“หมอชลน่าน” แจงปมยาบ้า 5 เม็ด ฉุน “ครูปรีดา” ไม่เข้าใจเจตนากฎหมาย เจ้าตัวโต้ ลองเอาผู้เสพยาไปบำบัดที่บ้านรัฐมนตรีดู

วันนี้ (4 เม.ย. 2567) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลุกขึ้นชี้แจงหลังฝ่ายค้านพาดพิงเรื่องกัญชา โดยระบุว่า กัญชาเป็นยาเสพติดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลที่ผ่านมาให้สารสกัดที่มีมีค่า thc มากกว่า 0.2% โดยน้ำหนัก ขึ้นเป็นยาเสพติด ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกปี 2565 ว่าด้วยสมุนไพรควบคุม ประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ที่ออกเมื่อปี 2542 ประกาศฉบับนี้ให้เฉพาะช่อ-ดอก เป็นสมุนไพรควบคุม ยกตัวอย่าง ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือ ช่อ-ดอก หรือแปรรูปสมุนไพร เพื่อการค้าให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายช่อ-ดอก หรือแปรรูป ช่อ-ดอก หรือ การค้าให้กับเด็ก นักเรียน นิสิตนักศึกษา ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม ห้ามสูบในสถานประกอบการ เว้นแต่ได้รับการจำหน่ายจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เช่น แพทย์แผนไทย


ดังนั้น หมายความว่า ต้น ใบ ไม่จัดเป็นยาเสพติด ตามอนุสัญญายาเสพติดของสหประชาชาติ ปี 1961 และมีการแก้ไขเพิ่มเติม 1972 กัญชาถูกจัดให้เป็นยาเสพติดอยู่ตามตาราง 1 หรือบัญชีที่ 1 ความหมายคือ ยาเสพติดที่อยู่ตามบัญชีที่ 1 สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้


แต่ก่อนหน้าปี 2563 จัดอยู่ในบัญชีประเภทที่ 4 ซึ่งเป็นยาเสพติดที่อันตรายต่อชีวิต ไม่มีประโยชน์ทางการแพทย์ พอปี 2563 คณะกรรมการว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ มีมติถอนออกจากประเภท 4 ไปอยู่ประเภท 1 ตามข้อเสนอขององค์การอนามัยโลก ที่เห็นว่ากัญชานอกจากเป็นยาเสพติดแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และการวิจัยได้


นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า จากคำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และเน้นย้ำเมื่อ 2 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล เรื่องนโยบายกัญชา นายกฯ พูดชัดเจนว่ากัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ และส่งเสริมด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น นี่คือสถานะของกัญชา ที่สำคัญต้องใช้ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น และภาคีประเทศที่เป็นสมาชิกต้องออกกฏหมายควบคุม


ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยกัญชากัญชง โดยอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอนายกฯ ต่อไป ถ้าเห็นชอบแล้วร่างนี้จะเสนอเข้าสู่สภา กฎหมายฉบับนี้จะควบคุมการใช้กัญชาที่นอกเหนือไปจากการใช้เพื่อทางการแพทย์และสุขภาพ และเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการแพทย์และสุขภาพ ถ้านอกเหนือจากนี้ถือเป็นการใช้ผิดประเภททั้งหมด การปลูกการผลิตก็ต้องขออนุญาต


ส่วนเรื่องยาบ้า 5 เม็ด ที่ถูก นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.ประชาธิปัตย์ และ นายปรีดา บุญเพลิง สส.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน อภิปรายว่าอาจเป็นช่องว่างให้ผู้เสพ และอยากให้ยกเลิกกฎยาบ้า 5 เม็ด เพื่อไม่ให้เด็กเข้าถึงยาบ้า และยังกล่าวหา นพ.ชลน่าน ว่าเป็นฆาตกรผ่อนส่ง


โดย นพ.ชลน่าน บอกว่า นายร่มธรรม เพิ่งเข้ามาเป็น สส. ก็อยากให้ศึกษากฎหมายนี้ให้เข้าใจอย่างทองแท้ลึกซึ้ง ส่วนนายปรีดา ก็เป็นคนที่ร่วมออกกฏหมายยาเสพติดด้วย กลับไม่รู้เจตนาของกฎหมาย ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แต่ไม่ผิดเพราะสังคมไทยขณะนี้ องค์การค้าโลก ได้ออกการสำรวจแล้วว่าคนไทยมีการอ่านที่สั้นมาก ไม่อ่าน ไม่ทำความเข้าใจ เอากระแสโซเชียลว่า แต่สส. ในสภากลับไม่สนใจเรื่องของอันตราย ที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน ตนไม่ได้ต้องการให้ถอนคำพูด เพราะเจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายยาเสพติด เขาต้องการเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหายาเสพติด เพราะเขาดูผลที่ผ่านมาทั้งโลก


“มันยากมากที่จะคืนคนดีสู่สังคม สิ่งที่ทำเป็นการลดต้นทุนคนดีให้สังคม เพราะคุณไปสร้างโอกาสกลับไปสู่สังคมไม่ดีให้สูงขึ้น พิสูจน์จากที่เข้าค่ายบำบัดมา 2-3 สัปดาห์ กลับไปเสพ 50% เพราะชุมชนไม่เปลี่ยน เพราะฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้ต้องให้โอกาสเข้าสู่บำบัดรักษา เพื่อแยกคนไม่มีเจตนาค้า จำหน่ายจ่ายแจก และให้โอกาสกลับคืนสู่สังคม ในฐานะที่เป็นคนดีคนปกติ ไม่ควรถูกตีตรา ก็คือเป็นคดี จึงได้ออกกฎกระทรวงนี้มาเพื่อเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นเข้าสู่การบำบัด เพราะเชื่อว่าการบำบัดเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เจตนารมณ์กฎหมายฉบับนี้จะลดทอนความเป็นอาญา แต่ยังคงความเป็นอาญาไว้ให้ผู้ค้า ผู้ครอบครอง ส่วนผู้เสพเน้นความผิดตามกฏหมาย แปรเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยเข้าสู่การบำบัด”


นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การออกกฎกระทรวงนี้ได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว อยากให้ สส. ไปบอกประชาชน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของคนที่จะใช้เรื่อง 5 เม็ดไปเผยแพร่เข้าทางของผู้ค้า ไปช่วยผู้ค้าทางอ้อม การเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยตรงนี้ต้องสมัครใจเท่านั้น ถ้าผ่านการบำบัดครบแล้ว มีหนังสือรับรองให้ กฎหมายฉบับนี้ตามมาตรา 169 บอกว่าให้พ้นจากความผิด ส่วนที่ สส. เป็นห่วงเรื่องการบำบัด ซึ่งการบำบัดขณะนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผู้เสพ ผู้ติด ที่มีอาการ ให้เข้าสู่บำบัดทางการแพทย์ และ ผู้ใช้ที่ไม่มีอาการ ให้เข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูทางสังคม หรือเรียกว่าชุมชนเป็นฐานบำบัด ซึ่งมีสถานที่หลายแห่งรองรับ


ด้าน นายปรีดา ขอใช้สิทธิชี้แจงหลังถูกพาดพิง แต่ถูก นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ประท้วงประธานในที่ประชุม เนื่องจากอภิปรายร่ายยาว และพูดซ้ำเรื่องเดิม แต่ไม่พูดถึงสิ่งที่ถูกพาดพิง สุดท้าย นายปรีดา ยืนยันว่า ตนเป็นครูทั้งชีวิต อยู่กับนักเรียนมาตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกฎกระทรวงฉบับนี้ ทำให้เกิดปัญหาทั่วประเทศ สิ่งที่รัฐมนตรีกล่าวมาเป็นการแก้ไข ยังไม่รู้ผลสำเร็จ แต่ถ้าไปดูของจริงวันนี้ทั่วแผ่นดินไทยเด็ก ม.1-ม.6 อยากลองอยากรู้ ทำให้เกิดปัญหายาบ้า 5 เม็ด ลองเอาคนเหล่านี้ไปบำบัดที่บ้านของท่านรัฐมนตรี หรือ สส. 500 คน รับไปดู ว่าเป็นคนดีจริงหรือไม่ เอากลับมาอยู่บ้านก็เหมือนเดิมอีก วนไปเวียนมา และปัญหาที่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นฆ่าพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ตบตี สิ่งเหล่านี้เริ่มจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ตนเป็นห่วง ขณะนี้รออยู่ว่าถ้าเลิกกฎกระทรวงข้อนี้ได้ จะทำให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น


ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ถ้าใช้สิทธิ์พาดพิงก็พูดให้ชัดเจน ท่านกล่าวหาผมเป็นฆาตกรผ่อนส่ง ผมบอกว่าท่านเป็นคนไม่รู้ ไม่เข้าใจ ท่านต้องบอกว่าเสียหายจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เพราะอะไร ท่านไปหลับอยู่หรือ”


อย่างไรก็ตาม เวลา 20.30 น. ระหว่างที่ นพ.ชลน่าน ชี้แจงอยู่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากสภา โดยไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน