รวบ ผัว-เมีย หัวร้อน ขับบรรทุกไล่บี้กระบะ อ้างถูกขับจี้-บีบแตรใส่ก่อน แค่อยากให้จอดมาคุย

จากกรณี ที่มีคลิปขณะรถบรรทุกพ่วง 2 คัน พยายามขับเบียดรถกระบะ ความยาวของคลิปประมาณ 1.45 นาที

เริ่มต้นคลิปจะเห็นพฤติกรรมของรถบรรทุก 2 คัน ขับตีคู่กันมา จากนั้น รถบรรทุกคันหนึ่งพยายามขับไล่เบียด จี้ท้ายรถกระบะที่ขับอยู่ด้านหน้า ในช่องเลนขวาสุด โดยทำพฤติกรรมแย่ ๆ มาตลอดเส้นทาง

จนมีจังหวะหนึ่ง รถบรรทุกขับเบี่ยงเข้าเลนซ้ายสุด คล้าย ๆ ต้องการขับแซงไปอยู่ด้านหน้า คาดว่า จะขับไปปาดหน้ารถกระบะต่อ แต่เกิดเสียหลักไปเบียดรถตู้ที่ขับอยู่เลนกลาง ไม่เกี่ยวอะไรด้วย หวิดตกข้าง เหตุดังกล่าวเกิดบนถนนพหลโยธิน ลำไทร-วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

-------------

ความคืบหน้า วานนี้ (28 มี.ค. 67) เวลา 16.00 น. ตำรวจ สภ.วังน้อย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) ร่วมกันทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ทั้ง 2 คัน จนทราบว่า เป็นรถบรรทุกของผู้ประกอบการรายหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี

จึงได้ประสานเข้าไปตรวจสอบ จนกระทั่งทราบตัวผู้ขับทั้งสองราย คือ นายธนู จารุภูมิ และ นางสุนทรี จารุภูมิ สองสามีภรรยา จากนั้น ได้เชิญตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.วังน้อย จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะ ในเบื้องต้นไม่พบปัสสาวะเพียงสีม่วง จึงแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีในข้อหา “ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ต้องระหว่างโทษจำคุก 1ปี หรือปรับตั้งแต่ 5000 บาทถึง 20,000 หรือทั้งจำและปรับ

ด้านนายธนู ผู้ก่อเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเอง และภรรยาขับ รถบรรทุกพ่วง คนละคัน และเพิ่งกลับมาจากส่งของ โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้า วังน้อย - สระบุรี

กระทั่งมาถึงทางลงมอเตอร์เวย์ เข้าเขตอำเภอวังน้อย ซึ่งขณะนั้น รถของตนเองขับอยู่ที่เลนสาม รถกระบะคู่กรณีที่ขับตามหลังมาบีบแตรใส่ และเปิดไฟกระพริบ  และมีการขับไล่บี้กัน

ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าว พยายามจะเบรกให้ตนเองชนท้าย ทำให้ตนเองหัวร้อนเนื่องจากตนเองกำลังจะขับหลบ แต่รถกระบะคู่กรณีไม่ยอม ขับรถจี้ท้าย พยายามจะหาเรื่องตนเอง จึงโทรบอกกับภรรยาว่ามีปัญหาแล้ว ภรรยาจึงพยายามขับไล่บี้รถกระบะคันดังกล่าว เพื่อจะเรียกจอดถามว่าบีบแตรไล่บี้ทำไม

จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ภรรยาขับประกบท้ายรถกระบะ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะตบให้ตกถนน

ส่วนตนเองก็ตั้งใจจะขับไปประกบด้านหน้า เพื่อหวังให้รถกระบะคันดังกล่าวจอด แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ท้ายบรรทุกพ่วงที่ตนเองขับไปฟาดกับรถตู้ที่ขับอยู่เลนสอง จนได้รับความเสียหายที่บริเวณหูกระจกเล็กน้อย แต่ขณะนั้น ตนเองกำลังอารมณ์ร้อนอยู่ จึงไม่ได้จอดทันที จึงพยามขับรถตามไปให้รถกระบะคันดังกล่าวจอด รถตู้คันที่เสียหายก็ขับตามไป จนกระทั่งตนเองได้จอดริมทาง และก็มีการเคลมประกันกับรถตู้คันดังกล่าว

หลังจากเกิดกระแสข่าว ทำให้ตนเองถูกเจ้านายตำหนิ และถูกกระแสสังคมโจมตี ว่าเมายาบ้าแล้วขับขี่หรือไม่ ซึ่งตนเองขอชี้แจงว่า ตนเองนั้นไม่ได้เมาหรือเสพยาบ้า แต่เกิดจากที่ตนเองหัวร้อนจนเรื่องราวดังกล่าว ตนเองยอมรับผิดนับโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนเองหัวร้อนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ตนเองจึงอยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป และจะจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียน เนื่องจากตนเองก็ยังมีลูกเล็ก หากเกิดอะไรขึ้นอีกก็จะถูกเถ้าแก่ไล่ออกออกจากงาน

ด้าน พ.ต.อ สมเจตน์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ฝากประชาสัมพันธ์กับผู้ใช้รถใช้ถนน บนท้องถนนก็มีรถมากอยู่แล้ว เวลาขับรถควรจะใจเย็น ๆ ให้อภัยซึ่งกันและกัน ขณะขับรถอย่าใจร้อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย หรือบาดเจ็บ

-------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/p5NKX0EuxmY