อาชญากรรม
เสียชีวิต 206 ราย สรุป 5 วัน ช่วง 7 วันอันตราย ดำเนินคดีเมาแล้วขับ 3,973 คดี
โดย attayuth_b
16 เม.ย. 2567
43 views
เกือบ 4,000 คดียอดสะสมการดำเนินคดีเมาแล้วขับ 5 วันในช่วง 7 วันอันตราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมจนถึงวันที่ 15 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตแล้ว 206 ราย
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2567 เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 314 คน ผู้เสียชีวิต 39 ราย
ขณะที่ตัวเลขสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ นับตั้งเเต่วันที่ 11-15 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,564 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,593 คน ผู้เสียชีวิต รวม 206 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 43.19 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.92 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 15.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์
โดยพบว่าเกิดเหตุบนถนนสายรองใน อบต.หรือในหมู่บ้านถึงร้อยละ 31.88 ด่านชุมชนจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยคัดกรองผู้มีอาการมึนเมาสุรา ซึ่งในช่วง 5 วันนี้สามารถสกัดกั้นคนเมาไม่ให้ออกมาขับขี่บนท้องถนนได้ถึง 9,144 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ขับขี่รถยนต์/รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 66.29 ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์ มี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ น่าน 14 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดได้แก่ น่าน 16 คน เเละจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่เชียงราย 4 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 61 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน 60 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและเชียงราย 13 คน
ส่วนสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในวันที่ 15 เม.ย.2567 รวมทั้งสิ้น 242 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 236 คดี และคดีขับเสพ 30 คดี
สำหรับยอดรวมสะสม 5 วัน ของ 7 วันอันตราย มีจำนวน 4,132 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 3,973 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.15 คดีขับรถประมาท 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.07 คดีขับเสพ 156 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.78
โดยกรุงเทพมหานคร มีคดีเมาขับสูงสุดอันดับหนึ่ง 446 คดี รองลงมา นนทบุรี 238 คดี และ สมุทรปราการ 214 คดี ทั้งนี้
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติสะสม 5 วันของ 7 วันอันตรายปี 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 5,869 คดี และ ปี 2567 จำนวน 3,973 คดี ลดลง 1,896 คดี คิดเป็นร้อยละ 32.3
สำหรับการเดินทางกลับกรุงเทพมหานครตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงวันนี้ ศปถ.ได้ประสานจังหวัดปรับแผนการดำเนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยบูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บริหารจัดการจราจร และอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ ประชาชนตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงถนนที่มีการจราจรหนาแน่น ให้เร่งระบายรถ เปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ปรับสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดการเรียกตรวจยานพาหนะในเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางตรงระยะทางไกล ซึ่งผู้ขับขี่มักจะใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ อีกทั้งประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงแล้วขับ ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานให้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย รวมถึงยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที หากประชาชนพบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1669
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสาย 304 ช่วงขาเข้ากรุงเทพมหานคร มีปริมาณรถหนาแน่นตั้งแต่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา-ผ่านอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มุ่งหน้าเข้าจังหวัดชลบุรี และกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังพบว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ชนท้ายรถยนต์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าได้รับความเสียหายจำนวนคัน เหตุเกิดหน้าโรงเรียนอนุบาลเมืองเก่า กม. 168 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี ตรวจสอบที่ถูกชนท้ายได้ได้รับความเสียหายจำนวน 6 คัน เป็นรถยนต์กระบะจำนวน 4 คัน รถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคล 1 คัน และรถคันที่ก่อเหตุเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี เพื่อให้แพทย์รับรักษาต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กบินทร์บุรี ต้องเร่งระบายการจราจรเพราะมีรถติดยาว และการเดินทางกลับของประชาชนที่ใช้ถนนสาย 304 ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมามีปริมาณรถเพิ่มขั้นอย่างต่อเนื่อง