สังคม

สกัดจับ 'แก๊งไฮบริดสแกม' ยึดทรัพย์กว่า 250 ล้าน อึ้งเงินสะพัดปีละ 30,000 ล้าน

โดย passamon_a

18 เม.ย. 2567

729 views

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 ตร.ไซเบอร์ สนธิกำลัง ปปง. เปิดปฏิบัติการ The Purge (เดอะ เพิร์ค แปลว่า กวาดล้าง) กวาดล้างอาชญากรข้ามโลก จับชาวต่างชาติแก๊งไฮบริดสแกม ยึดทรัพย์กว่า 250 ล้านบาท


โดยธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ถูกมัดเป็นกอง กองละ 1 ล้านบาท จำนวน 80 มัด ถูกบรรจุใส่ในถุงผ้าใบขนาดใหญ่ 5 ถุง เป็น 1 ในของกลางคดีไฮบริดสแกม ที่คนร้ายได้ว่าจ้าง นายสุรัตน์ นามบุญ และ นายกันต์นภนต์ คำแดง ขนเงินเหล่านี้ใส่รถเก๋งโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บธ 6910 ตาก เพื่อนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้านจังหวัดตาก แต่ถูกตำรวจไซเบอร์ และ สภ.พระวอ จังหวัดตาก ร่วมกันสกัดจับเอาไว้ได้ ที่ด่านตรวจห้วยละอุ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก


ซึ่งทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 5 พันบาท ให้ขนเงินดังกล่าวจาก อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วนำเงินดังกล่าวออกนอกประเทศทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปยังเมียวดี ประเทศเมียนมา


และเมื่อช่วงเช้า วันที่ 17 เม.ย. ตำรวจไซเบอร์ และ ปปง. นั่งเฮลิคอปเตอร์ นำคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวไปแสดงต่อตำรวจ สภ.พระวอ ทันที เพื่ออายัดเงินดังกล่าวไว้ตรวจสอบ ท่ามกลางการคุ้มกันจากตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษของกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดตาก และชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ตลอดเส้นทาง ก่อนจะนำมาแถลงที่ สอท. เมืองทองธานี เมื่อ 4 โมงเย็น วันที่ 17 เม.ย.


โดย พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจ สอท. เปิดเผยว่า วิธีการของคนร้ายคือ ใช้วิธีหลอกลงทุนเทรดคริปโตเคอเรนซี โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นบัญชีม้า แต่คนร้ายอ้างว่าเป็นบัญชีตัวแทนรับแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นสกุลดิจิทัล เพื่อโอนเข้าแอปพลิเคชั่นเทรดเงินปลอม จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่าปลายทางของเงินจะถูกนำไปฟอกด้วยระบบการเงินใต้ดิน เช่น พนันออนไลน์ ยาเสพติด


1 ในผู้ร่วมขบวนการเป็นคนจีน และชาวสิงคโปร์ เป็นผู้จ้างวานเพื่อจดทะเบียนบริษัทนอมินี นำข้อมูลบริษัทไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำเงินไปเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และโอนต่อไปอีกหลายทอด สร้างความสับสน ยุ่งยาก เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ แต่ตำรวจก็ตรวจจนเจอว่า หลักฐานการเงินไม่สัมพันธ์กับฐานะเจ้าของบัญชี จนเจอพยานหลักฐานว่า พวกเขามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม จนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ 26 คน เข้าค้น 4 จุดเป้าหมาย และนี่คือที่มาของปฏิบัติการ The Purge


ผู้ต้องหาคนสำคัญได้ 4 คน คือ นายวศิษฎ์ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ฟอกเงินผ่านดิจิตอล นางสาวสิรภัทร อายุ 25 ปี เจ้าของบัญชี นายตงเจี้ยน สัญชาติจีน อายุ 45 ปี ผู้รับผลประโยชน์ และ นายเว่ย คิง เคก สัญชาติสิงคโปร์ อายุ 41 ปี ทำหน้าที่จ้างวานเปิดบัญชีนิติบุคคล และบริหารจัดการทรัพย์สิน ยึดบัญชีเงินฝาก ยอดเงินจำนวนประมาณ 40 ล้านบาทเศษ บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท เงินสด จำนวน 80 ล้านบาท รถยนต์หรู รวมมูลค่าทั้งสินประมาณ 252 ล้าน 5 แสนบาท


นอกจากนี้ยังเปิดปฏิบัติการ Trust No One Ep.1-5 ตรวจค้น 72 จุดทั่วประเทศ สามารถจับผู้ต้องหาชาวจีนได้อีก 3 คน ยึดอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด รถยนต์ สินค้าแบรนเนม เงินสด ได้กว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้วิธีหลอกชักชวนเหยื่อให้ลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มปลอมเช่นกัน โดยจะหลอกให้ผู้เสียหายซื้อเงินสกุล USDT และโอนเงินไปตามกระเป๋าเงินดิจิทัล ตามที่คนร้ายระบุ ตำรวจไซเบอร์จึงแกะรอยเส้นทางเงินจนไปเจอเจ้าของกระเป๋าเงินดิจิทัลตัวจริง คือ นายซูเหลียน ชาวจีน ซึ่งมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงนอมินีรูปแบบนิติบุคคลสัญชาติไทย ทำหน้าที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินต่าง ๆ เพื่ออำพรางธุรกรรม ซึ่งคดีนี้ ปปง.สามารถอายัดทรัพย์ไว้ได้กว่า 600 ล้านบาท และได้ลงประกาศให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์คืนได้แล้ว


ส่วนทรัพย์ที่คดีได้จากปฏิบัติการ The Purge จะให้โอกาสเจ้าของทรัพย์เข้ามาชี้แจงที่มาของทรัพย์ ภายใน 90 วัน ซึ่งหากชี้แจงที่มาของเงินได้ก็จะต้องคืนเจ้าของทรัพย์ แต่หากทรัพย์มาจากการกระทำความผิด ก็จะนำไปคืนให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกจากขบวนการนี้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FQynm6hkUjk

คุณอาจสนใจ

Related News