สำรวจโรงงานเก็บกากแคดเมียม จ.สมุทรสาคร ด้านผู้ว่าฯสั่งเร่งย้ายกลับเหมืองใน 7 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สั่งให้บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เร่งย้ายกากแคดเมียม ที่มีสารก่อมะเร็ง กลับคืนไปเก็บในเหมืองแคดเมียม ที่จังหวัดตาก โดยเร็วที่สุด และประกาศห้ามเข้าออกพื้นที่โรงงาน 90 วัน ยกเว้นผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหานี้ หลังจากเมื่อวานนี้ กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดโปงว่ามีการลักลอบขุดกากแคดเมียม ที่อยู่ในหลุมฝังกลบขึ้นมาขายให้โรงงานนี้มากถึง 1 หมื่น 5 พันตัน ทั้งที่กากแคดเมียมนั้น มีรายงานใน EIA ต้องฝังกลบอย่างถาวรเท่านั้น



บริษัทเจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ในซอยกองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง สมุทรสาคร คือเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าตรวจสอบวันนี้



พนักงานโรงงาน อนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้นเข้าไปได้ และเริ่มสำรวจในโกดังของโรงงานที่ใช้เก็บกากแคดเมียม ที่ถือเป็นกากอุตสาหกรรมและจัดเป็นวัตถุอันตราย ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย เพราะมีโลหะหนักและสารก่อมะเร็ง



วัตถุสีดำที่เก็บอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กนี้คือ กากแคดเมียม และมีขนาดแตกต่างกันออกไป ทั้งที่มีสภาพเป็นก้อนของแข็งและที่มีสภาพเป็นฝุ่นผง



จากข้อมูลพบว่าโรงงานมีใบอนุญาต 2 ประเภท แต่แยกเป็น 3 ฉบับ โรงงานลำดับที่ 60 อนุญาตให้ทำกิจการหล่อ หลอม จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งกิจการที่ทำอยู่คือหล่อ-หลอมอลูมิเนียม และอีกฉบับเป็นโรงงานประเภท 106 หรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรม



ในการเข้าสำรวจโรงงานที่ได้ใบอนุญาต 106 หรือรีไซเคิลนั้น พบถุงบิ๊กแบ็กเก็บแคดเมียม ประมาณ 1,300 ถุง และนอกโรงงานอีก 100 ถุง โรงงานอีกหลังประเภท 60 คือหล่อและหลอม พบแคดเมียม และกากสังกะสี 9 ถุง



และอีกโรงงานลักษณะเป็นโกดังใบอนุญาตประเภท 60 เช่นกัน มีถุงกากแคดเมียม 227 ถุง รวมน้ำหนักทั้งหมดกว่า 15,000 ตัน



เป็นที่น่าสังเกตว่าถุงกากแคดเมียมและกากสังกะสีบางถุง ผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมน์ 30 เปอร์เซ็น เพื่อให้อยู่ในภาวะแข็งตัว และทำลายฤทธิ์ไม่ให้เกิดผลกระทบ



ขณะนี้กากแคดเมียมทั้งหมด ถูกอุตสาหกรรมจังหวัดอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 2 ที่ผ่านมา และผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศให้พื้นที่โกดังที่เก็บนี้กากอุตสาหกรรมนี้ เป็นเขตภัยพิบัติห้ามเข้าออกเด็ดขาด พร้อมสั่งให้โรงงานเร่งขนย้ายกลับคืนไปที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นต้นกำเนิดโดยเร็วที่สุด



ตอนนี้โรงงานถูกดำเนินคดีฐานดำเนินกิจการกรณีแคดเมียม โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งโรงงานระบุว่ายังไม่ได้นำแคดเมียนมาหลอม สอดคล้องกับการสืบสวนของตำรวจปทส.และการตรวจสอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่า เครื่องจักรทีนี่มีอุณหูมิเพียงพอพอที่จะหลอมอลูมีเนียมเท่านั้น ไม่มากพอที่จะหลอมแคดเมียมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยังไม่มีการฟุ้งกระจายของแคดเมียมผ่านการหลอม แต่การที่ถุงบิ๊กแบ็กชำรุด และวางตากแดดฝนตั้งแต่สิงหาคมที่ผ่านมา อาจเกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำหรือไม่ ตอนนี้ได้ตัวเก็บอย่างน้ำเสียไปตรวจพิสูจน์แล้ว



ข่าว 3 มิติพบว่า โรงงานแจ้งขอนุญาต จาก.อุตสาหกรรมจ.ตาก ว่าจะนำกากแคดเมียมนี้ มาบดย่อย ในโรงงานนี้ ที่มีใบอนุญาตรีไซเคิล 106 แต่ในโรงงานที่ตรวจวันนี้ก็ยังไม่พบการบดย่อยแต่อย่างใด ที่สำคัญกากแคดเมียมเหล่านี้ ที่อยู่ในการทำเหมืองของบริษัทผาแดง อินดัสทรี จ.ตากนั้น ตามรายงานใน EIA แล้ว ต้องถูกฝังกลบอย่างถาวร



คำถามสำคัญตอนนี้ยังอยู่ที่ว่า ขั้นตอนการขุดและขนย้าย จากต้นทาง ที่จ.ตาก ถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่