รวบสาวแก๊งโรแมนซ์สแกม อ้างเป็นแพทย์ทหาร หลอกเงินผู้เสียหายเพียบ สูญกว่า 2 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.หญิง สุธัญดา เอมเอก, พ.ต.ท.หญิง ภาพิมล ชัยขันธ์, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ต.ปกฉัตร สงวนแวว สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นันทณัฐ ปิณะวันนา, ร.ต.ท.นนทนันท์ นวนงาม รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม น.ส.มยุรี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 19/2567 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สำโรงเหนือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ


สืบเนื่องจากผู้ต้องหาอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ทหารชาวอเมริกันใกล้เกษียณติดต่อเข้ามาผ่าน สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย สร้างความสนิทสนมเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ จากนั้นได้หลอกลวงว่าจะส่งเงินมาให้ผู้เสียหาย จำนวน 1,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ และจะตามมาหาที่เมืองไทย โดยให้ผู้เสียหายชำระค่าใบรับรองศุลกากรฮ่องกงและศุลกากรไทย รวมกว่า 200,000 บาท


เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงโทรแจ้งธนาคารฯ เพื่อตรวจสอบและอายัดบัญชีผู้ต้องหา นอกจากนี้พบว่า ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวยังมีการหลอกลวงเหยื่ออีกหลายราย รวมเงินสดที่กดออกในช่วงเวลาดังกล่าวรวมกว่า 2 ล้านบาท


ต่อมาเจ้าหน้าที่ของทางธนาคารดังกล่าว ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีการกดถอนเงินสดออกไปที่ตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จึงประสานข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสืบสวนติดตามผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องหาและรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สำโรงเหนือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ


จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ถอนเงินสดจากบัญชีธนาคารตามที่ถูกกล่าวหาจริงและยังทำหน้าที่หลอกลวงเหยื่อ โดยจะรับบทเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง ในการแชตพูดคุยกับผู้เสียหาย เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระค่าศุลกากร โดยจะได้รับส่วนแบ่งประมาณ 4% ของยอดเงินที่หลอกลวงได้