เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 8 เม.ย.67 นายกฯ ลงพื้นที่สมุย-ร้อยโทแทงคอฆ่าสาวในคอนโด-กากแร่แคดเมียมโผล่อีก

1.รวบร้อยโทหนุ่ม บุกแทงคอฆ่าสาวในคอนโดฯ

รวบแล้ว ทหารหนุ่มยศร้อยโท ต้องสงสัยปาดคอฆ่าแม่ค้าสาวร่วมคอนโดฯ หลังงัดเข้าไปรอในห้องพัก เพื่อนที่กำลังคุยโทรศัพท์ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดลั่น ตามไปดูพบเป็นศพถูกแทงพรุน ตำรวจตามรอยเลือดรวบคาห้อง เจอรอยข่วนบนใบหน้า อ้างทะเลาะกับแฟน ขณะที่ตำรวจ เค้นสอบแฟนสาว ร.ท.ชี้ฝ่ายชายเป็นหนี้พนันเกม เคยยืมเงิน 3 แสนแต่ไม่มีให้

ด้านผู้ก่อเหตุยังอ้างเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ก่อเหตุ ไม่รู้จัก-ไม่เคยไปที่ห้องผู้ตาย ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีคราบเลือดที่ระเบียงห้อง คืนวันเกิดเหตุนอนอยู่ในห้องพัก และยืนยันว่าตนเองไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สินใดๆ แต่ยอมรับว่าตอนนี้เครียดมากเพราะโดนกดดัน

ผกก.รัตนาธิเบศร์ ประสานนายทหารรัฐธรรมนูญร่วมสอบ บอกหลักฐานชัดทั้งวงจรปิด – นิติวิทยาศาตร์ เตรียมแจ้งข้อหาฆ่าโดยเจตนา เผยสาเหตุจากติดเกม มีการเล่นพนันผลเกมได้เสียกับเพื่อนจนเงินหมด ก่อนถูกแฟนทวงเงินที่ยืมไปหลักแสน เลยปีนจากชั้น 12 ลงมาที่ห้องผู้ตายหวังลักทรัพย์ เจ้าของห้องกลับมาเจอพอดีจึงลงมือ

2.กากแร่แคดเมียมโผล่อีก 1000 ตัน ที่สมุทรสาคร

ปทส.เจออีก บริษัทนายหน้า ซื้อขายแคดเมียม ซุกในโรงงานพื้นที่สมุทรสาครอีก 673 ถุง น้ำหนัก 1,034 ตัน และอีก 700 ตันที่ชลบุรี ก่อนพบเจ้าบริษัทเป็นของนายจาง ชายชาวจีนที่นายหลิว เจ้าของโกดังที่ ในจ.ชลบุรี ซัดทอดว่าเป็นนายจางเป็นผู้ขายให้ ขณะที่นายจาง อ้างบริษัทต้นทางขอฝากไว้ 1-2 สัปดาห์ จึงให้ฝากไว้ เพราะเป็นเพื่อนทำธุรกิจกันอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่

ด้านพิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม สั่งปูพรมตรวจสอบในพื้นที่และใกล้เคียง ตอนนี้พบแล้วประมาณ 70% จากที่ขนมากว่า 15,000 ตันแล้ว ส่วนอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ปิดคำสั่งอายัดห้ามเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ขณะที่สาธารณสุขลงพื้นที่เก็บเลือดและปัสสาวะชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงส่งตรวจ

3.ผกก.สน.เตาปูน เปลี่ยนใจ ไม่ลาออก หลังพูดคุยทำความเข้าใจ

สะเทือนวงการตำรวจ หลัง ผกก.สน.เตาปูน ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ก่อนการเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้ อ้างเหตุเครียดทำคดีเว็บพนันเอี่ยวตำรวจหลายนายและคดี 2 บิ๊กตำรวจ ล่าสุดเปลี่ยนใจ ไม่ลาออกแล้ว หลัง ผบก.น.2 เรียกพูดคุยระบุเจ้าตัวแค่มาปรึกษา แต่ยังไม่ได้ยื่นหนังสือ ก่อนคลายกังวล เข้าใจในเรื่องการดำเนินคดี

4.ชายสติไม่ดีคลั่ง คว้าขวดเบียร์ไล่แทงหนุ่มเข้าที่คอ เจ็บสาหัส

คนสติไม่ดี คลั่งบุกห้างดังเมืองชลบุรี คว้าขวดเบียร์ฟาดหัวคนจนหัวแตก ก่อนขวดกลายเป็นอาวุธปากฉลาม ก่อนจ้วงแทงคอลุงที่กำลังเดินซื้อของบาดเจ็บสาหัส ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.สัตหีบ ขณะที่พลเมืองดี เจ้าหน้าที่ รปภ.ห้าง ช่วยกันจับล็อกตัวเอาไว้ เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาสอบปากคำที่ สภ. เบื้องต้นพบมีอาการผิดปกติทางจิต พูดจาวกไปวนมา ให้การไม่รู้เรื่อง ก่อนเร่งตามหาญาติก่อเหตุมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

5.แม่ค้าโอดขายของไม่ได้ จนท.เร่งซ่อมถนนทรุดจุดยูเทิร์นปากเกร็ด

เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนทรุดตัว ตรงจุดยูเทิร์นหน้าวัดบ่อ ปากเกร็ด ทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เผยกลางคืนไม่ได้หลับได้นอนเสียงเครื่องจักรดังสนั่นทั้งคือ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าโอดขายของไม่ได้ เพิ่งรับเสื้อสงกรานต์มาขาย ค่าเช่าที่ก็ต้องเสียรายเดือน วอนเจ้าหน้าที่รีบดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็ว เพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันหมด ด้านผู้รับเหมากราบขออภัยประชาชน คาดสาเหตุถนนทรุดเกิดจากท่อประปาแตก พร้อมแจ้งเลื่อนเปิดจราจรเป็นวันที่ 9 เม.ย.67

6.เมียนมา ประสานไทย ขอเครื่องบินจอดแม่สอด ลี้ภัย ข้าราชการเมียวดี

รัฐบาลเมียนมา ประสานไทย ขอเครื่องบินทหารลงจอด ท่าอากาศยานแม่สอด ลี้ภัย ข้าราชการ-ตร.-ตม.ในเมียวดี กว่า 600 คน หลังถูกฝ่ายสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ตีเมืองแตก ขณะที่ทหารไทยเตรียมพร้อมตลอดลาดตระเวน 24 ชั่วโมง ด้านกัณวีร์ เตือนไทยต้องระมัดระวังเปิดสนามบินแม่สอดส่งกลับเชลยศึกเมียนมา เผยทำได้ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ IHL ย้ำต้องรับมือสถานการณ์การอพยพจากเมียวดีให้รอบครอบ

7.พายุฤดูร้อนถล่มภูซาง ลูกเห็บตกซัดบ้านพัง ชาวบ้านวิ่งหนีหลบกันให้วุ่น!

มาตามนัดพายุฤดูร้อนถล่ม อ.ภูซาง จ.พะเยา ลูกเห็บใหญ่กว่าไข่ไก่เบอร์ 0 ซัดถล่มหลังคาพังเป็นรูๆ บางบ้านหลังคาปลิวว่อน  ด้านปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกสำรวจความเสียหายแล้ว ทั้งนี้พบว่าส่วนใหญ่เป็นหลังคาบ้านเรือนที่ถูกลูกเห็บพัดถล่มเข้าใส่อย่างหนัก เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ก่อนออกประกาศเตือนพายุอีกระรอกในช่วง 8 – 11 เม.ย.67 นี้ หวั่นความเสียหายที่จะบานปลาย เร่งประสานจังหวัดจ่ายเงินเดียวยา



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯ ลงพื้นที่สมุย ลั่น ไม่ได้มาหาเสียง

ความเคลื่อนไหวการเมืองช่วงวันหยุดยาว เมื่อวานนายกฯเดินทางไปตรวจราชการที่เกาะสมุย นายกฯบอก ไม่ได้มาหาเสียงนะ เพราะเลือกตั้งไปแล้ว

การลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวาน ท่านไปในหลายจุด จุดแรกท่านไปติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ณ แหลมนิคม ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย

ที่จุดนี้ มี สส.สุราษฎร์ธานี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่มาให้การต้อนรับด้วย จากนั้นท่านนายกฯ ได้เดินทางเยี่ยมชมแปลงทุเรียนสาธิต และได้รับฟังปัญหาและแนวทางการพัฒนาสินค้าทางการเกษตรบนเกาะสมุย โดยเฉพาะทุเรียนกับมังคุด ช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้ย้ำกับเกษตรกรที่มาว่า ท่านไม่ได้หาเสียงเพราะการเลือกตั้งไปแล้ว

จากนั้นนายกฯได้ไปดูเตาเผาขยะสมุย ที่ตำบลมะเร็ต ซึ่งปัญหาเรื่องการกำจัดขยะ ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่สมุย ตอนนี้มีขยะติดค้างอยู่กว่า 150,000 ตัน จากนั้น นายกฯ ก็ได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาต่าง ๆ รวมถึงแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสมุย

และแน่นอน เมื่อวาน นายกฯไปทานแกงไตปลา ตามที่ท่านบอกไว้ก่อนหน้านี้ และยืนยันถึงความอร่อย หลังจากก่อนหน้านี้ Taste Atlas จัดเมนูแกงไตปลาให้เป็นเมนูยอดแย่อันดับ 1 ของโลก

และวันนี้ท่านนายกฯ ก็จะไปลงพื้นที่ที่ จ.นครศรีธรรมราช จะมีไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชหลายจุด รวมถึงวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ที่ท่านจะไปหารือประเด็นส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมูด้วย



-เศรษฐา ลั่น 3 ปีครึ่ง มุ่งทำงานเพื่อ ปชช. หวังเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง

นายกฯ ให้สัมภาษณ์ ระหว่างการลงพื้นที่สมุย ประกาศ 3 ปีครึ่งจากนี้ จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้ เพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าพรรคเพื่อไทยต้องไม่แพ้ตลอดไป การเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้ชนะว่า จริง ๆ แล้ว ที่ตนพูดไปในวันนั้น พูดตกไปนิดนึง เพราะไม่ได้มีโพย เป็นการพูดจากใจ

คือ พูดตกไปว่า ตนต้องนำชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น 3 ปีครึ่งที่เหลือ จะมุมานะทำอย่างเดียว คือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และหวังว่าผลที่จะตามมา คือ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง



-ศิริกัญญา เตือนรัฐบาล แถลงดิจิทัลวอลเล็ต 10 เม.ย. อย่าพลาดอีก

อีกด้าน ยังมีเสียงจากศิริกัญญา พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลจะแถลงเรื่องแจกเงินหมื่นในวันที่ 10 เมษายน นี้ โดยเตือนให้รัฐบาล เตรียมความพร้อมให้ดีก่อนแถลง เพราะหากพลาดบ่อยประชาชนจะไม่เชื่อมั่น

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การประชุมใหญ่ในวันที่ 10 เมษายนนี้ เป็นไทม์ไลน์ที่กระชั้นชิดมาก เพราะรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องแหล่งที่มาเงิน จำนวนเงินที่มีที่มาจากหลายแหล่งก็ยังไม่นิ่ง เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลชิงประกาศไทม์ไลน์ในการแถลงข่าว หรือดำเนินโครงการโดยไม่คำนึงถึงความพร้อม ซึ่งคุณศิริกัญญา ได้ฝากถึงรัฐบาล 2 เรื่อง

เรื่องแรก คือ การเตรียมความพร้อมก่อนแถลง เพราะทุกครั้งที่มีการแถลงต่อสาธารณะ ก็คือการให้คำมั่นสัญญากับประชาชน หากผิดคำพูดบ่อยก็อาจสร้างความไม่น่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล

เรื่องที่สอง เรื่องแหล่งที่มาของเงิน ตนเข้าใจว่าเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ จะเป็นการกู้ยืมจากหลายส่วน จึงอยากให้มีความชัดเจนในการใช้หนี้คืน เพราะก่อนหน้านี้เคยจะมีการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน ซึ่งสามารถระบุสัญญาได้ว่าจะใช้หนี้คืนภายในกี่ปี แต่ในเมื่อแหล่งที่มาเงินจะนำมาจากงบประมาณปี 68 ก็อยากให้รัฐบาลออกเป็นเงินกู้พันธบัตรชุดพิเศษ ที่ระบุไว้ว่า เป็นพันธบัตรของรัฐบาลสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยเฉพาะ กำหนดอายุของพันธบัตรให้ใช้หมดภายในอายุของรัฐบาลนี้

เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเพื่อให้รัฐบาลเป็นผู้ชดใช้หนี้ก้อนนี้ ป้องกันไม่ให้ส่งต่อหนี้ไปยังรัฐบาลชุดต่อไป



-ซูเปอร์โพล เผย ปชช. 77% มองการเมืองระอุ สู่ขัดแย้งรุนแรง

ขณะที่เมื่อวานซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน พบ 77% มองการเมืองระอุ สู่ความขัดแย้งรุนแรง เพราะวิกฤตศรัทธาต่อผู้นำ และ กระบวนการยุติธรรมล่มสลาย

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ เรื่อง พายุการเมืองระอุ กับ วิกฤตศรัทธา โดยถามจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,178 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 – 6 เมษายน ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 77.0 มองว่า บรรยากาศการเมืองจะร้อนระอุ สู่ความขัดแย้งรุนแรง ในขณะที่ร้อยละ 23.0 ระบุไม่เลย

ซึ่งเมื่อแบ่งตามช่วงอายุ พบแนวโน้มว่า ผู้ที่อายุน้อย จะมองว่า บรรยากาศการเมืองจะร้อนระอุ สู่ความขัดแย้งรุนแรง มากกว่า ผู้ที่มีอายุมากกว่า

และเมื่อพิจารณา เหตุปัจจัยที่ทำการเมืองร้อนระอุ สู่ความขัดแย้งรุนแรง พบว่า

-อันดับแรก คือ วิกฤตศรัทธาต่อ ผู้นำการเมือง ร้อยละ 84.8

-อันดับสอง กระบวนการยุติธรรม ล่มสลาย ร้อยละ 83.7

-อันดับสาม ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 66.3

-อันดับ 4 ความเสื่อมศรัทธาต่อ องค์กรอิสระ ร้อยละ 50.6

-และ อันดับห้า การยุบพรรคก้าวไกล ร้อยละ 48.9

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fcBnVkuLGhI