วอชด็อกนำคลิปแจ้งจับ ชายเหี้ยม จับหมาแขวนคอดับใต้ต้นไม้ อ้างกัดหลาน ตร.เค้นถามจุดทิ้งศพ ยังไม่บอก

สุดโหด ชายใช้หลาน 6 ขวบ ล่อหมามาฆ่าแขวนคอดับใต้ต้นไม้ ก่อนยัดถุงปุ๋ยนำทิ้ง วอชด็อกพาตร.จับ อ้างฉุนมากัดหลาน เค้นถามจุดทิ้งศพ ยังปากแข็งไม่ยอมบอก



มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ นำคลิปหลักฐานจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังพบชายวัย 42 ปี ใช้หลานชายเด็กพิเศษวัย 6 ขวบ ล่อ 'เจ้าม่อน' หมาของตัวเอง ที่ทิ้งให้ญาติเลี้ยง จับคล้องเชือกที่คอก่อนสังหารโหดด้วยการจับแขวนต้นมะยมจนตายต่อหน้าหลานชาย ก่อนยัดใส่กระสอบปุ๋ยนำทิ้ง แต่ไม่ยอมบอกจุดทิ้ง ตร.แจ้ง 2 ข้อหาลักทรัพย์และทารุนกรรมสัตว์



กล้องวงจรปิดบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านป่าแงะ ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพชายอายุประมาณ 40 ปี ใช้อุบายหลอกล่อ เจ้าม่อน สุนัขพันธุ์ไทย เพศผู้ อายุ 10 เดือน ออกไปจากบ้าน โดยให้หลานชายวัย 6 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ เป็นผู้หลอกล่อสุนัขให้วิ่งมาเล่นด้วย ก่อนที่จะพยายามนำสุนัขยัดใส่กระสอบปุ๋ย แต่สุนัขขัดขืนและวิ่งหนี แต่ชายคนดังกล่าวยังไม่ลดความพยายาม เดินมาอุ้มสุนัขเพื่อขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่สุนัขก็ยังดิ้น และกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ จากนั้นชายคนดังกล่าว จึงได้ใช้เชือกที่เตรียมมา รัดคอสุนัขก่อนจะลากไปตามพื้น จนสุนัขส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และลากไปที่ต้นมะยม ก่อนที่จะรัดคอจนแน่นและแขวนคอเจ้าม่อน ทำให้ขาดอากาศหายใจ และดิ้นอย่างทุรนทุรายจนตายในที่สุด



หลังจากนั้นก็ได้พยายามนำร่างเจ้าม่อนยัดใส่กระสอบปุ๋ย และนำขึ้นรถจักรยานยนต์เอาออกไปนอกบ้าน ซึ่งก่อเหตุต่อหน้าหลานชายวัย 6 ขวบ ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องราวดังกล่าวด้วย โดยไม่ทราบว่าชายคนดังกล่าว นำซากสุนัขเจ้าม่อนไปทิ้งไว้ที่ใด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน เวลาประมาณ 16.20 น.



หลังเกิดเหตุ นายปรัชญา ลูกเขยชายคนดังกล่าวได้ร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ล่าสุดวันนี้(1 พ.ค. 67) ทางมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ นำโดยนางสาวภูริตา วัฒนศักดิ์ ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ สภ.สันกำแพง เพื่อดำเนินคดี กับนายทรงวุฒิ อายุ 42 ปี ที่ก่อเหตุ



นางสาวภูริตา เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีชายคนหนึ่งได้ได้ก่อเหตุฆ่าหมาคือเจ้าม่อนอายุ 10 เดือน อย่างโหดร้าย ทางมูลนิธิจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษชายคนดังกล่าว คือลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และทารุณกรรมสัตว์



หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมตัวแทนมูลนิธิวอชด็อก ได้เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อไปนำตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีและตรวจสอบ หาสุนัขที่ว่านำไปไว้ที่ใด



ซึ่งจากการลงพื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เจอครบทั้งกระสอบปุ๋ย เปื้อนเลือด ที่ใช้ใส่ซากหมาไปทิ้ง และพยายามจะพูดคุย สอบถามนายทรงวุฒิ ซึ่งพบว่ามีอาการป่วยโรคประจำตัวเรื้อรัง และยังมีพฤติกรรมดื่มสุรา เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง



เจ้าหน้าที่สอบถาม ว่านำซากหมาไปทิ้งที่ใดแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมบอก แต่ยอมรับว่าได้ฆ่าเจ้าม่อนจริง อ้างสาเหตุที่ทำลงไปนั้นเนื่องจากเจ้าม่อนไปกัดหลานตัวเอง แต่จากการสอบถามทางญาติกลับบอกว่าเจ้าม่อนเป็นหมาน่ารักขี้เล่นไม่ดุร้าย ไม่เคยทำร้ายใคร



ขณะที่เด็กชายวัย 6 ขวบ หลานแท้ๆ ของผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถให้การได้ความมากนักเนื่องจากเป็นเด็กพิเศษ มีปัญหาเรื่องพัฒนาการ แต่บอกเพียงว่า ตาทำร้ายเจ้าม่อน และเจ้าม่อนนอนหลับไป ไม่รู้ว่าตาเอาไปไว้ที่ไหน ซึ่งทางตำรวจได้ คุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำ ที่ สภ.สันกำแพง พร้อมจยย.ที่ใช่ก่อเหตุ ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป