สังคม

เด้ง 8 ตำรวจ สภ.สามควายเผือก รีดเงินเจ้าของโรงงานไก่ อ้างให้ที่พักแรงงานต่างด้าว

โดย panisa_p

22 เม.ย. 2567

163 views

เพจสายไหมต้องรอดพาเจ้าของโรงงานไก่ ในจังหวัดนครปฐม ร้องนายกรัฐมนตรี หลังถูกตำรวจ สภ.สามควายเผือก จับลูกน้องที่เป็นต่างด้าวรีดเงิน สุดท้ายพอเรื่องแดง ถูกนักการเมืองท้องถิ่น โทรมากดดัน ให้ถอนแจ้งความตำรวจชุดจับ



ภาพวงจรปิดขณะที่นางสาว รัตนาภรณ์ มาลาอุบล เจ้าของโรงงานไก่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม พร้อมนาย เทวราช กำเนิดแก้ว พี่ชาย นำเงินสด 15,000 บาท มามอบให้ร้อยตำรวจเอก นที พงษ์หาญพาณิชย์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก จ.กาญจนบุรี เพื่อเป็นค่าปล่อยตัวแรงงานต่างด้าว 5 คน ที่โดนจับมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 29 มีนาคม 2567 นี่เป็น 1 ในหลักฐานที่นางสาวรัตนาภรณ์ นำมาใช้เป็นหลักฐานเอาผิดตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก 8 คน ว่าร่วมกันรีดไถเงินเธอ



นางสาวรัตนาภรณ์ เล่าให้ ดอกเตอร์ ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ที่มารับเรื่องร้องเรียน ฟังว่า เธอมีอาชีพขายส่งไก่สดและเพิ่งย้ายมาในพื้นที่ สภ.สามควายเผือก เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีตำรวจอ้างว่ามาจาก ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม และตำรวจจาก สภ.สามควายเผือก ทยอยกันเข้ามาขอให้ร่วมทำบุญ และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของหน่วย ครั้งละ 3,000-5,000 บาท เป็นประจำจนกระทั่งปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีตำรวจอ้างว่าเป็นชุดสืบสวน สภ.สามควายเผือก เข้ามาขอให้ร่วมทำบุญอีก



ซึ่งเธอเพิ่งร่วมทำบุญไป 3,000 บาท เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ครั้งนี้จึงให้ไปแค่ 100 บาท ทำให้ตำรวจชุดนี้ไม่พอใจกลับไปเรียกพวกมา 8 คน เข้ามาตรวจค้นโรงงานโดยไม่มีหมายค้น พอบอกว่าขอดูหมายค้น แต่ตำรวจชุดนี้อ้างว่า ที่นี่ นครปฐม ตำรวจสามารถเข้าค้นที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีหมาย ก่อนจะจับแรงงานต่างด้าวของเธอไป 5 คน ทั้งที่มีเอกสารการทำงานถูกต้องครบถ้วน จากนั้นเรียกเงินค่าปล่อยตัวคนละ 4 หมื่นบาท รวมเป็น 2 แสนบาท และขู่ว่ากฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา หากไม่จ่ายตรงนี้ ก็จะต้องไปประกันตัวสู้ในชั้นศาลเอาเอง ยังไงก็ต้องหาเงินมาประกันตัว ต้องหาเงินมาจ้างทนาย ลูกจ้างก็ต้องติดคุกไปก่อน



และที่สำคัญนายจ้างก็จะตกเป็นผู้ต้องหามีคดีติดตัวไปตลอดชีวิต จนต้องเรียกพี่ชายมาช่วยเจรจา และจบลงที่เธอยอมจ่ายเงินไป 15,000 บาท ผ่านไป 3 วัน ตำรวจชุดเดิมโทรศัพท์มาข่มขู่เรียกเงินอีก เธอจึงไปปรึกษากับตำรวจระดับสารวัตรนายหนึ่ง ซึ่งสารวัตรนายนี้ช่วยหาหลักฐานต่างๆ จนไปได้กล้องวงจรปิดในห้องสืบสวน เป็นภาพตอนที่รับเงินของเธอแล้วเอาเงินไปแบ่งกัน โดยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานสะใจ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่ดี จึงตัดสินใจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจสายไหมต้องรอด



นายเอกภพ บอกว่า หลังจากตรวจสอบพบวงจรปิด และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ น่าเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริง จึงได้ประสานไปยังพันตำรวจเอกพัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี และหลังจากสอบปากคำเสร็จ พลตำรวจตรีสุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดให้นายตำรวจทั้ง 8 นาย ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน แต่หลังจากนั้น ได้มีนักการเมืองท้องถิ่น ติดต่อมาหาผู้เสียหาย อ้างว่ามีนายตำรวจระดับสูงของ สภ.สามควายเผือก ติดต่อไปให้มาช่วยเจรจา ให้ผู้เสียหายไปถอนแจ้งความ โดยให้ไปให้การใหม่ว่า ทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด เงิน 15,000 บาท ที่ให้ตำรวจทั้ง 8 นายไป เป็นเงินทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม และยิ่งทำให้ผู้เสียหายกังวลกลัวจะถูกอุ้มฆ่าทั้งครอบครัว รวมทั้งอยากเปลี่ยนตำรวจชุดทำคดี ไม่ให้ตำรวจพื้นที่ทำด้วย



ทีมข่าวติดต่อสัมภาษณ์ พันตำรวจเอก ยงลิต ศุภผล ผู้กำกับการ สภ.สามควายเผือก ที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นคนเจรจาให้ นางสาวรัตนาภรณ์ กลับคำให้การ ซึ่งผู้กำกับยืนยันว่า ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน แต่กลุ่มตำรวจผู้ก่อเหตุ อาจมีพรรคพวก แล้วหาคนประสานไปเองเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบ ที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายถึงพฤติกรรมของตำรวจทั้ง 8 นายมาก่อน



พลตำรวจตรีสุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 8 นาย ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังจากสอบปากคำโดยละเอียด และเห็นคลิปหลักฐาน ส่วนการดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน และมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตอนนี้สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว รอส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. และสั่งให้สายตรวจลงไปดูแลความปลอดภัยของผู้เสียหายแล้ว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/or3WeOdjbHw

คุณอาจสนใจ