สังคม

หมอวัย 70 ถูกหลอกลงทุนหุ้น สูญกว่า 12 ล้าน สุดช้ำมีประสบการณ์เล่นหุ้นกว่า 20 ปียังหลงกล

โดย paranee_s

20 มี.ค. 2567

3.8K views

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ บก.สอท.1 น.พ.สมศักดิ์ อายุ 70 ปี นายแพทย์ศัลยกรรมความงาม เดินทางมาร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เนื่องจากถูกแก๊ง Hybrid scam หลอกให้หลงเชื่อเเล้วลงทุน จนเสียค่าลงทุนไปกว่า 12 ล้านบาท ไม่สามารถถอนคืนได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สอท.1


โดยหมอสมศักดิ์ ระบุว่า ตนมีประสบการณ์การลงทุนหุ้นต่าง ๆ มากกว่า 20 ปี แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าหุ้นในประเทศไทยย่ำแย่และราคาตกอย่างหนัก ตนจึงตัดสินใจที่จะลงทุนหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศ เลยค้นหาในเฟซบุ๊กจนเจอกลุ่มชักชวนลงทุนหุ้นต่างประเทศ ตนจึงสมัครเข้าไปแล้วปรากฏว่า มีเฟซบุ๊กแพทย์คนหนึ่งทักมาเพื่อพูดคุยกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศ


โดยตนเห็นว่า มีอาชีพเดียวกัน จึงตัดสินใจพูดคุย ก่อนที่แพทย์คนดังกล่าว จะส่งข้อมูลของตนให้หญิงสาวคนหนึ่ง และหญิงสาวคนนั้นจะทักมาโดยใช้ชื่อว่า "จิน" ซึ่งหญิงสาวคนนี้นั้นอ้างว่า เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับระบบการลงทุนในแอปพลิเคชัน "CLC GROUP"


ตอนแรกตนยังไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะยังไม่เชื่อมั่น จนกระทั่งหญิงสาวคนนี้พยายามพูดคุยเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและถามเรื่องศัลยกรรมหน้า กอปรกับตนเห็นว่าโปรไฟล์หญิงคนนี้นั้นสวยและน่ารัก จึงตัดสินใจที่จะพูดคุยซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้มีการจีบในเชิงชู้สาว ซึ่งหญิงคนนี้เห็นว่ามีความรู้เรื่องของการลงทุนเป็นอย่างดี ก่อนที่หญิงคนนี้จะดึงตนเข้ากลุ่มไลน์ร่วมลงทุน ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวมีคนอยู่ในนั้นประมาณ 200 กว่าคน


ตนจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นต่างประเทศแห่งหนึ่ง โดยลงทุนครั้งแรกไปจำนวน 200,000 บาท ปรากฏว่า ตนได้กำไรกลับคืนมาถึงแสนกว่าบาท ซึ่งเห็นว่ามีเงินเข้าในระบบจริง กราฟในหุ้นก็มีความเคลื่อนไหวจริง จึงมองว่าเชื่อถือได้


อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากจะต้องมีการเพิ่มค่าดำเนินการเข้าไป แต่ตนก็ดำเนินการลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ จนถึง 12 ครั้ง ในช่วงระหว่างตั้งแต่ช่วง 16 มกราคม - 29 กุมภาพันธ์ เป็นเวลาเดือนครึ่ง รวมมูลค่าเงินลงทุน 12 ล้านบาท ซึ่งในระบบได้กำไรกว่า 44 ล้านบาท ผ่านการโอนเข้าบัญชีบุคคลส่วนตัว 4-5 บัญชี โดยคุณหมอยอมรับว่า ตนก็เอะใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล แต่ด้วยความที่น้องจินพูดคุยอธิบายอ้างว่า เป็นการโอนเพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ตนเลยเชื่อสนิทใจ


อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตนได้ไปตรวจสอบกราฟหุ้นต่างประเทศตัวจริง ซึ่งเห็นว่า กราฟตัวจริงกับกราฟในแอปมีตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน จึงทำให้ตนเริ่มเอะใจ กอปรกับตนได้เสียค่าภาษี 4.8 ล้านบาท และค่าบริการ 3.6 ล้านบาท เพื่อดำเนินการถอนเงิน แต่ก็ไม่สามารถถอนได้ เพราะน้องจินบอกว่า ต้องเสียค่าค้ำประกันอีก 4.8 ล้านบาท


ทั้งนี้ตนได้ไปสอบถามกับเพื่อนที่เป็นโบรกเกอร์ ซึ่งบอกว่าการถอนเงินไม่จำเป็นต้องมีค่าค้ำประกัน เพียงแค่ยืนยันตัวตนกับโบรกเกอร์เท่านั้น จึงทำให้ตนไม่โอนเงินค่าค้ำประกันและเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอก อีกทั้งตนได้หาข้อมูลจนพบว่า คุณหมอที่ปรากฏในเฟซบุ๊กที่ทักมาหาตนนั้น เป็นเฟซบุ๊กปลอมและหมอตัวจริงไม่รู้เรื่องกรณีนี้มาก่อน


อีกทั้งหมอตัวจริงได้มีการไปแจ้งความแล้วที่ จ.ระยอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าถูกปลอมเฟซ จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตนตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตนถูกหลอกร่วมลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ ผ่านการชักชวนพูดคุยให้หลงเชื่อสนิทใจ


โดยคุณหมอได้พูดเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อ อย่าคิดว่าตนเองแน่ ขนาดตนมีประสบการณ์ลงทุนกว่า 20 ปี ก็ไม่พ้นตกเป็นเหยื่อหลอกลงทุน


ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่าเคสนี้นั้นจะให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการประสานงานกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เพื่อนำสำนวนคดีมาตรวจสอบทางเทคโนโลยีให้ได้ตัวคนร้ายต่อไป และเตือนว่า การลงทุนกับหุ้นต่างประเทศขอให้ระมัดระวังให้ดี ควรจะต้องลงทุนกับหุ้นที่ได้รับการรับรองโดย กลต. โดยเฉพาะหุ้นในประเทศเท่านั้น อีกทั้งฝากเตือนถึงประชาชนว่า ให้ระมัดระวังการลงทุนทางออนไลน์หรือการถูกชักชวนให้ลงทุน การทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางออนไลน์ไม่แนะนำให้รีบโอน ควรตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะการลงทุนแบบกลุ่ม ควรระมัดระวังบัญชีให้ดี ถ้าเห็นบัญชีเป็นชื่อบุคคลทั่วไป ให้มองข้ามไปได้เลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ