เลือกตั้งและการเมือง

"พีระพันธุ์” ยังไม่ชี้ชัดมาตรการตรึง “น้ำมันดีเซล” 30 บาท/ลิตรต่อ ยัน นายกฯ ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม.

โดย paranee_s

21 เม.ย. 2567

88 views

วันนี้ (21 เม.ย. 2567) สโมสรราชพฤกษ์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการประกาศราคาน้ำมันรัฐบาลจะต้องดำเนินการเองนั้น ว่า ขณะนี้มีช่องทางในการดำเนินการแล้ว และได้ประชุมอยู่ทุกสัปดาห์ จะดำเนินการได้ในรัฐบาลนี้ในช่วงที่ตนอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน


ส่วนจะเป็นเรื่องยากหรือไม่ เพราะมีกลุ่มนายทุนนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถึงจะยากแต่ก็ต้องทำ เพราะไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือยากแต่เป็นเรื่องที่มีความตั้งใจจะทำ ดังนั้น ถ้าเราตั้งใจจะทำ เรื่องยากก็เป็นเรื่องง่าย ถ้าไม่มีความตั้งใจต่อให้ง่ายแค่ไหนก็ทำไม่ได้


ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลจะมีการตรึงราคาที่ลิตรละ 30 บาทหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัญหาของระบบ โครงสร้างพลังงานปัจจุบันที่เป็นปัญหา ซึ่งตนพูดมาตั้งแต่ตอนแรกที่รับหน้าที่ว่า ไม่พอใจกับระบบและโครงสร้างพลังงานเช่นนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแก้ไข แต่ระหว่างที่แก้ไขก็ต้องยอมรับว่าเป็นโครงสร้างเดิมมาถึง 51 ปี และที่ผ่านมา 51 ปีไม่มีใครคิดจะปรับปรุง และแก้ไขเพื่อประชาชน แต่ตนเองจะลงมือทำ และกำลังทำอยู่ซึ่งจะทำให้ได้


นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงจะมีการขยายมาตรการ ตรึงราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 30 บาท ให้ประชาชนและผู้ประกอบการหรือไม่ ว่าเดิม ก่อนรัฐบาลชุดนี้ การรักษาระดับราคาน้ำมัน ใช้กลไกหลักอยู่ 2 กลไก ถือเป็นอำนาจของกองทุนน้ำมัน คือ 1. การกำหนดเพดานภาษีสรรพสามิต และภาษีต่าง ๆ ที่จัดเก็บกับน้ำมัน ถือเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ไม่ใช่ของกระทรวงการคลัง แต่เมื่อกำหนดเพดานแล้ว คนมีอำนาจเก็บภาษี คือกระทรวงการคลัง


ส่วนกลไกที่ 2 คือ เงินจากกองทุนน้ำมันฯ แต่เงื่อนไขของกฎหมายปัจจุบัน ไปตัดอำนาจการกำหนดเงินเพดานออก เหลือแต่เพียงอำนาจการใช้เงินกองทุน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มาแบกภาระที่เงินกองทุนน้ำมัน ทั้งๆ ที่เดิมเป็นอำนาจของคณะกรรมการที่กำหนดว่า ควรจะปรับภาษีสรรพสามิตขึ้นลงเท่าไหร่ เมื่อถูกตัดอำนาจออกไป ทำให้เป็นภาระกองทุนน้ำมันที่ต้องใช้เงินอย่างเดียว และตอนนี้ตนเองก็กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่ และย้ำว่าจำเป็นต้องแก้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้กำลังร่างฯ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะร่างกฎหมายช้าตนเองเป็นผู้ดำเนินการร่างฯเอง


ส่วนจะต้องรออีกนานหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เมื่อไปถึงขั้นสุดท้ายที่ตนได้วางแนวทางไว้ คือ รัฐบาลมีอำนาจในการกำหนดราคา แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้นก็ต้องค่อย ๆ ปรับ เพราะว่าโครงสร้างรูปแบบเดิม เป็นแบบนี้มา 51 ปีแล้ว ซึ่งไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยตนมาเริ่มเปลี่ยน และกำลังเริ่มทำ เป็นครั้งแรกในรอบ 51 ปี ที่มีมาตรการให้ผู้ค้าต้องแจ้งต้นทุน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทั้งที่ผ่านมาไม่มีใครเคยรู้ต้นทุน รู้แค่เพียงขาดทุน แล้วนำเงินกองทุนฯ ไปชดเชยกับสิ่งไหน ซึ่งก็ไม่เคยมีใครทำ แต่ตอนนี้ตนเองทำแล้ว นี่คือสิ่งที่พยายามทำให้เห็นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติทำงานจริง รื้อสิ่งที่ไม่ดีให้หมด ซึ่งพยายามทำอยู่


ส่วนกรณีที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติประกาศในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ดันตนเองให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องธรรมดาในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีก็ต้องพูดแบบนี้ ทุกพรรคการเมืองก็ต้องประกาศในความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของพรรคการเมือง แต่ในความเป็นจริงเป็นเรื่องของประชาชน เราไม่มีวันรู้อนาคตได้ แต่ที่สำคัญจะเป็นอะไรก็ต้องทำเพื่อประชาชน เพื่อประเทศไม่ใช่เพื่อตัวเอง ซึ่งยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปและการขับเคลื่อนพรรคไม่ง่าย ไม่มีอะไรง่ายแต่ก็ต้องทำ


เมื่อถามว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งหน้าเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะยังเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะนายกรัฐมนตรียังไม่เคยมาพูด ดังนั้นในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเมื่อยังไม่มีการพูดถึงการปรับครม.ก็ถือว่ายังไม่มี ถึงเวลาจริงค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่มี และไม่ทราบถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยืดปรับครม.ออกไปอีก 2 เดือน เพราะวันนี้ตนไม่มีหน้าที่ในเรื่องนี้ คนที่มีอำนาจคือนายกรัฐมนตรี เมื่อยังไม่มีการพูดอย่างเป็นทางการก็ถือว่าไม่มี ฉะนั้น 4 คนนี้ก็ยังอยู่


ส่วนกรณีนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ไม่ได้ลาออก ปกติทุกพรรคการเมืองจะมีผู้อำนวยการพรรค แต่ผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติคนเดิมได้ถูกแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรค ทำให้ตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคว่างลง กรรมการบริหารพรรคจึงมีมติแต่งตั้งให้นางพิชชารัตน์ รองเลขาธิการพรรค ไปเป็นรักษาการผู้อำนวยการพรรค แต่ปัจจุบันมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการพรรคคนใหม่นางพิชชารัตน์จึงหมดหน้าที่ จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไร ยืนยันว่า ในพรรคไม่มีปัญหาอะไร

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ