เลือกตั้งและการเมือง

“อนุทิน” เปิดตัว 16 กก.บห.ภท. ยันผลัดวิตามิน ไม่ใช่ถ่ายเลือด “ไชยชนก” ไม่พลิกโผนั่งเลขาฯ

โดย paranee_s

24 มี.ค. 2567

740 views

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 มีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย


รองหัวหน้าพรรค 3 คน คือ

- นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล

- นายภราดร ปริศนานันทกุล

- นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ


นายไชยชนก ชิดชอบ เป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย


รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย 3 คน คือ

- นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์

- นส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์

- นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์


โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นเหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย และนส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย


ส่วนกรรมการบริหารพรรค จำนวน 5 คน ได้แก่

- นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล

- นายวรสิทธิ์ เลียงประสิทธิ์

- นายชลัฐ รัชกิจประการ

- นายธนยศ ทิมสุวรรณ

- นายจักรกฤษณ์ ทองศรี


โฆษกพรรคภูมิใจไทย มี 2 คน ได้แก่ นส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส่วน นส.ผกามาส เจริญพันธุ์ เป็นรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย


ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยทำงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 กำลังก้าวสู่ปีที่ 16 ในเดือนเมษายนนี้ เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน มี สส.เพิ่มมากขึ้นในทุกการเลือกตั้ง แสดงว่านโยบายการทำงานของพรรคภูมิใจไทยเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน เราเติบโตขึ้นจากการทำงานหนักแลกกับคะแนนความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน การเติบโตและการก้าวหน้าของพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่โตตามกระแส แต่โตด้วยผลงาน ปัจจุบันมี สส. 71 คน มาจากทั่วทุกภาคของประเทศ เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และทำงานอย่างหนักให้พี่น้องประชาชน ได้เกิด ประโยชน์สูงสุด ทำให้ประเทศไทยที่พวกเรารักเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน


15 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยพิสูจน์แล้วว่าเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีภารกิจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบการปกครองตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ เป็น DNA ของพรรคภูมิใจไทย เป็นนโยบายและภารกิจหลักของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในคำพูด เมื่อพูดแล้วต้องทำ เรากล้าประกาศนโยบายต่อประชาชน แม้จะมีความยากลำบากที่จะทำให้สำเร็จ แต่เราก็ทำให้เกิดความสำเร็จสูงสุด เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน เรายังไม่มีสิ่งใดที่เราให้สัญญากับพี่น้องประชาชนและยังไม่ได้ทำ


เมื่อถามว่า กก.บห.พรรคภูมิใจไทย เป็นคนรุ่นใหม่ถือว่าเป็นการถ่ายเลือดของพรรคครั้งใหม่หรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า “เป็นการผลัดวิตามิน”


ในฐานะแม่บ้านคนใหม่จะมีการปรับปรุงพรรคยังไงที่จะให้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ นายไชยชนก เผยว่า การเปรียบเทียบตำแหน่งเลขาพรรคเป็นแม่บ้านพรรค มีความเหมาะสม เพราะไม่ได้มีแม่บ้านเพียงคนเดียว ทุกคนช่วยกันมาตลอด หากเปรียบเสมือนพรรคเป็นบ้าน และมีสมาธิคนอื่นๆ ช่วยดูแล แม้บ้านจะรกแต่ทุกคนก็ช่วยกันเก็บ ช่วยกันปรับปรุง งานแม่บ้านก็จะไม่หนัก


นายอนุทิน เผยด้วยว่า พรรคภูมิใจไทยเติบโตทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทุกคนเป็นนักการเมืองโดยจิตวิญญาณ โดยสายเลือด ทุกคนมีความสุขที่อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง นี่คือสไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย ให้เกิดความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ พูดแต่เรื่องจับต้องได้ ไม่ใช่สัญญาลมๆ แล้งๆ การตอบสนองของประชาชนทำให้พรรคภูมิใจไทยโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง


การที่ถูกจับตามองว่าเป็นบ้านใหญ่ตระกูลชิดชอบคนที่ 2 ตำแหน่งเลขาฯ เป็นการล็อกตำแหน่งไว้ให้หรือไม่ นายไชยชนก ไม่ปฏิเสธ พร้อมระบุว่าการที่จะมองว่าตนเป็นหลานปู่ เป็นหลานอา เป็นลูกพ่อ เพราะประสบการณ์ที่ตนได้รับส่งเสริมให้เรียนรู้และพัฒนา เข้าใจได้เร็วพอสมควรในการเตรียมตัวเองให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่เครียดจะถูกมองบวกหรือลบ


“การเป็นทายาทมีผลบวกเยอะ แต่ผมต้องพิสูจน์ตัวเองและเป็นหน้าที่ของประชาชน สมาชิกพรรค ที่จะตัดสินจากผลงาน”


นายอนุทิน เสริมอีกว่า การที่มีคำถามนี้ออกมา เพราะหลายคนไม่เห็นกระบวนการทำงานในพรรค เราเป็นกรรมการบริหารชุดใหม่ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงและทุกการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้น ล้วนผ่านกระบวนการการปรึกษาหารือกับ สส.สมัยเก่า-สมัยใหม่ คณะบริหารชุดเก่า-ชุดใหม่ ไม่ได้เกิดขึ้นเอง พวกเราทำงานกันจริงๆ ไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว ทุกคนเห็นคุณค่าและประสบการณ์ของเจนเนอเรชั่นเก่า


“เวลาพูดถึงเจนใหม่-เจนเก่า ไม่ได้พูดถึงอายุ แต่พูดถึงการทำงานที่จะปรับเปลี่ยนและเตรียมตัว ให้ทันกับการเปลี่ยรแปลง ยืนยันไม่ใช่อายุ”


ส่วน กก.บห.ชุดใหม่ จะมีสิทธิในการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ครม. หรือไม่นั้น พรรคภูมิใจไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อถึงเวลา ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องกังวลอะไร


หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำว่า นี่คือผลผลิตของบ้านใหญ่ ที่มีประสบการณ์และบารมี นี่คือหลักการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนแปลงในขณะที่แข็งแรงไม่ใช่ไปรอจนหมดอายุแล้วค่อยเปลี่ยนแปลง สส.พรรคภูมิใจไทย อย่าไปหาประชาชนในพื้นที่ตัวเองตอนใกล้เลือกตั้งเท่านั้น เพราะเหมือนไปลาตาย ต้องเร่งเปลี่ยนแปลงในเวลาที่พรรคแข็งแรง มีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน และมีบุคลากรที่พร้อมทำงาน


“กก.บห.ชุดนี้ ไม่ใช่เด็กฝึกงาน ผ่านการทดลองงานทางการเมืองมาเรียบร้อย ผ่านสนามเลือกตั้งและเข้ามาทำหน้าที่ สส. ผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยในเรื่องฝีมือ ทำงานได้เลย ผมรอวันนี้มานาน หวังว่าวันหนึ่งผมจะต้องไปอยู่ร่วมกับ กก.บห.ชุดที่แล้ว และคอยให้คำแนะนำ กำลังใจกับคนรุ่นใหม่ของพรรค เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่ราบเรียบที่สุด ผมยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่วิธีการทำงานของผมจะไม่เหมือนกับการทำงานชุดที่แล้ว ต้องปรับตัวให้เข้ากับทั้ง 15 คน”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ