กระบะฝ่าไฟแดง เสยรถจักรยานยนต์เด็ก 12 ลากไปไกล 1 กิโลเมตร คนขับอ้างไม่ได้ยินเสียงรถที่ลากมา

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 67 กล้องวงจรปิดหน้าร้านมาร์ชการยางจับภาพวินาที รถกระบะฝ่าไฟแดงแล้วพุ่งชนรถจักรยานยนต์ แล้วลากไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร พลเมืองดีเห็นจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ พบเด็กวัย 12 ปีได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ( 24 เม.ย. 67 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบนายรณกร อายุ 25 ปี ช่างประจำร้านเปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้พวกตนยังทำรถอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงลากมาแต่ไกล จึงหันไปดูก็พบว่า มีรถยนต์กำลังลากรถจักรยานยนต์มาตามถนน และกำลังจะผ่านหน้าร้านของตน ทำให้เจ้าของร้านได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายเอาไว้ โดยรถกระบะลากมาตั้งแต่บริเวณ 4 แยกไฟแดง มาจนถึงร้านที่ตนทำงาน ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร มีไฟแลบจากการที่รถจักรยานยนต์ถูไปกับถนน พวกตนจึงรีบวิ่งไปล้อมรถเอาไว้ เพื่อให้กระบะคันดังกล่าวจอดรถ ก่อนจะมีผู้ชายลงมาจากรถหัวเกรียนไม่แน่ใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ โดยชายคนขับขี่บอกว่าเบรคไม่ทัน แต่ตนเองก็เห็นลากมาเรื่อยๆ ถ้ามีคนอยู่บนรถก็คงเสียชีวิต แต่โชคดีที่เด็กกระเด็นออกมาก่อน

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปหาผู้บาดเจ็บ โดยน้องมาร์ค เด็กชายวัย 12 ปี เปิดเผยว่า ตนเองขี่รถมากินก๋วยเตี๋ยวในตัวเมืองแปดริ้วและกำลังจอดรอ บริเวณสี่แยกไฟแดง เพื่อเลี้ยวขวากลับบ้าน พอสัญญาณไฟเขียวก็เปิดไฟเลี้ยวขวา เลี้ยวออกมาจากแยกเพื่อกลับบ้านที่ไปทางถนนเลี่ยงเมือง ขณะนั้นมีรถกระบะฝ่าไฟแดงวิ่งตรงมา สวนทางกับรถของตน บริเวณกลางแยกได้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอบางคล้า ทำให้เฉี่ยวชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของตน จังหวะนั้นตนเองกระเด็นออกมาจากรถ พอเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นรถกระบะลากรถจักรยานยนต์ของตนไปตามทาง ตนเองก็พยายามถามว่าจะรับผิดชอบรถตนเองอย่างไร และทำไมถึงฝ่าไฟแดงมาชนรถของตน

ชายคนดังกล่าวบอกว่ากระจกเสียเลยไม่ได้ยินเสียงตอนที่รถชน ส่วนรถนั้นเดี่ยวจะนำไปซ่อมให้ พร้อมกันนี้ยังได้โอนเงินให้ญาติของตน จำนวน 500 บาทและให้ญาติของตนจ่ายเป็นเงินสดมา เพื่อนำมาจ่ายค่าปรับจำนวน 500 บาท ในข้อหาขับขี่รถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และมีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ตนเองอยากได้รถจักรยานยนต์คันใหม่ ที่ไม่ใช่รถคันเดิมที่คู่กรณีนำไปซ่อมให้ เพราะตนเองเพิ่งจะซื้อรถป้ายแดงมาได้ 10 วัน หากซ่อมมาแล้วก็กลัวจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อคนขับรถยนต์ที่ชนรถจักรยานยนต์ตนเองได้ ตอนเกิดเหตุยอมรับว่าตกใจมาก โชคดีที่ตนเองไม่ติดอยู่กับรถ ไม่อย่างนั้นคงจะเจ็บหนักมากกว่านี้