‘เจ้าของเต็นท์รถ’ แจงยิบ เหตุติดจีพีเอสในรถ ‘ผู้เสียหาย’ ลั่น ถ้ามั่นใจว่าทำถูกก็ขอให้มั่นใจต่อไป

วันที่ 27 มี.ค. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ณัชชารินทร์ ผู้เสียหายและครอบครัว พร้อมด้วย เอ (นามสมมติ) เจ้าของเต็นท์รถ และพนักงาน โดยมี ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ร่วมให้ความเห็นทางด้านกฎหมาย ถึงกรณีที่ ผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรม หลังซื้อรถจากเต็นท์รถมือสองย่านบางนา ขับได้ 11 วัน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 ตามยึดรถ

ณัชชารินทร์ ผู้เสียหาย ร้อง ซื้อรถจากเต็นท์รถมือสองย่านบางนา ได้ 11 วัน ถึงรู้รถถูกศาลสั่งฟ้องค้างค่างวดและไม่ได้ต่อภาษีนานกว่า 3 ปี โดนไฟแนนซ์ตามทวง แถมเจอเต็นท์รถแอบติดจีพีเอส – ไมโครโฟน โดยไม่รู้ตัว น้องชาวถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นไฟแนนซ์ตามราวี ก่อนที่ “เจ้าของเต็นท์รถ” จะยอมรับว่า รถคันดังกล่าวมีปัญหาฟ้องร้องอยู่จริงและไม่ได้บอกกับลูกค้า

เอ (นามสมมติ) เจ้าของเต็นท์รถ ยอมรับว่ารถคันดังกล่าวถูกศาลสั่งฟ้องค้างค่างวดและไม่ได้ต่อภาษีนานกว่า 3 ปี โดยยอมรับว่ารถคันนี้ไม่ได้ต่อภาษีจริง ยังไม่ได้ปิดไฟแนนซ์ แต่ที่นำรถมาประกาศขายเพราะคิดว่าเรื่องที่อยู่บนศาลน่าจะจบแล้ว

ส่วนกรณีที่นำจีพีเอสและไมโครโฟน มาติดรถแล้วปล่อยขายรถมือสองให้กับลูกค้านั้น ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ เอ (นามสมมติ) เจ้าของเต็นท์รถ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “เราทำเพื่อป้องกันทรัพย์สินของเรานะคะ เพราะรถไม่ใช่ชื่อเขา เราไม่ได้ฟังเสียงลูกค้าเลยนะคะ เราไม่ได้ดักฟังหรือละเมิดสิทธิลูกค้าเลยนะคะ หนูไม่ได้มีเจตนาจะคดโกงเขา จีพีเอสเวลาลูกค้าจ่ายดีจ่ายตรง เราไม่ยุ่งอยู่แล้วค่ะ มันก็จะตัดของมันปกติ”

ทำให้ “ผู้เสียหาย” สวนกลับไปว่า “หนูจะเอารถไปคืน  ส่วนเรื่องเจ๊เต็นท์รถติดจีพีเอส หนูจะดำเนินเรื่องต่อ ถ้าเจ๊มั่นใจว่าเจ๊ถูก หนูก็ขอให้เจ๊มั่นใจให้ได้ตลอดค่ะ”

ด้าน “ทนายแก้ว” ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กรณีนี้เข้าข่ายหลอกลวง ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล เพราะผู้เสียหายไม่ได้ยินยอมให้ติดจีพีเอส และสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับเจ้าของเต็นท์รถได้