สังคม

ชายปาขยะขู่ฟ้องสื่อมาทำข่าว ชาวบ้านแฉวีรกรรมสุดกร่าง ข่มขู่-คุกคามทุกคนในชุมชน

โดย paranee_s

1 พ.ค. 2567

169 views

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ในช่วงบ่าย หลังจากคุณปรางและคุณฟลุ๊ค 2 คู่รักมาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ถึงกรณีที่ถูกเพื่อนบ้าน ภายในซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ปาขยะใส่บ้านมานานหลายปี



นายเอกภพพร้อมผู้เสียหายได้ลงพื้นที่บ้านของผู้เสียหายและบ้านของชายผู้ก่อเหตุ เพื่อพูดคุยเจรจากับคุณชายคนดังกล่าว ปรากฏว่า ชายผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาพร้อมกับพยายามยกโทรศัพท์มาบันทึกภาพสื่อมวลชนที่มาทำข่าวบนถนนสาธารณะ นายเอกภพ จึงได้พยายามเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงว่า เพราะเหตุใดถึงปาขยะใส่บ้านเพื่อนบ้าน แต่ทว่าชายไม่ตอบคำถามและพยายามตอบโต้ด้วยกันข่มขู่ว่า "มีสิทธิ์อะไรมาทำข่าวและบันทึกภาพตน จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกสำนักข่าวที่มาลงพื้นที่"



เมื่อสื่อมวลชนพยายามสอบถามข้อเท็จจริง ชายคนนี้ก็สอบถามชื่อของนักข่าวและข่มขู่ว่าจะฟ้องร้อง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในพื้นที่บ้าน โดยไม่มีสื่อมวลชนคนไหนเข้าไปในขอบเขตพื้นที่บ้านของชายคนดังกล่าว



ด้านแม่ของคุณฟลุ๊ค ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุกล่าวว่า ชายข้างบ้านปาขยะและมีพฤติกรรมข่มขู่เพื่อนบ้านกับคนในชุมชนมายาวนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่มาอาศัยในชุมชนแห่งนี้ เคยไปพูดคุยหรือสอบถามถึงสาเหตุก็มักจะโดนด่ากลับมาและไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ จนเป็นที่เอือมระอาของคนในชุมชน



ส่วนตนนั้น มักจะถูกชายตะโกนด่าเป็นประจำด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านเฉย ๆ มีเดินมาถีบขยะหน้าบ้านตนล้ม หนักสุดคือ เคยถูกชายผู้ก่อเหตุถือมีดเดินบุกเข้ามาในบ้านกลางวันแสก ๆ เพื่อจะมาทำร้ายตน แต่โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยได้ทัน แต่พอแจ้งความดำเนินคดีกับไม่มีความคืบหน้าทางคดีใด ๆ เพราะตำรวจอ้างว่าไม่ทราบชื่อของชายผู้ก่อเหตุและไม่สามารถพิสูจน์ทราบจากเลขทะเบียนบ้านได้ กลายเป็นภาระที่ทำให้ตนและลูก ๆ ต้องคอยค้นหาชื่อของชายคนนี้จากที่อยู่พัสดุไปรษณีย์ แต่ก็ไม่สามารถหาได้



แม่คุณฟลุ๊คยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนขอร้องให้ชายคนนี้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะตนรู้สึกกลัวและอยู่ด้วยความหวาดระแวงมาตลอด ตนก็มีอาการป่วยต้องอยู่ที่บ้านตลอดเวลา จึงไม่เข้าใจว่าทำแบบนี้ไปทำไม



ด้านคุณหนิง ซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่า อคนนี้ไม่เป็นมิตรและมีพฤติกรรมคุกคามข่มขู่กับทุกคนในชุมชน เวลาใครขี่รถหรือเดินผ่านหน้าบ้านของชายคนนี้ ก็มักจะตะโกนด่า ทั้ง ๆ ที่เป็นพื้นที่สาธารณะ และที่สำคัญคือ ต้นไม้ในพื้นที่บ้านของชายรกจนสร้างความรำคาญให้แก่เพื่อนบ้านและผู้สัญจรผ่านไปมา หากใครเข้าไปตัด ก็มักจะถูกตะเพิดไล่และข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี



ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่และได้มีโอกาสพบเจอกับชายผู้ก่อเหตุ เห็นว่าคงไม่สามารถที่จะพูดคุยได้โดยง่าย ซึ่งหลังจากนี้จะประสานกับสำนักงานเขตบางเขนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ลงมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะมองว่า ด้วยพฤติกรรมของชายในลักษณะแบบนี้ ควรจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นภัยต่อเพื่อนบ้านและคนในชุมชนอย่างมาก พร้อมทั้งจะประสานไปยัง ผกก.สน.คันนายาว ว่า ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างจริงจังในส่วนข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ เรื่องหาชื่อของชายคนนี้ไม่ได้นั้นไม่ใช่ประเด็นและเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องพิสูจน์ทราบ ไม่ใช่ผลักภาระให้ผู้เสียหายดำเนินการ



โดยตนมองว่า เคสนี้ไม่ต้องคำนึงถึงภาวะและพิการ หรือสติปัญญาของคุณชายคนนี้ เพราะถึงยังไงทุกคนก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันโดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ และหวังว่าหน่วยงานของรัฐจะเข้ามาเคลียร์จัดการชายคนนี้อย่างจริงจังและเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ก่อความรำคาญแก่เพื่อนบ้านอีก



ส่วนกรณีที่ชายปาขยะ ได้มีการพูดจาข่มขู่นายเอกภพและสื่อมวลชนในระหว่างการพูดคุยเจรจา พร้อมกล่าวอ้างว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีในขณะที่มีการพูดคุยกันบนพื้นที่สาธารณะว่า เป็นสิทธิทางกฎหมายของชายที่สามารถจะทำได้ หากลุงมองว่าได้รับความเสียหาย แต่คุณลุงต้องอย่าลืมว่า คุณก็กำลังละเมิดสิทธิของคนอื่นมาโดยตลอดเช่นเดียวกัน ถ้าคุณลุงมองว่า ตนกำลังถูกละเมิดนั้น ก็อย่าไปละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นด้วย อย่าเอาเปรียบผู้อื่นและคนในสังคมอีกเลย เพราะไม่งั้นสักวันคุณก็จะถูกคนในสังคมออกมาขุดคุ้ยประวัติของคุณ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ