แม่เล่าไทม์ไลน์ "ตำรวจหญิง" ตั้งแต่ก่อนเข้าฝึก ยันป่วย เผยลูกเป็นเด็กเรียนดี

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์เรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอที่เข้าไปฝึกในค่ายแห่งหนึ่ง แต่กลับทำให้อนาคตของตัวเขานั้นต้องดับสลาย ความสามารถต่าง ๆ ที่เคยมี วันนี้ได้สูญเสีย ตลอดระยะเวลาที่เป็นตำรวจมา 1 ปี ตัวเขานั้นต้องเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ป่วยจิตเวช


เรื่องเกิดขึ้นในค่ายแห่งหนึ่งจากที่ต้องไปเข้ารับการฝึกเป็นตำรวจ แต่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อนเตะถูกศีรษะ ซึ่งเพื่อนที่เตะไม่ได้ตั้งใจ แต่หลังจากไปพักรักษาตัว และกลับมาที่ค่าย ตัวเองกลับถูกดองเวร ถูกเอาเชือกฟาดขา ถูกพูดจาทำร้ายจิตใจทุกวัน กลางคืนไม่ได้นอน ไม่เคยได้พักตามหมอสั่ง ต้องทำท่าเอาหัวปักลงพื้น มันทรมานมาก ป่วยจนไอเป็นเลือด ออกมารักษาตัวและไม่ได้กลับไปฝึกอีกเนื่องจากมีอาการทางจิต ที่ผ่านมาหนูได้ทำหน้าที่ตำรวจอย่างดีที่สุดแล้ว ในระหว่างเขียนมีสติทุกประการ


เธอยังได้ตัดพ้อว่า ขอมอบทรัพย์สินทุกอย่างที่มีให้มารดาเพียงแต่ผู้เดียว ร่างของหนูได้มอบเป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว ไม่ต้องจัดพิธีใดๆ ค่ะ ปล.ขอบคุณแม่มากน้าที่เลี้ยงดูให้หนูเติบโตมาจนถึงวันนี้ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดชีวิตการป่วย รักแม่ รักยาย นะคะ ไม่รู้จะมีโอกาสมั้ย แต่อยากเกิดมาอยู่ด้วยกันอีกนะ ลาก่อนค่ะ #134อย่าโง่เอาหัวไปโดนเท้าเพื่อนอีกล่ะ


ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณแม่ของ ส.ต.ต.หญิง คนธรส ผู้เสียหาย เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ลูกสาวของตนเองเรียนจบนักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน 5 ปี เป็นว่าที่ ร้อยตรีหญิง ต่อมาเรียนมหาวิทยาลัยน้องเป็นนักเรียนทุน จบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เกรดเฉลี่ย 3.87 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการเงิน น้องเป็นเด็กเรียนดีมาโดยตลอด จากนั้นน้องได้มาสอบเป็นตำรวจ ด้วยการที่น้องเก่งคณิตศาสตร์ จึงได้คะแนนเต็ม ได้อันดับที่ 12 จากนั้นพอน้องสอบติด ได้ไปเทสร่างกาย โดยการวิ่ง 800 เมตร ว่ายน้ำได้ที่ 1 ของรุ่น เนื่องจากน้องเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก


หลังจากที่สอบเทสสภาพร่างกายผ่านหมดแล้ว ช่วงเดือน มีนาคม 2566 น้องเดินทางเข้าฝึกที่ค่าย ผ่านไป 2 วัน เป็นวันรับน้อง น้องถูกเตะที่ศีรษะ อยู่บริเวณหน้าค่าย จนศีรษะบวม 2 วัน ต่อมาตอนเคารพธงชาติ น้องมีอาการ อาเจียนออกมา ทางค่ายจึงส่งตัวน้องมารักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน


ซึ่งตอนนั้นคุณแม่อยู่กรุงเทพฯ ยังไม่รู้เรื่อง มาทราบเรื่องอีกที่ตอนที่เพื่อนสนิทของน้องที่อยู่ในค่ายโทรมาบอก


จากนั้นแม่รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลหัวหิน พอไปถึงคุณหมอวินิจฉัยไม่ตรงกัน ตอนนั้นมี ผบ.ร้อย มาคุยกับแม่ ไม่อยากให้ย้ายโรงพยาบาล แต่แม่ไม่ยอมจึงย้ายตัวน้องเข้ามากรุงเทพฯ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 20 มีนาคม 2566 รักษาตัวถึงวันที่ 29 มีนาคม 2566 จริง ๆ คุณหมอให้อยู่ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 แต่ทางค่ายโทรมาบอกว่า เดียวไม่มีเวลาเรียน ประกอบกับน้องเป็นเด็กเรียนอยู่แล้วจึงให้แม่ไปส่งวันที่ 29 มีนาคม 2567


พอแม่ไปส่ง แม่ได้นำใบรับรองแพทย์ไปยื่นให้ที่ค่าย โดยคุณหมอระบุว่าให้พัก 14 วัน ศีรษะห้ามกระทบกระเทือน ห้ามใช้เกี่ยวกับศีรษะ ทางค่ายต้อนรับเป็นอย่างดี บอกว่าจะดูแลน้อง แต่พอคุณแม่กลับมา 5 โมงเย็น ในวันเดียวกัน แม่มารู้อีกทีวันที่ 8 เมษายน 2566 เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์แม่เดินทางไปรับ น้องเล่าให้ฟังว่าโดนยืนเวรตั้งแต่วันแรกเลย น้องโดนยืนเวรทุกคืนตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 8 เมษายน 2566 หลังจากรับตัวน้องมาจึงพาน้องมาที่โรงพยาบาล น้องมีอาการ ไอเป็นเลือด ปอดติดเชื้อ จากนั้นหมอจิตเวชได้นัดน้องมาตรวจ จนรับเป็นผู้ป่วยจิตเวชตั้งแต่ตอนนั้น น้องรักษาตัวยาวมาจนถึงปัจจุบัน


รองผบช.น. ได้ให้ข้อมูลว่า ตำรวจหญิงอยู่ในความดูแลของ ผู้บังคับบัญชา และ แพทย์ อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง


จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 มี.ค.67) พบว่ามีข้าราชการตำรวจหญิงสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการเข้ามาเป็นตำรวจ 1 ปี การฝึก และการเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก


พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานข้อมูลดังกล่าวแล้ว โดยทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง จึงได้สั่งการให้พล.ต.ต. ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก. และ พ.ต.อ.วิษณุวัฒน์ ภู่ระหงษ์ ผกก.ฝอ. 4 ไปเยี่ยมข้าราชการตำรวจหญิงดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา พบว่า ส.ต.ต.หญิง คนธรส อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและมีอาการปลอดภัย


ปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ศักดาโยธิน ผบ.หมู่ ฝอ.4 บก.อก.บช.น. (ยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล) โดยได้พูดคุยกับทางคุณแม่ของส.ต.ต.หญิง คนธรส และได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


เบื้องต้นได้ให้ ส.ต.ต.หญิง คนธรส ได้อยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิดก่อน ส่วนในเรื่องการฝึกของน้องที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะได้ทำการเสนอเรื่องมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการฝึกอมรม ดังกล่าว และจะติดตามความคืบหน้าทันที


จากการตรวจสอบพบว่าส.ต.ต.หญิง คนธรส ได้มีการเข้าฝึกอบรมหลักสูตรกองร้อยน้ำหวาน ที่ บก.สอ.บช.ตชด. แต่ยังไม่จบหลักสูตรดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ก็ยังคงทำงานในตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล อย่างไรก็ตามขณะนี้ข้อมูลอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยงานที่ส.ต.ต.หญิง คนธรส เข้ารับการฝึกและครูฝึก โดยได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดตามความคืบหน้าอย่างทันท่วงที