เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ สั่งตั้ง คกก.สอบปมสารแคดเมียมหลุดซ้ำที่ชลบุรี สส.ก้าวไกล จี้เร่งสอบ ชี้ถึงเวลาเปิดข้อมูลเคลื่อนย้ายสารพิษ

โดย paranee_s

7 เม.ย. 2567

150 views

เมื่อเวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เกาะสมุย ถึงความคืบหน้าการตรวจหาสารแคดเมียมจำนวนกว่า 1 หมื่นตันที่หายไปจากโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ว่าสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่ามีอะไรบ้าง ที่ไหนบ้าง ใครเอาไปดำเนินการอย่างไรบ้าง รวมถึงตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่โดยใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์และพบว่าไม่มีอะไร ในส่วนที่สามารถดำเนินการติดตามสารที่กลับมาได้นั้น ต้องดำเนินการนำไปฝังกลบภายใน 15 วัน


ส่วนที่มีข่าวว่าสารดังกล่าวหลุดไปที่จังหวัดชลบุรีก็ต้องนำกลับมาให้หมด โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบทราบความจริงแล้ว อย่างไรก็ตามนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ดูแลด้วยตัวเองทุกอันแล้ว


เมื่อถามว่าประชาชนมีความกังวลว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเป็นแต่ได้ดำเนินการตรวจสอบที่หลุดกระจายออกไปแล้ว ยังไม่มีอันตราย


ขณะที่ สส.ก้าวไกล เฟซบุ๊กไลฟ์ตั้งวงคุยฉุกเฉิน เตือนประชาชนและตั้งคำถามต่อรัฐบาลกรณีกากแคดเมียมหาย 15,000 ตัน ซึ่งอาจมีบางส่วนถูกหลอม เกิดสารพิษปนเปื้อนสู่ชุมชน โดยในวงสนทนาประกอบด้วย คริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พื้นที่ตั้งเหมืองสังกะสี ต้นตอกากแคดเมียมประมาณ 15,000 ตัน


นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 พื้นที่ที่พบกากแคดเมียมเตรียมหลอม ชวาล พลเมืองดี สส.ชลบุรี เขต 3 พื้นที่บ้านบึงซึ่งพบกากแคดเมียม 7,000 ตัน และคาดว่าบางส่วนถูกหลอมแล้ว นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ศูนย์นโยบายพรรคก้าวไกล


นายคริษฐ์ ในฐานะ สส.ตาก ระบุว่า เหมืองสังกะสีผาแดงเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่อยู่มา 40 ปี แม้วันนี้จะปิดตัวไปแล้วแต่ก็ยังทิ้งผลกระทบในพื้นที่จากการรั่วไหลของแคดเมียม อันเป็นผลพวงจากการทำเหมือง หลายพื้นที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ กากแคดเมียมจากเหมืองผาแดงเดิมถูกฝังกลบในบ่อซีเมนต์ถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่อยู่ ๆ ชาวตากก็มารู้ข่าวพร้อมคนไทยทั้งประเทศว่ามีการเปิดบ่อเพื่อเอาแคดเมียมออกมาขาย ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพื้นที่อย่างมาก ที่สำคัญ กระทรวงอุตสาหกรรมยังระบุว่าจะนำกากแคดเมียมมาคืนที่เดิม แต่กลับไม่มีการตรวจสอบว่าบ่อที่ถูกเปิดออกมาแล้วจะเกิดการรั่วไหลของสารพิษหรือไม่ รวมถึงไม่ตรวจสอบที่มาที่ไปของการเปิดบ่อว่าทำอย่างถูกต้องหรือไม่ด้วย


“ผมอยากทราบว่าทำไมเกิดความไม่เท่าเทียมกันในการจัดการสถานการณ์ ที่สมุทรสาครกับชลบุรีมีการเร่งตรวจสอบ ปิดพื้นที่ แต่ที่ตากกลับไม่ตรวจสอบอะไรเลย แถมบอกว่าจะเอากากแคดเมียมกลับมาคืนที่เดิม อีกไม่นานพายุฤดูร้อนจะมา ประชาชนในพื้นที่กังวลมากว่าบ่อกากแร่ที่ถูกเปิดออกแล้ว เมื่อเจอพายุฝนจะรั่วไหลพาสารพิษลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติหรือไม่ และหากนำกากแคดเมียมกลับมา บ่อจะถูกปิดสนิทเหมือนเดิมหรือไม่” นายคริษฐ์กล่าว


ด้านนายชวาล สส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่มาระยะหนึ่งแล้วว่าได้กลิ่นผิดปกติจากโรงหลอมในตำบลคลองกิ่ว ซึ่งเป็นโรงรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มทุนจีน นอกจากนี้ประชาชนยังพบว่าสัตว์เลี้ยงไม่ยอมลงไปกินน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างที่เคย ตนเองเคยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่โรงงานก็พบถุงบิ๊กแบ็กหน้าตาน่าสงสัยจำนวนมาก วันนี้ก็พบแล้วว่าถุงดังกล่าวเป็นกากแคดเมียมปริมาณถึง 7,000 ตัน หลายส่วนถูกพบหน้าเตาหลอม ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่ามีกากแคดเมียมบางส่วนถูกหลอมไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ตนจึงมีข้อเสนอเร่งด่วนต่อรัฐบาล ดังนี้


1. รัฐบาลต้องประกาศให้พื้นที่คลองกิ่วเป็นเขตควบคุมมลพิษ

2. ตรวจสอบโรงหลอมและการฝังกลบของเสียในพื้นที่โรงหลอมทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต

3. ตรวจสอบการสำแดงเท็จนำเข้ากากอุตสาหกรรมอันตรายที่เป็นวัตถุดิบเข้ามาในประเทศ

4. หยุดการออกใบอนุญาตให้กับโรงหลอมเพิ่ม


นายพูนศักดิ์ ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อที่เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า กากแคดเมียมเมื่อถูกหลอมจะต้องผ่านการบำบัดมลภาวะทางอากาศ และมีระบบบำบัดน้ำเสียด้วย เนื่องจากไอกรดจากการหลอมแคดเมียมจะตกลงสู่พื้นผิวและปนเปื้อนแหล่งน้ำ แต่โรงงานในคลองกิ่วทั้งหมดไม่มีระบบบำบัดอากาศหรือน้ำ อีกทั้งยังไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่น่ากังวลอย่างมากว่าอาจมีการปนเปื้อนสารแคดเมียมในชุมชนแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบ เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของประชาชน


ส่วนในสมุทรสาคร นายณัฐพงษ์ สส.เจ้าของพื้นที่ระบุว่า แม้ล่าสุดจะพบกากแคดเมียมเพิ่มเติมอีกจุดหนึ่งในพื้นที่บางน้ำจืด สมุทรสาคร แต่ยังไม่พบว่ามีการหลอมแคดเมียม และไม่พบการปนเปื้อน แต่การให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจนของรัฐบาลทำให้เกิดความตื่นตระหนก ถึงกับมีการพูดว่าจะไม่กินอาหารทะเลจากมหาชัย เนื่องจากกลัวสารแคดเมียม ตนขอยืนยันว่าพื้นที่มหาชัยและอ่าวไทย กับพื้นที่ที่พบกากแคดเมียมอยู่ห่างกันมาก อีกทั้งยังไม่มีการหลอมกากแร่ จึงไม่มีการปนเปื้อนแคดเมียมสู่อาหารทะเลอย่างแน่นอน


แต่ขณะเดียวกัน ประชาชนในพื้นที่มีความกังวลกันมานานว่าโรงหลอมในพื้นที่มักแอบหลอมโลหะหนักและสารอันตรายในช่วงกลางคืน และปล่อยกากแร่ลงสู่แม่น้ำ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง กระทบกับสุขภาพคนทั้งจังหวัด ตนจึงขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ในการสังคายนาระบบการจัดการสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมทั้งระบบ


นายพูนศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อเสนอเบื้องต้นที่พรรคก้าวไกลต้องการให้รัฐบาลจัดการอย่างเร่งด่วน คือ


1. กระทรวงอุตสาหกรรมต้องตรวจสอบข้อมูลและเปิดเผยข้อมูลอย่างเร่งด่วน และใช้โอกาสนี้ทบทวนระบบกำกับการจัดการของเสียและน้ำเสียอุตสาหกรรมทั้งระบบ


2. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องตรวจสอบกระบวนการขุดกากแร่ว่าได้รับการอนุญาตจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวมล้อม (สผ.) หรือไม่ และประชาชนได้เข้าร่วมในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นต่อการอนุญาตให้ขุดกากแร่หรือไม่ รวมถึงต้องขยายความรับผิดชอบของ สผ.ให้ครอบคลุมภายหลังปิดโครงการฯ นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษยังควรมีอำนาจในการตรวจสอบพื้นที่ปนเปื้อนจากการประกอบกิจการโรงงานด้วย


3. ทบทวนกระบวนการยุติธรรมสำหรับกรณีคดีสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะตำรวจ อัยการ และศาลต้องทำความเข้าใจปัญหาการแพร่กระจายของมลพิษ และต้องเร่งรัดในการจัดการอย่างเร่งด่วน เช่น กรณีโรงงานแวกซ์กาเบ็จที่จังหวัดราชบุรี ใช้เวลามากกว่า 10 ปีคดียังไม่สิ้นสุด รวมถึงต้องเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดด้วย


4. ฝ่ายนิติบัญญัติและนายกรัฐมนตรีต้องเร่งรัดการออกกฎหมาย PRTR (พ.ร.บ.ควบคุมการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารพิษหรือมลพิษ) เพื่อเปิดเผยข้อมูลมลพิษให้ประชาชนได้ทราบความเสี่ยงของพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมาย PRTR เข้าสภาฯ แล้ว หวังว่าในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ครั้งหน้า ฝั่งรัฐบาลจะหยิบยกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้วัวหายแล้วล้อมคอกเหมือนที่ผ่านมา

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ