เลือกตั้งและการเมือง

ผบช.สอท. ลั่น “พร้อมพิจารณาตนเอง” หลังนายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ต้องมีผลงาน

โดย paranee_s

1 เม.ย. 2567

82 views

เมื่อเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา ชั้น 6 เมืองทองธานี


โดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบ.ตร. และพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (ผบช.สอท.) มารอต้อนรับ


นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ตนคิดว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องมาที่นี่ คงไม่ต้องอารัมภบทอะไรมากมาย เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่าบช.สอท. ถูกสังคมเพ่งเล็งเยอะมากต้องยอมรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 2 ท่าน เพื่อให้ขบวนการยุติธรรมเดินไปได้อย่างถูกต้อง จะต้องไม่มีการก้าวก่ายและก้าวล่วง และให้ความเป็นธรรมกับท่านทั้ง 2 ด้วยเหมือนกัน


ตนเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ โดยเฉพาะรักษาการผบ.ตร.รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องจัดการให้หมดสิ้นไป หากอ่านหนังสือพิมพ์ฟังข่าวสารมาบอกว่าท่านผู้บัญชาการคนนั้นเป็นเด็กคนนั้นคนนี้ ตนว่ามันไม่แฟร์สำหรับท่านทั้ง 2 คน


แต่ตนว่าไม่มีอะไรตอบสังคมได้ดีกว่าการปฏิบัติของพวกท่านทุกคน และหน่วยงานต่างๆ แต่ตนคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องพิสูจน์กันว่าจริงๆแล้ว ไม่ใช่ตนไม่ใช่รักษาการ แต่คือประชาชน โดยงานที่ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน และเฟคนิวส์ทั้งหลายเหล่านี้เชื่อว่ากระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราทุกคนในที่นี้ มีความเกี่ยวข้องต้องมีความรับผิดชอบให้พี่น้องประชาชนอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีได้รับความเป็นธรรม ในการถูกคุ้มครองซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีไปไกลมาก และการที่พี่น้องประชาชนถูกมอมเมา ถูกหลอกลวง ถูกต้มตุ๋น ทั้งหลายนี้ บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิต ถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกไปหมดเลย บางคนเก็บเงินไว้รักษาพ่อแม่และเก็บเงินไว้ส่งลูกเรียนต่อหรือ ส่งลูกเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก นี่ไม่ใช่เป็นปัญหา ของการที่เขาถูกหลอกลวง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศด้วย


เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ที่จะมาพูดเล่นๆกันหรือมาสร้างภาพ ตนมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อสร้างภาพ แต่มาเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยในระยะเวลาอันใกล้ เราไม่มีเวลาแล้ว เรื่องการโยกย้ายต่างๆ ผ่านไปแล้ว เรื่องกระบวนการยุติธรรมเราได้ทำไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามตลอดเวลาได้ทำอะไรต่อหรือเปล่า มีการปฏิรูป มีการพัฒนาอย่างไรต่อไป ตนคิดว่าเป็นเรื่องวาทกรรม วันนี้ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมดีกว่า อย่าได้สนใจใครจะเป็นใครอะไรยังไง เชื่อว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน


ผมต้องการทำงานโดยเร็ว และ ไม่ใช่รายเล็ก ตนต้องการรายใหญ่ เชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้รู้อยู่แล้ว ในหน่วยงานของท่านใครที่ทำผิดกฎหมายอยู่บ้าง ใครที่พวกท่านสามารถไปตามจับสืบมาได้ ส่วนเรื่องคดีความของทั้ง 2 ท่านที่ถูกย้าย เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดิมไปตามหน้าที่ เราต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ท่าน ต่อไปเราต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมไม่ได้ เพราะเรายังตอบไม่ได้


“วันนี้ที่มาที่นี่ ถือเป็นนิมิตรใหม่อันดี แล้วกัน ไม่ได้มาว่า แต่มาให้กำลังใจ และบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน เราเองต้องเดินหน้า ไม่มีเวลา ที่จะต้องมาหาเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้ เชื่อว่า เราอยู่ในบริบท ที่จะมาอธิบายว่าการทำไม่ได้ มันไม่ใช่ มันต้องทำให้ได้ด้วยเหตุผล จับรายใหญ่ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมลำบาก เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศ หน่วยงานของท่านสังคมเพ่งเล็ง


ผมยืนยันไม่ปกป้องจะไม่นิ่งเฉย หากไม่มีผลงานเกิดขึ้น ผมว่ามีปัญหาแน่นอน เราอยู่พวกเดียวกัน ฝ่ายเดียวกัน โดยไม่ต้องคำนึงถึงนักการเมืองหรืออะไรก็ตามจะมาครอบงำ วันนี้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ผลงานของเราจะเป็นที่ประจักษ์ ขอเป็นนิมิตรใหม่อันดีและเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ของการที่เราเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชน ภายใน 30 วันนี้ ชัดเจนว่าจะจับอะไรให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหวยออนไลน์ หรืออะไรที่เกิดขึ้น ซึ่งพี่น้องถูกหลอกลวงทุกวันนี้ยังมีอยู่


ขอเลยเรื่องนี้จะต้องทำงานกันอย่างชัดเจนและใกล้ชิด เพราะเทคโนโลยีไปไกลมาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิตและสังคม(ดีอี) พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ผมเจอรัฐมนตรีดีอีในวันที่ 2 เม.ย.นี้ จะกำชับอย่างเด็ดขาดว่าต้องทำงานร่วมกัน อย่ามีการโยนความผิดซึ่งกันและกัน อย่าบอกว่าคนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีนะตรงนี้ ผมเชื่อว่ามานั่งตรงนี้แล้วรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้


พวกท่านเองก็ต้องให้ความสำคัญ ผมใช้เวลาประมาณ 5 นาทีที่พูดไป อยากให้ทุกท่านตระหนักดีว่าประชาชนเดือดร้อน เหตุผลที่เรามาทำงานตรงนี้ เพื่อให้ความดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ให้คนผิดลอยอยู่ได้ และยังทำทุกอย่างผิดๆอยู่ คิดว่าถึงเวลาแล้ว อยากได้เหตุผลว่าทำไมถึงจับไม่ได้ มันต้องจับให้ได้เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้อยู่อย่างมีความสุข อย่าให้ถูกซ้ำเติมตรงนี้ โดยเฉพาะการถูกหลอกลวง เงินหมดไปก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชญากร ตรงนี้ถือเป็นสารตั้งต้น ที่ต้องขจัดปัญหานี้ออกไปให้หมดจากสังคมไทย ผมยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสยืนยัน 30 วันต้องชัดเจน“


ส่วนกระบวนการยุติธรรม ที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการ 2 ท่านที่ถูกย้ายก็ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการต่อไป ให้ความร่วมมืออย่างถูกต้อง อย่าให้กล่าวโทษกล่าวหาได้ว่าเป็นเด็กของใคร เป็นคนของใครอะไรอย่างไรวันนี้เราเริ่มต้นกันใหม่แล้ว มันต้องช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ให้สมกับที่พี่น้องประชาชนมีความคาดหวัง


ขณะที่พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยภายหลังนายทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้กับตำรวจในสังกัด พร้อมกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่าง 2 นายตำรวจที่ผ่านมานั้นให้ถือเป็นเรื่องในอดีตที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว


ทั้งยังกล่าวถึงกรณีที่ พลตำรวจโทวรวัฒน์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กของใครนั้น นายกฯ ก็รู้สึกสงสาร จึงอยากให้พลตำรวจโทวรวัฒน์พิสูจน์ตนเองด้วยการทำงาน โดยนำประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมกำชับให้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นย้ำให้มีผลงานการจับกุมและรายงานผลปฏิบัติที่ชัดเจนภายใน 30 วัน โดยเน้นเป็นอาชญากรรายใหญ่นั้น


พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีได้กำชับมาแล้วก็จะต้องปฏิบัติให้เต็มที่ โดยมีผลงานเป็นรูปธรรมเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาโดยตลอด


ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าต้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 30 วันนั้นเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้เห็นปัญหาความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นต้นเหตุ จึงได้มีการกำชับการปฏิบัติให้มีความเข้มมากขึ้น หากไม่สามารถปฏิบัติได้ ก็จะต้องพิจารณาตัวเองว่า “เราทำไม่ได้”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ