ต่างประเทศ

อิหร่านเปิดฉากโต้กลับ ปล่อยโดรนยิงขีปนาวุธ กว่า 200 ลูกโจมตีอิสราเอล

โดย paranee_s

14 เม.ย. 2567

320 views

สถานการณ์ในตะวันออกกลางร้อนระอุ อิหร่านเริ่มปฏิบัติการล้างแค้นอิสราเอลแล้ว ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา โดยอิหร่านเริ่มปล่อยฝูงโดรนและยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 200 ลูก มายังอิสราเอล นับเป็นการโจมตีโดยตรงครั้งแรกในดินแดนของอิสราเอล


ปฏิบัติการล้างแค้นอิสราเอลเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยอิหร่านระดมปล่อยโดรน จำนวนมากและยิงขีปนาวุธร่วม 200 ลูกมายังอิสราเอล แต่ส่วนใหญ่จะถูกอิสราเอลยิงสกัดบริเวณพรมแดนก่อน


มีรายงานว่า ขีปนาวุธบางส่วนที่ตกลงมาในอิสราเอลทำให้อาคารทางทหารอิสราเอลในพื้นที่ทางใต้อย่างน้อย 1 แห่งได้รับความเสียหาย ล่าสุดมีรายงานว่า เด็กหญิงอิสราเอลวัย 7 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส


ขณะที่สหรัฐฯเผย กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของตนที่ประจำการในตะวันออกกลางได้สอยโดรนอิหร่านที่มุ่งหน้ามายังอิสราเอลได้จำนวนมาก และย้ำสหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนอิสราเอล


ซึ่งที่อิสราเอลได้เปิดไซเรน สัญญาณเตือนภัยทางอากาศในพื้นที่ทางใต้ของประเทศรวมทั้งในเยรูซาเลมและเขตเวสต์แบงค์


ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ออกแถลงการณ์ทั่วประเทศย้ำอิสราเอลเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีในทุกรูปแบบจากอิหร่าน และกล่าวขอบคุณชาติพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศสและอีกหลายชาติที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้นำอิสราเอลยังได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีสงคราม เพื่อหารือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ศูนย์บัญชาการทหารในเทล อาวีฟ


ด้านกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน แถลงว่า การโจมตีในครั้งนี้เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ไปโจมตีทางอากาศใส่สถานทูตของอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน ในจำนวนนี้เป็นนายทหารระดับสูงกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม หรือ IRGC อย่างน้อย 2 นาย


ขณะที่อิสราเอลและเลบานอนเริ่มปิดน่านฟ้าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนจอร์แดน ซึ่งอยู่ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านได้เตรียมมาตรการป้องกันทางอากาศ เพื่อสกัดโดรน หรือขีปนาวุธที่รุกล้ำอาณาเขตของจอร์แดน


ขณะที่สายการบินพาณิชย์เริ่มปรับเส้นทาง โดยสายการบินคูเวต แอร์เวยส์ ประกาศปรับเส้นทางการบินทั้งขาเข้าและขาออก ในพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท


และเมื่อวานนี้สายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย ได้ประกาศปรับเส้นทางระหว่างเพิร์ทและกรุงลอนดอนของอังกฤษ ให้เลี่ยงน่านฟ้าอิหร่าน


ส่วนสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ระงับเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากกรุงเตหะรานของอิหร่านตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่เที่ยวบินอื่นก็ให้เลี่ยงน่านฟ้าอิหร่านด้วยเช่นกัน


ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ออสเตรียและเยอรมนีได้ออกคำเตือนไปยังพลเรือนของตนให้เลี่ยงการเดินทางไปยังอิหร่านและอิสราเอล หลังจากที่อินเดียออกคำเตือนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่พลเรือนของตนที่อยุ่ในอิหร่านและอิสราเอล ให้เพิ่มความระมัดระวังและขอให้เดินทางออกมานอกบ้านให้น้อยที่สุด


ส่วนบรรยากาศในอิหร่าน หลังจากที่รัฐบาลอิหร่านระดมยิงโดรนและขีปนาวุธไปยังดินแดนอิสราเอล ประชาชนในหลายเมืองออกมาเฉลิมฉลอง ด้วยการจุดพลุ โบกธงชาติปาเลสไตน์และตะโกนต่อต้านอิสราเอล ไปตามท้องถนน


ขณะที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่าน ประชาชนจำวนวนมากแห่นำรถไปเติมน้ำมัน และต้องรอเข้าแถวยาวเหยียด ซึ่งพวกเขาเตรียมพร้อมรับมือ หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจทำให้น้ำมันขาดแคลนและการเดินทางจะเป็นไปอย่างยากลำบาก


ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยุติการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่รัฐเดลาแวร์และเดินทางกลับทำเนียบขาวโดยทันที หลังจากได้รับรายงานอิหร่านส่งโดรนโจมตีอิหร่าน โดยไบเดนได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อหารือสถานการณ์ในตะวันออกกลาง


ด้านนาย แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ขอประณามการยกระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจาการโจมตีอิสราเอลของอิหร่าน โดยขอให้ยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกันโดยทันทีและว่าภูมิภาคนี้และโลกไม่สามารถทำสงครามได้อีกต่อไป


ส่วนอียู ก็ประณามการกระทำอิหร่านว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะจะทำให้สถานการณ์ลุกลามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาค


ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ตามที่มีเหตุความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง จึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาค ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดทำประกาศแจ้งเตือนคนไทยให้เตรียมความพร้อม รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินด้วยแล้ว จึงขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสถานทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีฉุกเฉินพี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ทุกแห่ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ