สู้รบในเมียนมายังเดือด ชาวเมียวดีลี้ภัย เข้าแม่สอดแล้วเกือบ 2 พันคน

การปะทะกันระหว่างกองกำลังผสม KNLA และ PDF กับทหารเมียนมา ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ฝั่งเมียวดี ตั้งแต่เช้าวันนี้ ส่ผลให้มีผู้อพยพจากเมืองเมียวดีมายังฝั่งไทยจำนวนเกือบ 2 พันคนแล้ว ทางการไทยมีการจัดพื้นที่พักพิงชั่วคราวไว้รองรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และทหารกองกำลังนเรศวร มีการวางกำลังป้องกันตามแนวชายแดนและสกัดกั้นการใช้อาวุธหนักที่กระทบกับประชาชนไทย



การปะทะกันของกองกำลังผสม กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA/KNU และ PDF ที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 ตั้งแต่เวลา 4 นาฬิกาวันนี้ ต่อเนื่องจนถึง 18.00 น.กองกำลังผสมฝ่ายต่อต้านเข้าโจมตีบริเวณด่านเมียวดี 2 ซึ่งมีทหารเมียนมา เกือบ 200 นาย หลบหนีอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน หลังจากหนีทัพมาจากฐานกองพัน 275 ซึ่งถูกกองกำลังผสมยึดไป



การปะทะกันมีอารใช้อาวุธหนักโจมตี จนทหารไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ที่วางกำลังรักษาความสงบอยู่ริมแม่น้ำเมย ใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ต้องกันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าไปริมแม่น้ำเมย เพราะจะได้รับผลกระทบจากกระสุนปืนและระเบิด ที่ทางกองทัพเมียนมา ใช้เครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดโจมตี อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน



ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาจึงมีชาวเมียวดี โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ติดสะพาน 2 ฝั่งเมียวดี ต่างอพยพมายังฝั่งไทย โดยมีการข้ามแม่น้ำเมยมาตามท่าเรือข้ามฟากต่างๆ ซึ่งทางการไทยได้เปิดให้ผู้อพยพเข้ามาตามหลักมนุษยธรรม และมีการจัดพื้นที่ตามท่าเรือต่างๆ นำรถมาส่งยังพื้นที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งเดิมจัดไว้ที่คอกวัวบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายสวด อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงบ่ายสองมีจำนวน 1,686 คน เป็นผู้ชาย 464 คน หญิง 644 คน เป็นเด็กผู้ชาย 306 คน เด็กผู้หญิง 268 คน โดยมีการย้ายทั้งหมดไปที่ท่าทรายรุจิรา



ข่าว 3 มิติไปตรวจสอบที่ท่าทรายรุจิรา พบว่าอยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ประมาณเกือบ 10 กิโลเมตร แต่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเมย ทางเข้าเป็นคอกวัว และอยู่ห่างไกลจากชุมชน ตั้งอยู่ตรงข้ามเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ภายในมีพื้นที่พักที่ที่เรียกว่าแสนเจริญ ให้ผู้อพยพอยู่ภายในนั้น มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองคอยดูแลความปลอดภัย พร้อมจัดอาหาร ที่พักให้ตามการเตรียมการที่ทางอ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับท้องถิ่นได้เตรียมการรองรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไว้เหมือนทุกครั้ง โดยจะมีการลำเลียงผู้อพยพขึ้นรถกระบะจากจุดท่าข้ามริมน้ำเมยมาส่งรวมกันที่นี่อย่างต่อเนื่อง



นอกจากนี้ที่สำนักสงฆ์บ้านวังข่า ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก มีผู้อพยพชาวเมียนมาจากบ้านวังข่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจำนวนกว่า 200 คน อพยพมาอยู่ที่ศาลาเอนกประสงค์ของสำนักสงฆ์บ้านข่า พบว่ามีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ที่มากันเป็นครอบครัว และส่วนใหญ่เป็นเด็ก เราพบมีเด็กทารกแรกเกิดหลายคน ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุเพียง 4 วัน รวมอยู่ด้วย



พวกเขาบอกว่าเสียงปืนและเสียงระเบิดดังมาก มีคนในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดเสียชีวิตด้วย และมีเครื่องบินรบของกองทัพเมียนมามาทั้งระเบิดต่อเนื่องจึงหวาดกลัว ต้องอพยพมาก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยที่นี่ทางเจ้าหน้าที่ไทยนำอาหารเช่นผักสดมาให้ผู้อพยพได้ทำอาหารดูแลกันก่อน โดยทั้งหมดจะพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวแล้วจะนำไปรวมกันที่พื้นที่พักพิงชั่วคราวท่ารายรุจิรา



เราพบว่ายังมีผู้อพยพที่อยู่ตามท่าเรือริมแม่น้ำเมยด้วย เช่นที่ท่า 35 มีการเปิดให้ชาวบ้านฝั่งเมียวดีมาพักชั่วคราว เพราะบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม พวกเขาบอกว่าเสียงปืนเสียระเบิดดังมาก จึงต้องอพยพมาก่อน และขออยู่ที่นี่เพราะใกล้บ้าน หากสถานการณ์สงบจะอพยพกลับไปได้ง่าย และยังต้องเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อน