ชายปลิดชีพกลางโรงพยาบาล หลังถือซองมาคุยอดีตภรรยา พบเพิ่มเซ็นหย่าเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

กรณีเมื่อช่วงสายวันนี้ (25 มี.ค.) เกิดเหตุชายใช้อาวุธปืน ยิงตัวเองจนเสียชีวิต ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4 หลังเดินทางมาพบอดีตภรรยาที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลนี้


ทีมข่าวลงพื้นที่มายังโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร 3 ในโรงพยาบาล โดยจุดดังกล่าวมีการปิดกั้น ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปได้

ต่อมา พลตำรวจตรีธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เดินทางมายังโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยได้เปิดเผยสั้น ๆ ว่า จากรายงานเบื้องต้นได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 46 ปี เป็นอดีตสามีของแพทย์หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ภายในโรงพยาบาล ได้ถืออาวุธปืนพร้อมเอกสารบางอย่าง เข้าไปขอพบกับแพทย์หญิงคนดังกล่าว

ซึ่งทั้งคู่มีการพูดคุยกัน ก่อนแพทย์หญิงจะกลับไปทำงานตามปกติ จากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในโรงพยาบาล และทราบว่าทั้งคู่เพิ่งเซ็นหย่ากันเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดนั้น ขอขึ้นไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อน


หลังตรวจสอบประมาณ 1 ชั่วโมง พลตำรวจตรีธนันท์ธร ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาเพื่อขอพบกับแพทย์หญิงแผนกกุมารเวช ซึ่งเป็นอดีตภรรยา โดยทั้งคู่แต่งงานกันมาประมาณ 1 ปี ยังไม่มีลูก และเพิ่งจดทะเบียนหย่าได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการหย่า เพราะจากการสอบถามญาติของผู้ก่อเหตุก็ยังอยู่ในอาการตกใจ และยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาล และการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 10.07 น. ส่วนแพทย์หญิงเดินทางมาถึงเมื่อเวลา 10.11 น. โดยผู้ก่อเหตุมาหาเพื่อนำเอกสารมาให้ และได้เข้าไปพูดคุยกันภายในห้องตรวจไม่นาน แพทย์หญิงก็บอกให้นั่งรอ แล้วเข้าไปในห้องพักแพทย์ ซึ่งอยู่ด้านใน จังหวะนั้น ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนออกจากระเป๋า แล้วก่อเหตุยิงตัวเอง 1 นัด แพทย์หญิงจึงออกมาเรียกให้พยาบาลเรียกแพทย์ฉุกเฉินเพื่อมากู้ชีพ แต่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในเวลาต่อมา


จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างตัวผู้ก่อเหตุ และพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าอกทะลุหลัง และกระสุนไปโดนกำแพงทะลุออกไปด้านนอกอีกห้องหนึ่ง ทั้งนี้ ในตอนเกิดเหตุ ที่แผนกกุมารเวช ยังไม่มีผู้ป่วยเข้ามา มีเพียงเจ้าหน้าที่ 1-2 คนอยู่ภายในแผนกด้านนอกห้องตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งในกล้องจะเห็นเจ้าหน้าที่มีอาการสะดุ้งตอนเวลา 10.17 น. จึงคาดว่าก่อเหตุในเวลานั้น ซึ่งตอนที่เข้ามาที่โรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุมีท่าทีปกติ และใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งจากการสอบถามทราบว่า ไม่มีการโต้เถียงมีปากเสียงกัน จึงเป็นไปได้ว่าตั้งใจมาก่อเหตุ แต่ต้องรอตรวจพิสูจน์สาเหตุโดยละเอียดก่อน


จากข้อมูลทราบว่า ผู้ก่อเหตุประกอบอาชีพเป็นนักลงทุนอิสระ เป็นนักเทรดหุ้น จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากต่างประเทศ