สังคม

นายกฯ ลงพื้นที่สมุย ดันโครงการท่าเทียบเรือสำราญ ตั้งเป้าติดท็อป 10 น่าเที่ยวที่สุดในโลก

โดย panwilai_c

7 เม.ย. 2567

61 views

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับฟังปัญหาและร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้สูงขึ้น ตั้งเป้าให้เกาะสมุย ติดอันดับสถานที่ยอดนิยมของการท่องเที่ยวของโลก



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่แหลมนิคม ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแก้ปัญหาเรือสำราญขนาดใหญ่ ไม่สามารถ เข้าเทียบท่าที่เกาะสมุยได้ โดยใช้งบประมาณ 12,172 ล้านบาท รองรับนักท่องเที่ยวได้ 180,000 คนต่อปี รองรับเรือสำราญ 120 เที่ยวเรือต่อปี ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจะใช้จ่าย 5,000 บาทต่อคน ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนรวมกว่า 40,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมให้บริการปี 2572



นายกรัฐมนตรี ได้แนะนำให้เปิด Duty Free ขึ้นที่นี่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่เกาะสมุย ทั้งภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว



นอกจากนี้ยังมองถึงการสร้าง ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเรือยอชต์ หรือ มารีน่า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเหมือนกับที่ภูเก็ตและสิมิลัน รวมถึงการสร้างท่าจอดเครื่องบินน้ำด้วย เพื่อรองรับการบินจากเกาะต่าง ๆ มายังจุดนี้ ให้สมุยเป็น top 10 ของโลกให้ได้



นายเศรษฐา ยืนยันว่า การเดินทางมาในวันนี้ไม่ใช่แค่การพูดลอยๆ โดยสั่งการชัดเจนให้ทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันการท่องเที่ยวเกาะสมุย และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมด้วย เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่นานขึ้น



จากนั้น นายเศรษฐา ก็เข้ารับฟังปัญหาเกษตรกรสวนทุเรียนเกาะสมุย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นทางคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคที่ยังไม่เชื่อมต่อกับคนในพื้นที่ ทั้งถนน ไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ โดยตัวแทนเกษตรกรมองว่าหากรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ จะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าขายทุเรียน จากปีละ 5 พันล้านบาท เป็น 1 หมื่นล้านบาทได้



ด้านนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากมีการสร้างระบบสาธารณูปโภคตามที่ร้องขอทั้งหมด อาจจะต้องเพิ่มการคาดการณ์รายได้จาก 1 หมื่นล้านบาทเป็น 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายเศรษฐา คาดว่าจะได้คำตอบภายใน 6 ถึง 7 เดือน จากนี้ เพราะผ่านมา 13 ปีแล้ว ก็ขอให้รออีกระยะจะได้ข้อสรุป



ภายหลังจากการลงพื้นที่นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาต่าง ๆ รวมถึงแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสมุย ประกอบด้วย ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำประปา และปัญหาคมนาคมในพื้นที่ โดยตอนนี้เกาะสมุยมีขยะตกค้างมากถึง 150,000 ตัน เนื่องจากเตาเผาขยะเดิมใช้การไม่ได้



ขณะที่น้ำประปาก็ไม่เพียงพอเนื่องจากแหล่งน้ำต้นทุนที่จำกัด จึงได้เสนอให้ซ่อมแซมโรงงานผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด และขยายท่อส่งน้ำประปาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้นายกฯ พิจารณา



ส่วนปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ ก็ถูกจำกัดทั้งทางน้ำและทางอากาศ สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกาะสมุยยังไม่พร้อมรองรับการเป็น ทัวร์ลิสซึ่มฮับ หรือ การจัดงานระดับโลกได้



นายกรัฐมนตรี ก็ได้ไปดูเตาเผาขยะสมุย ตามที่ได้รับรายงานในที่ประชุมถึงปัญหาเรื่องการกำจัดขยะ ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่สมุย ที่ตำบลมะเร็ต ซึ่งตอนนี้มีขยะติดค้างอยู่กว่า 150,000 ตัน ยืนยันว่าจะหาแนวทางจัดการปัญหานี้ และ แนวทางสร้างเตาเผาขยะในพื้นที่โดยเร็ว

คุณอาจสนใจ

Related News