื้อน้ำมันเบนซินจากร้านค้าแถวบ้าน ราดลงบนศพ และทำการเผา แต่ไหม้ไม่หมด จึงได้นำเอาเสื่อปูพื้นมาปิดบังศพเอาไว้ แล้วมาหลบอยู่ที่ในห้องของตนเอง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบ และให้การรับสารภาพว่าตนได้ลงมือฆ่านางมิซาน มารดาของตน
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ได้สอบถามด้วยตนเองกับนายหน่ายมิน ทราบว่า นายหน่ายมินไม่พอใจที่พี่ชายได้เรียนจบปริญญาตรี และถูกกดดันต่อว่าตนเองไม่ใช่ลูกของนางนางมิซานง ซึ่งทางตำรวจให้โอกาสพูดขอขมามารดาของตนเอง แต่นายหน่วยมิน ไม่ยอมขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง