2 พี่น้องผวา ถูกแก๊งวัยรุ่น 5 เม็ดตามราวีทำร้าย โอดแจ้งความ แต่ ตร.ไม่รับเรื่อง อ้างเหตุยังไม่เกิด

นาย ต๋อง (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี และ นางสาว แพร (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี 2 พี่น้องเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด จากกรณีช่วงกลางดึกของวันที่ 3 เมษายน ที่ นายต๋อง ขี่จักรยานยนต์ กลับหัองพักย่านพหลโยธิน 48 เมื่อมาถึงจังหวะลูกระนาดได้ชะลอความเร็ว เนื่องจากรถจักรยานยนต์เตี้ย และเป็นจังหวะเดียวกับกลุ่มคู่กรณี ขี่รถสวนทางมา ทางคู่กรณีได้ตะโกนด่าทันทีว่า “มองหน้ากูทำไม มองหน้าทำไม”


จากนั้นคู่กรณีก็ตามเพื่อนมา จากซอกตึกแถวนั้น ประมาณ 10 คน เมื่อทุกคนออกมาต่างก็ถือมีดและปืนมาด้วย และมาล้อมรถ กรีดรถให้เป็นรอย ปล่อยลมยางรถทั้ง 2 ล้อ และขณะวิ่งไล่ได้ตะโกนด่าว่า “เก๋าหรอ มึงเก่งหรอ” ตอนนั้นตนเองตกใจ รีบวิ่งขึ้นห้องพักทันที


นางต๋อง ยืนยันไม่ได้มองหน้า และไม่ได้รู้จักใครในกลุ่มคู่กรณี แต่ยอมรับว่า รถจักรยานยนต์แต่งโหลดเท่านั้นแต่ไม่ได้แต่งท่อให้เสียงดัง จนไปยั่วยุคู่กรณี อีกทั้งตนเองมาอาศัยแถวนี้ได้ประมาณ 1 ปี และทำงานเป็นช่างแอร์ เลิกงานก็กลับบ้านตลอด ไม่ไปสุงสิงกับใคร


สำหรับพฤติการณ์ของวัยรุ่นกลุ่มคู่กรณีส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 18 ปี มากสุดประมาณ 20 ปี และจะจับกลุ่มมั่วสุม ดื่มน้ำกระท่อม และเสพยาเสพติด บริเวณหลังตลาด มักจะพกมีดและปืนไปไหนมาไหน และนางต๋อง ยังบอกอีกว่า เคยเห็นกลุ่มนี้ไปทำร้ายคนอื่นอีกด้วย


ขณะที่นางสาวแพร พี่สาวของผู้เสียหาย บอกว่าหลังจากทราบเรื่องก็โทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 ก่อนจะประสานไปยังตำรวจ สน.บางเขน ซึ่งตอนนั้นสายตรวจมา แต่ไม่ได้ทำอะไรแล้วก็กลับไป เธอร้อนใจ เพราะวันถัดมาน้องชายก็ถูกคู่กรณีมาดักหาเรื่อง เธอจึงไปแจ้งความที่ สน. อีกครั้ง แต่ตำรวจปฏิเสธที่จะรับแจ้งความ บอกว่าให้มาแจ้งความอีกครั้งวันที่ 7 เมษายน ให้เหตุผลว่า ต้องรอให้ตำรวจที่รับเรื่องมาเข้าเวรในวันที่ 7 เมษาก่อน ถึงจะทำเรื่องได้ แต่เธอร้อนใจเกรงว่าน้องชายจะได้รับอันตราย เพราะขณะที่เธอมาแจ้งความ กลุ่มคู่กรณีได้ล้อมอยู่ด้านล่างที่พักของน้องชาย แต่ตำรวจยังพูดกับเธออีกว่า “ให้น้องโดนยิงก่อนแล้วค่อยมาแจ้ง” และยังบอกให้น้องชายมาแจ้งความเอง แต่น้องออกมาจากห้องพักไม่ได้ ทั้งที่ตอนนั้นเธอมีทั้งคลิปวงจรปิดไปแจ้งความ


เธอยังบอกอีกว่า หลังเกิดเหตุ เธอไปคุยกับครอบครัวของ 1 ในคู่กรณีแล้ว พ่อแม่คู่กรณีก็ไม่ได้อะไร แต่กลุ่มเพื่อนของคู่กรณียังไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่ไปเคลียร์กันแล้ว ยังมารอดักทำร้าย และด่าทอ ว่าน้องชายเธอไปทำร้ายเพื่อนของคู่กรณีจนบาดเจ็บเย็บ 28 เข็ม ซึ่งเธอและน้องยืนยันว่าไม่ได้ไปทำร้ายใครน่าจะจำผิดคน แต่คู่กรณีไม่ฟังจนทำให้น้องชายต้องหนีไปนอนที่อื่น เพราะคู่กรณีจะมารอดักทำร้าย อีกทั้งยังบอกอีกว่าน้องชายเคยโดนรอดักทำร้ายแบบนี้มา 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้โดนอะไรจึงไม่ได้แจ้งความ แต่ครั้งนี้รู้สึกรุนแรงมาก เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย


และเมื่อถามว่าอยากบอกอะไรกับคู่กรณีไหม นายต๋อง บอกว่า “อยากถามว่าทำอะไรให้ทำไมถึงจะเอาถึงตาย”


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่าตนเองได้ประสาน ผู้กำกับสน.บางเขน ให้ผู้เสียหายมาเข้ามาแจ้งความวันนี้ได้เลย และกรณีที่เกิดขึ้นมองว่าอุกอาจคู่กรณีเป็นเด็กอายุน้อยๆ กันทั้งนั้น และที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านในที่เกิดเหตุมาร้องเรียนว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้จะเรียกว่าวัยรุ่น 5 เม็ดเวลาเมาก็จะออกอาละวาดทำร้ายชาวบ้านและวัยรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม


ขณะที่หลังแถลงข่าว ทางเพจสายไหมได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความที่สน.บางเขน และขอให้สายสืบลงพื้นที่ไปตรวจสอบพื้นที่