ใส่สบงแล้วทรงพลัง! 2 พระอริเก่าเก็บทรงไม่อยู่ ปล่อยหมัดซัดกันนัวกลางงานทำบุญบ้าน ‘พระพยอม’ ซัดต้องจับสึก

ใส่สบงแล้วทรงใส่เดี่ยว! พระต่อยกันนัวร์ขณะฉันเพลทำบุญบ้าน เจ้าของบ้านจับแยกส่งกลับวัด พระรูปอื่นแตกกระจายไม่ได้ฉันเพล ล่าสุดถูกจับสึก 1 รูป อีกรูปขับไล่ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงคณะสงฆ์ จ.สุราษฎร์ธานี เผย ทั้งคู่เป็นอริคับแค้นใจกันมานาน ด้าน ‘พระพยอม’ ลั่นไม่ควรเอาไว้ ถ้าไม่จับสึกจะไม่เข็ดหลาบ พระพวกนี้หน้าด้าน เบียดเบียนทำร้ายกันเอง  

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ซัน บุญเลี้ยง’ ได้โพสต์คลิปความยาว 14 วินาที เป็นเหตุการณ์ขณะที่พระสงฆ์กำลังนั่งฉันเพล และมีพระสงฆ์ 2 รูป ทะเลาะมีปากเสียงกันยืนชกต่อยซัดกันนัวภายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านได้นิมนต์พระมาทำบุญที่บ้านให้ตายายที่ล่วงลับไปแล้ว ทำให้ถ้วยแก้วตกแตกเสียหาย โดยเจ้าของบ้านและพระรูปอื่น ๆ ต่างเข้าไปห้ามปรามตะโกนบอกให้หยุด  

ขณะที่ผู้โพสต์ เขียนข้อความ ระบุว่า “ทำบุญรอบปีให้ตากับยาย #เช้านี้ #สาธุ99 #พระแทร่ ต้อง.....” ทางผู้โพสต์ยังคอมเม้นต์เพิ่มเติมว่าไม่เคยพบไม่เคยเห็นทั้งนี้มีคนเข้าไปคอมเมนต์แสดงความเห็นสอบถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ไม่เกรงใจผ้าเหลืองเลย

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังคุณซัน อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านในตำบลวัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเช้านี้ (21 มี.ค.) เวลาประมาณ 8 โมงกว่า เป็นการทำบุญประจำปีให้กับตาและยาย จึงนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีจำนวน 5 รูป จาก 2 วัด จากอำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอพุนพิน โดยระหว่างทำพิธี พระทั้งสองรูปไม่ได้นั่งอยู่ติดกัน นั่งเป็นรูปที่ 3 จากวัดอำเภอพุนพิน และรูปที่ 5 พระจากอำเภอบ้านนาเดิม

พอสวดเสร็จระหว่างถวายเพลให้พระแต่ยังไม่ทันได้ฉัน จู่ๆ ทั้งสองรูปก็เริ่มมีปากเสียงกัน “จะเอาไหม มึงจะเอาไหม” ซึ่งเหมือนจะเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าวันนี้ เกิดอะไรขึ้น พระรูปที่ 5 ก็ลุกขึ้นมาก่อน ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามีอะไร แต่สักพักก็มีปากเสียงกัน สักพักรูปที่ 3 ก็ยืนขึ้น ก่อนที่ต่างฝ่ายจะวิ่งเข้าหากัน ตนเองในฐานะเจ้าภาพ รวมถึงคุณพ่อ เพื่อนและพระ 1 รูป เข้าไปช่วยกันแยกพระทั้ง 2 รูปออกจากกัน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับวัด ยังไม่ทันได้ฉันเพล และให้พร

ซึ่งทราบมาว่าทั้งสองรูป เคยอยู่วัดเดียวกัน และเพิ่งทราบว่ามีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ก็เลยต้องแยกกันอยู่คนละวัด ซึ่งคุณซันเองไม่ทราบมาก่อน และไม่รู้ว่าบาดเหมางเรื่องอะไร แต่ส่วนตัวมองว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ควรจะเก็บอารมณ์ให้มันอยู่ หรือถ้ามันสุดจริงๆ ก็ไม่ควรใส่กันกลางงาน ควรกลับวัดไปก่อน ส่วนป้ายไวนิลงานแต่งงานเมื่อปี 61 ข้างหลัง ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นคลิปเก่าหรือไม่นั้น คุณซันยืนยันว่า เป็นงานแต่งของน้องตั้งแต่ปี 61 ซึ่งป้ายไวนิลนี้ก็ติดไว้ในบ้านและยังไม่ได้เอาออก

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดบ่อกรัง ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พบว่ามีพระฝ่ายปกครองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาที่วัดดังกล่าว เพื่อที่จะสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะดำเนินการตามวินัยสงฆ์   จากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น 8 โมงกว่า (21 มี.ค.) ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ในขณะที่เจ้าของบ้านได้นิมนต์พระจากวัดบ่อกรัง และสำนักสงฆ์บ้านเขาพลู เพื่อที่จะไปเจริญพระพุทธมนต์ ในช่วงที่มีการถวายเพลพระ พระสงฆ์ 2 รูป คือ พระชาญศิลป์  20 พรรษา อายุ 48 ปี จากวัดบ่อกรัง และพระอนุวัฒน์  อายุ 39 ปี 5 พรรษา จากสำนักสงฆ์บ้านเขาพลู ได้มีการปะทะคารมกันเกิดขึ้นก่อนที่จะลุกขึ้นชกต่อยกัน

พระชาญศิลป์  เผยว่า ตนถูกพระอนุวัฒน์ หาเรื่องก่อน ซึ่งปัญหาระหว่างตนกับพระอนุวัฒน์ มีมานาน โดยก่อนหน้านี้ตนก็ได้อยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านคลองพลู แต่โดนพระอนุมัติ กลั่นแกล้งจึงได้ออกมาขอพักที่วัดบ่อกรัง ซึ่งเมื่อเช้าในขณะที่กำลังจะฉันเพล พระอนุวัฒน์ ได้ตะโกนท้าทายตนและพยายามพุ่งมาจะทำร้ายตนก็ได้ลุกขึ้นสู้ จนได้รับบาดเจ็บมีรอยปูดที่หน้าผาก ซึ่งตอนนี้ตนไม่ยอมลาสิขาแต่จะขอออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อกลับไปภูมิลำเนาที่ จ.กาญจนบุรี

ต่อมา พระวชิรปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม(พระอารามหลวง) ได้มอบให้พระครูพิเศษธรรมทาน (นันทโชติ ชวโน) เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ซึ่งเป็นพระวินยาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ตำรวจพระ) ไปตรวจสอบเบื้องต้นพบพระที่ก่อเหตุทั้ง 2 รูป ไม่ใช่พระในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เป็นพระมาจากต่างพื้นที่มาพักอาศัยที่วัดในพื้นที่ อ.พุนพิน

พระครูพิเศษธรรมทาน พระวิญญาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีพระภิกษุสงฆ์ทะเลาะวิวาทเมื่อช่วงเช้า เมื่อถามไถ่แล้ว ทราบว่าเป็นเรื่องจากความไม่สบายใจมานานแล้วในเรื่องของการอยู่ร่วมกันและเก็บอารมณ์กันมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เก็บอารมณ์ไม่อยู่ก็เลยเกิดการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นในงาน

ในส่วนคณะสงฆ์มาตรวจสอบโดยให้ลาสิกขา 1 รูป ส่วนอีก 1 รูปให้ออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ไปยังภูมิลำเนาเดิม จ.กาญจนบุรี และได้แจ้งคณะสงฆ์ต้นสังกัดที่ จ.กาญจนบุรี ได้ทราบด้วย และเต็มใจที่จะออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ทั้งนี้ทางพระสงฆ์ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยของพระสงฆ์และรบกวนญาติโยมให้ช่วยกันลบคลิปที่แชร์ออกไปเพื่อความเรียบร้อยของพระสงฆ์

ขณะที่พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า พระนี้ก็แปลก ที่วัดก็ตี ขนาดโยมนิมนต์ไปบ้านก็ไปตี เขานิมนต์ไปเพื่อเสริมสิริมงคลแก่บ้านและครอบครัว ก็ไปตีกันเอง พระที่ไปด้วยก็น่าจะห้ามแต่กลับไม่ห้าม ซึ่งจะทำให้ญาติโยมพากันขาดศรัทธา แทนที่นิมนต์ไปจะได้รู้สึกเสริมสิริมงคล สบายใจ กลับต้องมานั่งเศร้าใจกับพฤติกรรมของพระเหล่านี้

พระพยอม ยังกล่าวอีกว่า ไม่ควรเอาไว้ ถ้าไม่จับสึก จะไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัวต่อความเสื่อมของศาสนา แสดงว่าความรับรู้ว่าตัวเองเป็นพระไม่เหลือต่อหน้าแขก ต่อหน้าคนที่มาทำบุญ พระพุทธเจ้าเรียกคนพวกนี้ว่า ทุมมังกุ แปลว่าพวกหน้าด้าน อยากให้โยมขึ้นแบล็คลิสไว้เลยสัก 3 ปี ว่าพระวัดไหน ไม่ควรนิมนต์มาอีก เพื่อให้ไปอบรมกันใหม่ข่มใจกันก็ไม่เป็น คงเป็นเพราะไม่เจริญเมตตาไม่แผ่เมตตาเบียดเบียนกัน นี่ขนาดเป็นพระยังเบียดเบียนกันทำร้ายกัน เป็นนักบวชต้องไม่ทำร้ายใคร กลับมาทำร้ายกันเอง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/mJsl9KQICls