นาทีกระบะฝ่าสายฝนพุ่งชนทะลุบ้าน คนขับฉวยโอกาสหลบหนี

จงจรปิดจับภาพรถกระบะซิ่งฝ่าสายฝนกลางดึก เสียหลักพุ่งเข้าชนบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำปิงจนทะละเข้าไปในตัวบ้านข้างของเสียหาย รถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าบ้าน ศาลพระภูมิ ม้าหินอ่อนกวาดไปเรียบ คนในบ้านรอดตายกันหวุดหวิด หนุ่มคนขับมากับหญิงยืนรอประกันรถมาเคลียร์ ก่อนคนขับฉวยโอกาสหายตัวชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเมาเพราะมีอาการออก



(19 มีนาคม67) ขณะที่ฝนกำลังตกลงมาได้มีรถยนต์กระบะที่ขับมาบริเวณถนนเลียบแม่น้ำปิง ต.สันผีเสื้อ จากสะพานบ้านท่อไปทางทิศเหนือ รถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว ก่อนที่จะมาถึงช่วงดังกล่าวซึ่งเป็นทางโค้งในชุมชน และมีบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ฝั่งติดแม่น้ำปิง และติดกับถนนแต่ไม่มีรั้วบ้าน จู่ๆรถคันดังกล่าวได้เสียหลัก และพุ่งมาด้วยความเร็วชนกวาดข้าวของที่อยู่หน้าบ้านทั้งรถจักรยานยนต์ 2 คัน ศาลพระภูมิเจ้าที่ ม้าหินอ่อน กระถางต้นไม้ และข้าวของอื่นกระจายเต็มพื้นที่ก่อนที่ตัวรถกระบะจะพุ่งเข้าไปชนตัวบ้านจนทะลุผนังบ้าน หัวรถเข้าไปอยู่ในตัวห้องโถงภายในบ้าน



นางสุธิดา ญาติของเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกันเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุครอบครัวก็นั่งทางข้าวกันท่ามกลางสายฝนเป็นปกติของครอบครัวใหญ่ที่จะนั่งม้าหินหน้าบ้านทานข้าว และนั่งพูดคุยกัน จนดึกดื่น แต่คืนที่ผ่านมาฝนตกจึงแยกย้ายกันเร็วขึ้น พากันเข้าห้องนอน ประมาณ 4 ทุ่มกว่า แต่ไม่นานยังไม่ทันได้นอนกันก็ได้ยินเสียงรถพุ่งมาด้วยความเร็ว และชนเข้ากับตัวบ้านข้าวของกระจายเสียงดังจึงพากันออกมา



โดยที่หน้าบ้านพบว่ามีรถกระบะ ทะเบียนกรุงเทพ พบว่ามากัน 2 คนคนขับเป็นผู้ชาย และผู้โดยสารด้านหน้าเป็นผู้หญิง ตอนลงมาจากรถพบว่าผู้ชายมีลักษณะคล้ายอาการเมา ก็ได้ช่วยกันพาผู้โดยสารที่เป็นหญิงออกมาจากรถ ช่วงนั้นเองมีรถเก๋งที่ขับตามมาเป็นผู้หญิงหลายคน ไม่แน่ใจว่าขับมาด้วยกันหรือเปล่า แต่เหมือนรู้จักกันมาช่วย ก่อนที่คนชายขับจะบอกว่าเป็นรถเช่าของบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ มีประกันชั้น 1 จึงได้เรียกประกัน ช่วงที่พูดคุยกันให้รายละเอียดอยู่นั้นจู่ๆ ชายคนขับก็ได้ฉวยโอกาสหายตัวไป โดยมีเพื่อนน่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันเพราะสวมเสื้อสีเขียวของพนักงานแห่งหนึ่งเหมือนกัน มาดำเนินเรื่องแทนเหมือนกับเป็นคนขับเสียเอง หลังจากนั้นตำรวจมาบันทึกหลักฐานต่างๆ แล้วเจ้าของบ้านก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.แม่ปิง และวันนี้ถึงจะเรียกไปเจรจากับคู่กรณี