เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ลุย ‘กาสิโน’ ถูกกฎหมาย คลังจ่อชง ครม.ใน 2 สัปดาห์ – ก้าวไกล แจงล่มองค์ประชุม ปัดขัดขวางประเทศ

โดย nicharee_m

30 มี.ค. 2567

41 views

นายกฯ เผย เตรียมให้ ครม.ศึกษาและยื่นร่าง พ.ร.บ.กาสิโน บอกเราเสียเวลาและโอกาสมามากพอแล้ว รัฐบาลจะทวงคืนเวลาที่สูญเสียไปกลับมาเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ

วานนี้ 29 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความกรณีที่สภาฯ มีมติเห็นชอบผลการรายงานการศึกษาเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเมื่อวานนี้ว่า Entertainment Complex คือการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ เป็นการดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่ในสถานบันเทิงครบวงจรโดยมี casino เป็นแค่ส่วนหนึ่งในนั้นครับ ที่ผ่านมาประเทศสิงคโปร์สามารถดึงดูดการลงทุนได้กว่า 300,000 ล้านบาท เก็บภาษีได้ปีละกว่า 20,000 ล้าน และจ้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่งจากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรครับ

ดังนั้นถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน ประเทศไทยจะมีการลงทุน Mega project ขนาดใหญ่ โดยมีคณะกรรมการในการกำหนดแนวทางการพัฒนา เราจะสามารถมีสนามกีฬานานาชาติแห่งใหม่ มีศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ Concert Hall หรือพื้นที่จัดแสดงสินค้าพื้นบ้าน โดยพื้นที่ในการเล่นการพนันหรือ Gaming floor มีสัดส่วนเพียงแค่ 3-10% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้นครับ

การที่สภาฯ มีมติเห็นชอบผลการรายงานการศึกษาเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเมื่อวานนี้ ถือเป็นก้าวหนึ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาบ่อนพนัน โดยยึดหลักความเป็นจริง เอาเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมากำกับดูแล และเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง รัฐบาลไม่ได้ต้องการส่งเสริมการพนันครับ แต่ต้องการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล และนำรายได้จากการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่มาใช้ในการพัฒนาประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ ซึ่งหลังจากนี้ ครม.จะต้องศึกษาและยื่นร่าง พ.ร.บ.ให้สภาพิจารณาต่อไป

ที่ผ่านมา เราเสียเวลาและโอกาสมามากพอแล้วดังนั้น รัฐบาลจะทวงคืนเวลาที่สูญเสียไปให้กลับมาเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ และพี่น้องประชาชนครับ

ต่อมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เปิดเผยว่า คาดว่าจะเสนอรายงานศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์นี้

โดยประกอบกับข้อสังเกตจากคณะกรรมาธิการฯ รวมทั้งการยกร่างกฎหมายที่มีการศึกษาไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ครม.รับทราบทั้งหมดว่าเห็นควรให้ดำเนินการต่อหรือไม่ ทั้งนี้ หากที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุงร่างกฎหมายเดิมพร้อมศึกษารายละเอียดให้รอบด้าน

โดยสั่งการให้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นเจ้าภาพในการร่างกฎหมาย และนำกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร และหากไม่มีข้อติดขัดอะไร คาดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 3 ปี หรือภายในสมัยรัฐบาลชุดปัจจุบัน

“ในหลักการ สถานบันเทิงครบวงจรคงไม่ได้หมายถึงเปิดกาสิโนเพียงอย่างเดียว คงไม่ใช่การเปิดตึกหรือห้องแถวแล้วมีการพนันเช่นนั้น อย่างประเทศสิงคโปร์ มีการลงทุนหลัก 2-3 แสนล้านบาท และช่วง 15 ปีช่วยลดการพนันผิดกฎหมายจาก 2% เหลือ 0.2% ของจีดีพี สร้างรายได้เข้ารัฐกว่า 3 แสนล้านบาทในช่วง 10 ปี ยังไม่นับรวมเม็ดเงินที่ได้จากภาคการท่องเที่ยว”


“ก้าวไกล” แจงล่มองค์ประชุมรายงาน “กาสิโน” หลังฝ่ายรัฐบาลขู่ เตรียมขอคืนเวลาอภิปราย

วานนี้ (29 มีนาคม 2567) วิปฝ่ายค้านในสัดส่วนพรรคก้าวไกล นำโดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน , นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง ร่วมกันแถลงข่าวประเด็นการขอนับองค์ประชุมในการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 จนเกิดการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล

โดยนายชุติพงศ์ ชี้แจงว่า พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจให้รายงานฉบับนี้ผ่านไปโดยสมบูรณ์แบบที่สุด และเนื้อหาการอภิปรายเมื่อวานของ สส. หลายท่านทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ได้มีการอธิบายไปในทิศทางหลากหลาย และไม่สมบูรณ์หลายจุดมาก รวมถึงการแถลงของประธานกรรมาธิการเองก็มีข้อติดขัดหลายเรื่อง ซึ่งก็เหมือนยอมรับว่ามีความไม่สมบูรณ์อย่างไรบ้าง จึงอยากให้มีการถอนออกไปก่อน

แต่เมื่อประธานกรรมาธิการยืนยันจะให้เดินหน้าต่อ โดยไม่สนใจข้อทักท้วงของฝ่ายค้านที่ตั้งใจจะให้ผ่านอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากไปย้อนดูการอภิปรายเมื่อวานของตนในขณะที่ขอนับองค์ประชุม ก็ไม่ได้ ยกมือ ขอให้เพื่อนยกมือรับรองญัตติในฐานะองค์ประชุมแต่แรก เพราะตนอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้จนถึงที่สุดจริงๆ แต่เนื่องจากเราเป็นฝ่ายค้านนี่คือสิ่งเดียวที่เรามี จึงขอให้มีการตรวจสอบองค์ประชุม เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของทางรัฐบาลว่าจะผ่านให้ได้แน่ๆ ภายในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม ทั้งนี้ ขอชื่นชมรัฐบาลที่มีองค์ประชุมครบถึง 250 เสียง ซึ่งก็ควรเป็นหน้าที่ปกติที่ฟากรัฐบาลก็ควรจะทำให้ได้ เพราะว่าถือเป็นองค์ประชุมหลักที่อยู่ในห้องประชุมอยู่แล้ว

และอีกสิ่งที่ต้องขอแถลงคือตนในฐานะฝ่ายค้านยอมรับว่าที่ผ่านมาทำงานร่วมกันกับฝ่ายรัฐบาลด้วยดี และเคารพการทำงานด้วยกันตลอด ไม่อยากให้ไปถึงขั้นลงมติ แต่ก็มีการยกเรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาช้างป่าขึ้นมา ตนว่าไม่เป็นธรรม เพราะตนก็ถูกเบี้ยวกระทู้จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาโดยตลอด ซึ่งเราทำงานมาอย่างยาวนาน ก็อยากให้สภารวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด และไม่ได้มีแค่ตนที่เสนอญัตตินี้ในการตั้งกรรมาธิการ หนึ่งในผู้เสนอญัตติเพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาช้างป่า ก็คือ สส.จากพรรคภูมิใจไทย และเพื่อไทย ที่เข้าไปทำงานร่วมกัน ตนไม่อยากให้ยกประเด็นการเจรจาต่างๆที่มีการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน มาเป็นเงื่อนไขในการจะทำงานร่วมกัน เพราะก็เชื่อว่าทางพรรคภูมิใจไทยและพรรคอื่น เวลาเจราจาหรือทำงาน เราต่างยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง

“ขออย่าเป็นเกมเจ้าคิดเจ้าแค้น เราไม่ได้นับองค์ประชุมบ่อยหรอกครับ และทุกครั้งที่ทำ เรามีเหตุผลความเป็นธรรม และเพื่อประโยชน์อันสูงสุดของประชาชน”

ขณะที่นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ในรายงานกาสิโนฉบับนี้ไม่ได้มีการพูดถึงหรือเนื้อหา ในการแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันผิดกฎหมาย แต่เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นในด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ขออย่าเข้าใจผิดพรรคก้าวไกล ซึ่งเห็นด้วยกับการมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์อยู่แล้วผิด แต่เป็นเพราะผลการศึกษายังมีข้อกังวลหลายเรื่อง

“คุณคิดหรือว่าการตั้งเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะนำไปสู่การแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องบ่อนตามหัวเมืองต่างๆ ต้องยอมรับตรงๆ ว่าไม่ใช่ บ่อนตามที่ต่างๆ ยังเชื่อว่ายังไงก็ยังมี”

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะต้องทำออกมาอย่างอย่างดีที่สุด

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ที่ฝ่ายรัฐบาลจะขอเวลาคืนในการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ทำให้นายปกรณ์วุฒิ ขอตอบทันทีเลยว่า ถ้าพูดคุยเรื่องมติอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย ตนยังเก็บไฟล์เป็นหลักฐานไว้ จะได้รู้ว่าเราเคยตกลงกันว่าอย่างไร ซึ่งมติของเวลาอภิปรายก็เคยตกลงไว้แล้วว่าเอาอย่างไร

“การที่เอาเรื่องไม่เป็นทางการแล้วมาหักเรื่องที่เป็นทางการ ผมว่าก็อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลนัก การขอลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างรายงานกรรมาธิการเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) เป็นเหตุผลในด้านเนื้อหา ผมถามหน่อยครับว่าการที่เราไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่ง จะต้องนำไปสู่การขอเวลาคืนอภิปรายมาตรา 152 หรือครับ ผมเข้าใจดีว่าเมื่อวานก็มีอารมณ์ขุ่นมัว ขุ่นเคืองกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโกรธอะไรขนาดนั้นหนักหนา” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะมากพอ เมื่ออารมณ์เย็นลงก็คงไม่เอามาแก้แค้นกัน และใช้เวทีของฝ่ายค้านในการตรวจสอบที่ใหญ่ที่สุดรองจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ เอามาเป็นประเด็นในเรื่องนี้

นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ตนแปลกใจมากที่การขอนับองค์ประชุมเป็นเรื่องปกติมาก ถือเป็นอาวุธไม่กี่อย่างที่ฝ่ายค้านมีในฐานะเสียงข้างน้อย ตนก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ใช้อาวุธนับองค์ประชุมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรกันนักกันหนา หรือเรื่องที่ตั้งข้อสังเกตมีมูลจริงๆ “อย่าทำแบบนี้เลยครับ สุดท้ายแล้วมันจะสื่อได้ว่ารัฐบาลนี้มีการตรวจสอบรัฐบาลที่แล้วเสียอีก”

เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลทำจริงจะทำอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงทำอะไรไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นจริงแสดงว่าไม่ใช่เฉพาะวิปรัฐบาลเท่านั้น แต่ฝ่ายคณะรัฐมนตรีก็เห็นด้วย ดังนั้น ตนจึงขอฝากไปถึงครม.ว่าจะหนีกันง่ายๆแบบนี้ใช่หรือไม่

ทั้งนี้ หลังการแถลงนายปกรณ์วุฒิ ได้ส่งเอกสารมติ ระหว่างวิปให้สื่อมวลชนดู เพื่อยืนยันว่าเวลาอภิปรายตามมาตรา 152 ได้มีการตกลงไว้แล้ว


https://youtu.be/HOwWXrDcDX4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พรบ.กาสิโน ,ล่มองค์ประชุม

คุณอาจสนใจ