แพทย์วินิจฉัย ลูกฆ่าตัดหัวแม่ ป่วยจิตเภท หลอน-หูแว่ว

ความคืบหน้ากรณีลูกชายวัย 31 ปีก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันคอมารดา จนเสียชีวิต ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ล่าสุดผลตรวจสารเสพติดในร่างกายผู้ก่อเหตุ ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยจิตเภท หลอน หูแว่ว กระวนกระวาย



ความคืบหน้ากรณีนายณัฐพร หรือชวน อายุ 31 ปี ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันคอ นางจำปา อายุ 73 ปี มารดาตนเองจนศีรษะขาด และเดินหิ้วศีรษะ พร้อมกับใช้มีดพร้าเฉาะจนศีรษะแตกละเอียด เหตุเกิดที่บ้าน ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี



หลังเกิดเหตุพลเมืองดีร่วมกับเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายณัฐพร ไว้ได้ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.หลังถูกจับกุมผู้ก่อเหตุ มีอาการนิ่งเฉยและไม่ยอมพูดจา แต่เอะอะโวยวายบางครั้ง แพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ ได้ทำการรักษาด้วยการให้ยานอนหลับและการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบสารเสพติด



ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสระ โดย พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผู้กำกับการ สถานี้ตำรวจภูธรเวียงสระ ได้เร่งสอบสวนปากคำพยานแวดล้อม ,ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงแพทย์ผู้ทำการรักษา พบว่าสาเหตุมาจาก เมื่อเย็นของวันที่ 29 มี.ค. ผู้ก่อเหตุได้ไปเที่ยวงานวัดในพื้นที่และได้ดื่มสุรา จนมีอาการเมาจากนั้นได้กลับมาพักผ่อนบ้านที่เกิดเหตุ กระทั่งเช้าก่อนเกิดเหตุ มารดาได้ดุด่าหลานซึ่งเป็นลูกของพี่ชาย ทำให้ผู้ตายไม่พอใจเกิดมีปากเสียงทำให้ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพร้าฟันทำร้ายตัดศีรษะมารดา



จากการดำเนินการตรวจสอบประวัติ ผู้ก่อเหตุไม่เคยต้องคดีอาญา,ผลการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะไม่พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนและกัญชาแต่อย่างใดรวมถึงไม่อยู่ในบัญชีผู้ป่วย จิตเวชเฝ้าระวังของทางเจ้าหน้าที่



และจากการสอบสวนปากคำแพทย์ผู้ทำการรักษานายณัฐพร แพทย์ได้วินิจฉัยเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยจิตเภท ประเภทอาการหลอน หูแว่ว กระวนกระวาย ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าบุพการี ตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป



และนอกจากผู้ก่อเหตุแล้ว มีรายงานว่าพี่น้องของผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งรายมักเดินพูดคุยอยู่คนเดียว เช่นเดียวกับผู้ก่อเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่เคยพบเห็น